วันนี้(1 ส.ค.)นายจำลอง ภูนวนทา สส.กาฬสินธุ์ เขต 3 พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)กล่าวหารือในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรถึงสถานการณ์ปัญหามันสำปะหลังว่า ได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบพบว่า ราคารับซื้อมันสำปะหลังตกต่ำที่สุดในรอบ 9 ปี โดยต้นทุนการผลิตของผู้ปลูกมันสำปะหลัง ไม่คุ้มกับราคาต้นทุน ปัจจุบันจังหวัดกาฬสินธุ์ราคามันสำปะหลังอยู่ที่ 1 บาทกว่า ไม่ถึง 2 บาท ซึ่งต้นทุนการผลิต จุดคุ้มทุนอยู่ที่ 3 บาท เพราะต้องมีค่าไถ 750 บาทต่อไร่ ,ค่าพันธุ์ 500 บาทต่อไร่,ค่าปลูก 800 บาทต่อไร่,ค่าดายหญ้า 800 บาทต่อไร่,ค่าปุ๋ย ค่าแรง 1,100 บาทต่อไร่,ค่าไถกลบไถเบิก 500 บาทต่อไร่,ค่ารักษาโรคใบด่าง โรคใบหยิก 200 บาท,ค่าโดรนฉีดยาอีกไร่ละ 100 บาท,ค่าเก็บผลผลิตไร่ละ 600 บาท
นายจำลอง กล่าวต่อว่า ส่วนค่าเช่าที่ธนารักษ์สำคัญ ในพื้นที่ท้ายเขื่อนห้วยเม็กหนองกุงศรีท่าคันโท ที่อยู่ท้ายเขื่อนลำปาว ปีไหนที่น้ำหลาก เขาเก็บน้ำเยอะก็ปรากฏว่า น้ำท่วมแต่ไม่ได้รับการชดเชย เรื่องนี้อยากให้รัฐบาลตระหนักว่า ถ้าพี่น้องเกษตรกรปลูกมันสำปะหลังอยู่ท้ายเขื่อนถูกน้ำท่วมก็ให้ชดเชยด้วย ทั้งนี้ ค่าใช้จ่ายรวมเบ็ดเสร็จอยู่ที่ 7,185. 65 บาท นี่คือต้นทุน ปัจจุบันนี้ถ้ากิโลละ 2 บาท ไร่ละประมาณ 3 ตันคิดเป็น 6,000 บาทจะติดลบอยู่ 1,185.65 บาท เกษตรกรผู้ปลูกมันสําปะหลังติดลบ ส่งผลต่อผลผลิตเสียหาย
“ผมมีวิธีแก้ไขคือ ลดต้นทุนการผลิตและขอกราบเรียนนโยบายรัฐบาลที่แพลนออกมาว่าปุ๋ยขึ้นราคา จริงๆแล้วเป็นประโยชน์ เป็นการลดต้นทุนปุ๋ย ที่ผ่านมาปุ๋ยถุงละ 60 บาท ปัจจุบันนี้ถุงละ 1,000กว่าบาท รวมถึง ประกันราคามันสำปะหลังเกษตรกรผู้ปลูกมัน 3 บาทต่อกิโลกรัม นอกจากนี้ พี่น้องที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม แต่ไม่ได้รับการชดเชยในการเช่าที่ธนารักษ์ ซึ่งควรจะชดเชยให้เขา เพราะธนารักษ์เอาค่าเช่ากับเขาไปแล้ว”นายจำลอง กล่าว
นายจำลอง กล่าวต่อว่า หากย้อนไปในอดีต ปัญหาราคาสำปะหลัง ถึงขั้นมีการปิดรัฐสภาที่ถนนอู่ทองใน เพราะพี่น้องเกษตรกรเกิดความเดือดร้อนจึงเกิดความวุ่นวาย จึงขอให้กระทรวงพาณิชย์ช่วยเหลือเยียวยาในการประกันราคามันสำปะหลังให้กับพี่น้องเกษตรกรอย่างน้อยกิโลกรัมละ 3 บาท ถึงจะมีกำไรและจุดคุ้มทุนอยู่ตรงนั้น