xs
xsm
sm
md
lg

ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ เรื่องพรรคไม่รู้ ๆ แต่ที่ปารีส "ลุงป้อม" นำโชค ! ** สิงหาคม ห้วงระทึกการเมืองไทย ถึงขั้นเปลี่ยนพรรคร่วม - ปรับครม.หรือไม่ ต้องติดตาม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ - วิว กุลวุฒิ วิทิตศานต์ - จันทร์แจ่ม สุวรรณเพ็ง
ข่าวปนคน คนปนข่าว

++ ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ เรื่องพรรคไม่รู้ ๆ แต่ที่ปารีส "ลุงป้อม" นำโชค !

ขณะที่ภายในพรรคว้าวุ่นหนัก เต็มไปด้วยความขัดแย้งจากไฟที่สมาชิกสาดน้ำมันใส่กัน "ลุงป้อม" พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ผู้เป็นหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ดูจะไม่อนาทร ร้อนใจสักเท่าไหร่ พาตัวเองชิ่งเหินฟ้าไปปารีส ประเทศฝรั่งเศส ในฐานะ ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ตั้งแต่คืนวันที่ 1 ส.ค.ที่ผ่านมา

พลันไปถึงปารีสคิวของ “ลุงป้อม” ก็แน่นเอี๊ยดยิ่งกว่าทัพนักกีฬาไทย เพราะ ต้องตระเวนให้กำลังใจให้ลูกๆ หลานๆ ที่เข้าร่วมมหกรรมกีฬาโอลิมปิก ซึ่งครั้งนี้มีนักกีฬาไทยเข้าร่วมการแข่งขันมากเป็นประวัติการณ์ จำนวน 51 คน จาก 17 ชนิดกีฬา

"ลุงป้อม"เดินบ้าง นั่งวีลแชร์บ้าง ไม่ได้ยักแย่ยักยันอย่างที่หลายๆ คนคิด แถมใช้ใจบันดาลแรง หรือ ร่ายเวทย์มนต์คาถาอะไรไม่ทราบได้ เข้าไปเกาะขอบสนามเชียร์นักกีฬาไทยคนไหน ต่างก็เก็บชัยชนะได้

ตัวอย่างวันที่ไปดู "วิว" กุลวุฒิ วิทิตศานต์ แบตมินตันชาย พบกับ "ฉือหยู่ฉี" มือวางอันดับ 1 ของโลก จากจีน "วิว" ก็โชว์ฟอร์มสุดยอด เอาชนะได้แบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด

ว่ากันว่า "ลุงป้อม" นั่งเชียร์อย่างเดือด ทั้งปรบมือและส่งเสียง พอวิวชนะ ลุงถึงขั้นดีใจเก็บอาการไม่อยู่ด้วยความปลื้มปริ่ม

ความดีใจจากชัยชนะของ “วิว”ยังไม่ทันจางหาย"ลุงป้อม"เดินสายเข้าสนามมวยในวันต่อมา เพื่อร่วมลุ้นนักมวยไทยก็มีเรื่องน่ายินดีอีก เมื่อ “จันทร์แจ่ม สุวรรณเพ็ง”กำปั้นหญิงไทย ขึ้นชกในรุ่น 66 กิโลกรัม คว่ำนักชกประเทศตุรกี ลงได้

ฟังว่า “ลุงป้อม” เชียร์หนัก ส่งเสียงและปรบมือในจังหวะออกอาวุธของ “จันทร์แจ่ม”อย่างออกรสออกชาติ

“ลุงป้อม”เข้าชมทัพนักกีฬาไทยแล้วชนะติดๆกัน นอกจากขวัญกำลังใจมา งาน "อวย" ยิ่งต้องมา

ว่าแล้ว โฆษกพรรคพลังประชารัฐ “พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย” ก็จัดให้ว่า หรือ “ลุงป้อม”จะเป็น“มาสคอต”นำโชคให้กับทัพนักกีฬาไทย เข้าสนามไหน เชียร์ใครก็ชนะ

ขณะที่เจ้าตัวเจอสื่อไทยรุมตอมที่นั่นหลังจากโชว์ความขลัง ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ และ ถูกยิงคำถามถึงความคาดหวังว่าถ้านักกีฬาไทยจะคว้าเหรียญรางวัลโอลิมปิก ได้มากน้อยแค่ไหน !?

