ป.ป.ช.ภาค 3 รวบอดีตรองปลัด อบต.พิมาย อ.ปรางค์กู่ จ.สรีสะเกษ คดียักยอกเงินออกจากคลัง ความเสียหายกว่า 50 ล้านบาท เผยพยายามแต่งหน้าเปลี่ยนทรงผมให้เหมือนพี่สะใภ้อำพรางตัว หนีซุกปีกทนายความดัง แต่ไม่รอด
วันนี้(6ส.ค.)นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. กล่าวว่า เมื่อวันที่ 5ส.ค.ได้มอบหมายให้ งานสืบสวนคดีทุจริต ภาค 3 สำนักงาน ป.ป.ช. ภาค 3 ทำการจับกุม นางวาสนา พลทา หรือ น.ส.พิมพ์พิชชา พิมพ์พุทธชาติ อดีตรองปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลพิมาย อ.ปรางค์กู่ จ.ศรีสะเกษ ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 3 คดียักยอกเงินออกจากคลัง อบต.พิมาย รวมมูลค่าที่รัฐเสียหายกว่า 50 ล้านบาท
คณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิด นางวาสนา พลทาหรือ น.ส.พิมพ์พิชชา พิมพ์พุทธชาดและส่งเรื่องให้อัยการสูงสุด (อสส.) ดำเนินการฟ้องร้องดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่งผลให้ นางวาสนา พลทา หรือ น.ส.พิมพ์พิชชา พิมพ์พุทธชาติ ไหวตัว และมีพฤติการณ์หลบหนี โดยใช้วิธีการนำบัตรประชาชน และเอกสารหลักฐานแสดงตัวตนของพี่สะใภ้ มาอำพรางตนเอง ก่อนจะไปสมัครทำงานหนีซุกปีกทนายความคนดังรายหนึ่งในจังหวัดขอนแก่น ทำหน้าที่เป็นเสมียนทนายและเลขาคนสนิท
ในช่วงเวลา 07.00 น. เป็นเหตุบังเอิญที่ทนายความคนดัง รายนี้รับว่าความทำคดีให้กับผู้ถูกกล่าวหารายหนึ่งในเขตจังหวัดนครราชสีมา จึงมีความจำเป็นที่ทนายความพร้อมเลขาคนสนิทรายดังกล่าว ต้องเดินทางมายัง สำนักงาน ป.ป.ช. ภาค 3
เจ้าหน้าที่งานสืบสวนคดีทุจริต สำนักงาน ป.ป.ช. ภาค 3 ได้ดำเนินการแกะรอยและตรวจสอบข้อเท็จจริง จนกระทั่งยืนยันแล้วว่า “เลขาคนสนิทรายดังกล่าวนี้” คือ “นางวาสนา พลทา หรือ น.ส.พิมพ์พิชชา พิมพ์พุทธชาติ” บุคคลตามหมายจับของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 3 จริง แม้นางวาสนา พลทา หรือ น.ส.พิมพ์พิชชา พิมพ์พุทธชาติ จะทำทรงผม แต่งหน้าให้มีลักษณะเหมือนพี่สะใภ้ และอ้างตนว่าเป็นพี่สะใภ้ อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่งานสืบสวนคดีทุจริต สำนักงาน ป.ป.ช. ภาค 3 จึงวางแผนเข้าจับกุมตัวผู้ถูกกล่าวหารายดังกล่าว ซึ่งตอนแรก นางวาสนา พลทา หรือ น.ส.พิมพ์พิชชา พิมพ์พุทธชาติ ให้การปฏิเสธว่าตนไม่ใช่บุคคลตามหมายจับ แต่สุดท้ายแล้วเจ้าหน้าที่ฯ ก็ได้พูดคุยอธิบาย จนกระทั่ง ผู้ถูกกล่าวหารายดังกล่าวให้การยอมรับว่าตน คือ บุคคลตามหมายจับ
ในช่วงเวลา 15.00 น. เจ้าหน้าที่งานสืบสวนคดีทุจริต สำนักงาน ป.ป.ช. ภาค 3 จึงได้นำตัว นางวาสนา พลทา หรือ น.ส.พิมพ์พิชชา พิมพ์พุทธชาติ ไปทำบันทึกการจับกุม ณ สภ.เมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา ก่อนจะนำตัวส่งศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 3 เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป