วันนี้(2 ก.ค.)นายพยม พรหมเพชร อดีต สส.พรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า สมัยที่ตนเป็น สส.ของพรรคพลังประชารัฐ ได้มาสนิทกับนายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช ก็เพราะเป็นคนพาไปที่บ้านรอยต่อกว่า 10 ครั้ง ทำให้ได้สัมผัสรู้จักกับพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐโดยนายสามารถประสานงานกับพล.อ.ประวิตรอยู่ตลอดเวลา ตั้งแต่เป็นผู้ช่วยว่าการกระทรวงยุติธรรมและนายสามารถยังให้คำแนะนำตนเกี่ยวกับการอภิปรายในสภาด้วย ถือว่าเป็นบุคคลที่น่าคบ น่านับถือ ซึ่งตนยืนยันได้ว่านายสามารถไม่ได้แอบอ้างว่าสนิทกับพล.อ.ประวิตรแน่นอน เพราะนายสามารถเข้าไปหาพล.อ.ประวิตรได้ทุกเวลา และทุกวันนี้ก็ยกหูพูดคุยกันวันละหลายครั้ง
นายพยม กล่าวต่อว่า ลักษณะการทำงานของนายสามารถคล้ายๆกับ นายธนกร วังบุญคงชนะ สส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ เป็นองค์รักษ์ของพล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา สมัยเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งนายสามารถก็คือองค์รักษ์ของพลเอกประวิตรเช่นกัน เพราะเมื่อมีใครโจมตีพล.อ.ประวิตร ก็จะมีนายสามารถออกมาโต้ตอบแทนทุกครั้ง และก่อนที่นายสามารถจะทำอะไรก็จะโทรแจ้งให้ พล.อ.ประวิตรทราบตลอด อย่างเมื่อวันที่ 27 ก.ค.ที่ตนเดินทางไปแจกข้าวสารให้ชาวพัทลุงกับนายสามารถ ก็ติดต่อกับ พล.อ.ประวิตรตลอด ถึงเรื่องเพลงที่แต่งให้ พล.อ.ประวิตรว่าชอบหรือไม่ เผยแพร่ได้หรือไม่ ต้องขออนุญาตใคร ซึ่ง พล.อ.ประวิตร ก็บอกว่า เผยแพร่ได้ ตนก็ไม่คิดว่ามันจะขยายกว้างไปขนาดนี้
”ผมมองว่า เจตนาในการแต่งและเผยแพร่เพลงลุงป้อมของนายสามารถก็เพราะอยากจะให้กำลังใจ ซึ่งตนเชื่อว่านายสามารถหวังดีกับลุงป้อม 100% เพราะมองเป็นญาติผู้ใหญ่ แต่การมองของสมาชิกในพรรคคนอื่น ๆ จะมองอย่างไรนั้น ผมก็แปลเจตนาไม่ถูก แต่สิ่งสำคัญคือนายสามารถไม่ได้ต้องการจะข้ามหัวใคร เพราะทุกครั้งในการดำเนินการไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ผ่านการอนุญาตจาก พล.อ.ประวิตรมาแล้วทุกเรื่อง และการที่ตนได้เข้าสมัครเป็นสมาชิก พปชร.อีกครั้งหนึ่ง ก็เป็นเพราะนายสามารถที่ช่วยประสานให้ตนได้เข้าไปกราบขอโทษพล.อ.ประวิตรที่เคยทิ้งพรรคไปก่อนหน้านี้”นายพยม กล่าว
ส่วนกระแสข่าวที่ระบุว่า พล.อ.ประวิตรไม่พอใจนายสามารถและอาจจะมีการขับออกจากพรรค นายพยม กล่าวว่า เรื่องขับออกจากพรรคตนคิดว่า คงไม่มีการขับ แต่ช่วงนี้ขอให้นายสามารถอยู่เฉยๆสักระยะหนึ่ง เพราะกรรมการบริหารพรรครวมถึง สส.บางส่วนไม่พอใจนายสามารถอย่างแรง เพราะมองว่ามาคิดการใหญ่ โดยที่ยังเป็นพรรคร่วมรัฐบาลอยู่ ซึ่งก็เป็นเพียงความหวังดีของนายสามารถว่า หากนายกรัฐมนตรีเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองขึ้น พล.อ.ประวิตรก็ยังมีโอกาสที่จะได้รับความไว้วางใจจากสภาฯให้เป็นนายกฯได้ แต่มีการแปรเจตนาที่ไม่เหมือนกัน
“ผมยืนยันได้ว่า พล.อ.ประวิตรไม่ได้สั่งการให้ปลดนายสามารถ เพียงแค่ให้ชะลอก่อน เงียบสักระยะหนึ่งก่อน แต่ตามระเบียบข้อบังคับพรรค กรรมการบริหารพรรคก็สามารถขับสมาชิกพรรคได้ตามอำนาจแต่ สมาชิกคนนี้นั้นเชียร์หัวหน้าพรรค จงรักภักดีต่อหัวหน้าพรรค ถ้าปลดก็คงแปลกมากๆ แต่ยังไม่ไปถึงจุดนั้น ซึ่งเรื่องนี้ไม่ได้มาจากการสั่งการของพล.อ.ประวิตร แน่นอน เพราะเป็นเพียงความไม่พอใจของ สส.ในพรรคบางกลุ่มเท่านั้น จึงมีการพยายามใส่ร้ายปล่อยข้อมูลเท็จออกมาตลอดเวลา ตนจึงต้องออกมาพูดให้สังคมได้เข้าใจในสิ่งที่ถูกต้อง ตนก็รักพรรคพลังประชารัฐ ตนเองก็เคยได้คะแนนสูงที่สุดในจังหวัดสงขลามาแล้ว จึงต้องออกมาบอกความจริงให้สังคมเข้าใจ”