“ลุงป้อม” ตอบโดยไม่ลังเลว่า "ไม่รู้ๆๆ..ผมจะรู้ได้ไง!?" พร้อมกับเดินจากไปตามสไตล์

นี่ล่ะ ลุงป้อม..ไม่รู้ๆ ไม่ว่าจะเรื่องไหนๆ การเมืองมายันเรื่องกีฬา ไม่รู้ๆ

ทักษิณ ชินวัตร - เศรษฐา ทวีสิน - ภูมิธรรม เวชยชัย- อนุทิน ชาญวีรกูล
++ สิงหาคม ห้วงระทึกการเมืองไทย ถึงขั้นเปลี่ยนพรรคร่วม - ปรับครม.หรือไม่ ต้องติดตาม

ในเดือนสิงหาคมนี้ มรสุมการเมืองก่อตัว ก่อนโหมกระหน่ำ เพราะมี 3 คดีสำคัญ เป็นปัจจัยหลัก และทั้ง 3 เรื่องมีความเกี่ยวโยงสัมพันธ์กัน

เริ่มด้วย 7 สิงหาคม ศาลรัฐธรรมนูญนัดพิจารณาวินิจฉัยคดียุบพรรคก้าวไกล ต่อจากนั้นวันที่ 14 สิงหาคม ศาลรัฐธรรมนูญ นัดวินิจฉัยคุณสมบัติความเป็นรัฐมนตรี ของ “เศรษฐา ทวีสิน” นายกรัฐมนตรี จะสิ้นสุดลงหรือไม่ จากการแต่งตั้ง “พิชิต ชื่นบาน” เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และวันที่ 31 สิงหาคม “ทักษิณ ชินวัตร” พ้นโทษ ได้รับใบบริสุทธิ์

กรณีแรกเรื่องยุบพรรคก้าวไกล ถ้าผลออกมาเป็นบวก ก็คงไม่มีปัญหาอะไรมาก พรรคก้าวไกลก็ยังคงดำเนินกิจกรรมทางการเมือง ตรวจ แซะ รัฐบาลในฐานะฝ่ายค้าน หาคะแนนนิยมต่อไปเพื่อรอเวลาเลือกตั้ง

แต่ถ้าผลออกมาเป็นลบ กรรมการบริหารพรรคถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง แกนนำคนสำคัญ อย่าง พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ - ชัยธวัช ตุลาธน- ปดิพัทธ์ สันติภาดา และอีกหลายคน ก็จะต้องเว้นวรรคไป 10 ปี

นอกจากนี้ต้องหาพรรคใหม่ไว้รองรับสส. เพื่อดำเนินกิจกรรมทางการเมืองตามแนวทางของพรรคต่อไป โดยคนที่จะขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่ ที่มาแรงสุดตอนนี้คือ “ศิริกัญญา ตันสกุล” ขณะเดียวกัน ก็อาจมี “สส.งูเห่า”ย้ายข้ามขั้วไปสังกัดพรรครวมรัฐบาล

ที่เป็นไปได้มากสุดก็ คือไปซบพรรคพลังประชารัฐ เสริมแกร่งให้ “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ได้สอดแทรกไปลุ้นเก้าอี้นายกฯ

ดูจากข้อเท็จจริง ข้อกฎหมาย รวมทั้งปฏิกิริยา และภาษากาย ของแกนนำพรรคก้าวไกลในตอนนี้ก็พอจะคาดการณ์ได้ว่า ผลที่ออกมาไม่น่าจะเป็นบวก

ส่วนวันที่ 14 สิงหาคม หากศาลรัฐธรรมนูญตัดสินออกมาเป็นลบ “เศรษฐา ทวีสิน” พ้นตำแหน่งนายกรัฐมนตรี นั่นหมายถึง ครม.จะหลุดไปทั้งคณะ ต้องหาตัวนายกฯคนใหม่ ซึ่งคนที่มีสิทธิ์ที่จะขึ้นมา ก็คือผู้ที่มีชื่อเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคร่วมรัฐบาล ประกอบด้วย

“แพทองธาร ชินวัตร – ชัยเกษม นิติสิริ” จากพรรคเพื่อไทย “อนุทิน ชาญวีรกูล” จากพรรคภูมิใจไทย “พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ” จากพรรคพลังประชารัฐ “พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค” จากพรรครวมไทยสร้างชาติ

พิจารณาจากคนของพรรคเพื่อไทย “ชัยเกษม”นั้นเป็นแคนดิเดต เบอร์ 3 แว่วว่าตอนนี้มีข้อจำกัดเรื่องสุขภาพ ส่วน“แพทองธาร” ที่ถูกวางตัวให้เป็นแคนดิเดต เบอร์ 1 นั้นมีโอกาสมากว่า ด้วยว่าเป็นลูกสาวเถ้าแก่ แต่ในช่วงเกือบ 1 ปีที่ผ่านมา ที่เข้ามารับตำแหน่งหัวหน้าพรรค และดูแลเรื่องซอฟต์เพาเวอร์ ก็ “ไม่ปัง” เรียกได้ว่าชื่อชั้นยังไม่ได้ และเชื่อว่า“ทักษิณ” ยังไม่กล้าผลักดันให้ลูกสาวคนเล็กนี้ขึ้นนั่งเก้าอี้นายกฯ

โอกาสของ “อนุทิน ชาญวีรกูล” หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยจึงดูว่าจะสดใสกว่า โดยเฉพาะเมื่อได้ “สว.สีน้ำเงิน”มาเป็นแบ็กอีกแรง จนตอนนี้ถูกเรียกว่า “นายกฯสำรอง”

ส่วน“ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ แม้จะมีโอกาสเพียงน้อยนิด แต่ก็ยังไม่ถอดใจ จึงมีกระแสข่าวว่าพรรคพลังประชารัฐ พร้อมเปิดรังรับ “งูเห่า” จากพรรคก้าวไกล มาเสริมทัพ เพื่อผลักดันให้ “ลุงป้อม”ไปถึงฝัน ขณะที่ “พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค” หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เก็บตัวเงียบ ไม่มีความเคลื่อนไหวในเรื่องนี้

แต่ถ้าวันที่ 14 สิงหาคม ผลการตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญออกมาเป็นบวก “เศรษฐา ทวีสิน” เป็นนายกฯ ต่อไป และเมื่อ “ทักษิณ ชินวัตร” พ้นโทษในช่วงสิ้นเดือน ก็คาดหมายกันว่าหลังจากนั้นจะมีการปรับครม.เพื่อกระชับอำนาจ ถึงขั้นมีกระแสข่าวว่า อาจต้องแตกหักกับ “ลุงป้อม” ปรับพรรคพลังประชารัฐ ออกจากพรรคร่วมรัฐบาล แล้วดึงพรรคประชาธิปัตย์ มาเสียบแทน

คงไม่ลืมที่ “ทักษิณ” เคยพูดดังๆ ว่า การเมืองวุ่นอยู่ทุกวันนี้ เพราะคนบ้านป่าฯ

ด้าน “ภูมิธรรม เวชยชัย” รองนายกฯ และรมว.พาณิชย์ ในฐานะ “ผู้จัดการรัฐบาล” บอกว่า กระแสข่าวการปรับครม.เป็นเพียงข่าวลือจากภายนอก ยืนยันว่า นายกรัฐมนตรี ยังไม่เคยพูดถึงเรื่องนี้ รวมถึงพรรคร่วมรัฐบาล และภายในพรรคเพื่อไทย ก็ไม่เคยมีการพูดคุยกันถึงเรื่องปรับครม. หรือปรับพรรคร่วมเลย โดยเฉพาะเรื่องที่จะเอาพรรคประชาธิปัตย์มาเข้าร่วม ไม่รู้ว่าผู้ปล่อยข่าวมีความประสงค์อะไร

อย่างไรก็ตาม มั่นใจว่า วันที่ 14 สิงหาคมนี้ นายกฯได้ไปต่อ

ขณะที่ “เศรษฐา ทวีสิน” บอกว่ามี่ผ่านมายังไม่เคยมีการคุยกันเรื่องปรับครม.เลย ทุกคนมุ่งทำงาน แก้ปัญหาบ้านเมือง ปัญหาเศรษฐกิจ

"ผมไม่อยากคิดไปไกล การปรับเปลี่ยน ครม. เชื่อว่าตลอดระยะเวลาที่เหลือ 3 ปี แน่นอนว่าอาจมีการปรับเปลี่ยน ซึ่งถือเป็นเรื่องธรรมดา แต่ไม่มีการโยงใยกับวันที่ 14 ส.ค. หรือ กรณีของพรรคก้าวไกลที่มีการตัดสินวันที่ 7 ส.ค. ดังนั้น ขออย่าไปโยง เพราะจะทำให้เกิดความซับซ้อน และเข้าใจผิด เบี่ยงเบนความสนใจในประเด็นบางเรื่องที่เราต้องทำ อยากให้รัฐมนตรีทุกคนทำงานอย่างเต็มที่ ไม่มีความไขว้เขวในเรื่องนี้" นายกรัฐมนตรี กล่าวยืนยัน พร้อมบอกว่าตอนนี้ รัฐบาลมี 314 เสียง มันก็แน่นอยู่แล้ว รัฐบาลเข้มแข็งอยู่แล้ว จึงไม่จำเป็นต้องไปดึงเอาพรรคไหนมาเสียบ

ก็ต้องติดตามกันต่อไปว่า ในที่สุดแล้วศาลรัฐธรรมนูญ จะตัดสินออกมาอย่างไร และส่งผลถึงเสถียรภาพของรัฐบาลหรือไม่ เพียงใด


กำลังโหลดความคิดเห็น