xs
xsm
sm
md
lg

กมธ.การเมืองชงรายงานสร้างพรรคเข้มแข็ง แก้ยุบเลิกตัดสิทธิ-ครอบงำได้ "อดิศร" หนุนลั่นไม่มีเจ้านายชื่อกกต.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



"กมธ.การเมือง" สภา ชงรายงานสร้างพรรคเข้มแข็ง เสนอแก้ พ.ร.ป. ให้พรรคเกิดได้ อยู่ได้ ตายยาก ปรับกรอบยุบพรรค เลิกตัดสิทธิเลือกตั้ง เปิดทางคนนอกครอบงำได้ “อดิศร” หนุนหลังเจ็บมาหลายหน ลั่นพรรคไม่มีเจ้านายชื่อกกต. อวยพรก้าวไกลชนะคดี 7 ส.ค.

วันนี้ (1ส.ค.) ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ เป็นประธานการประชุม ได้พิจารณา รายงานศึกษาของคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน เรื่อง ข้อเสนอในการส่งเสริมสถาบันพรรคการเมือง ให้ยึดโยงกับประชาชน

โดยนายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ฐานะประธานกมธ.การพัฒนาการเมือง กล่าวรายงานตอนหนึ่งว่าในแนวทางการศึกษามีโจทย์ คือ ให้พรรคการเมืองเกิดได้ อยู่ได้ ตายยาก เพื่อสร้างระบบการเมืองที่มีประสิทธิภาพ และทำให้พรรคสามารถจัดตั้งได้ง่าย โดยลดเงื่อนไขการจัดตั้ง เช่น ทุนประเดิม 1 ล้านบาท ให้มีผู้ร่วมก่อตั้งพรรค 500 คน และลดปริมาณเอกสารรวมถึงเงื่อนไขที่ไม่สามารถทำผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ได้ รวมถึงข้อกำหนดของการมีสาขาพรรคที่ทำให้การเกิดพรรคการเมืองที่ขับเคลื่อนเชิงประเด็นหรือเชิงพื้นที่ได้ยาก นอกจากนี้มีบทเพื่อสนับสนุนการขยายฐานสมาชิกพรรคที่รวดเร็ว โดยให้ประชาชนสมัครสมาชิกได้ง่าย ลดเอกสารการสมัครหรือบังคับให้พรรคเก็บค่าสมัครสมาชิก

นายพริษฐ์ กล่าวด้วยว่าในประเด็นที่ทำให้พรรคการเมืองอยู่ได้ ทั้งนี้การทำพรรคให้อยู่ได้ในทางการเงิน โดยมีข้อเสนอปรับกติกาให้พรรคการเมืองสามารถระดมทุนจากประชาชนและผู้บริจาครายย่อยได้ง่าย เช่น ขายสินค้าออนไลน์ และทำให้การระดมทุนจากผู้บริจาครายใหญ่ทำได้ยากขึ้น เพื่อป้องกันการครอบงำโดยทุนใหญ่ รวมถึงลดเงื่อนไขที่จะเพิ่มค่าใช้จ่ายทางธุรการ เช่น ให้จัดประชุมพรรคผ่านออกนไลน์ได้ ลดข้อห้ามการนำเงินไปทำกิจกรรรมใดๆทางการเมือง

ประธานกมธ.การเมือง กล่าวด้วยว่าส่วนประเด็นการทำให้พรรคการเมืองตายยาก ซึ่ง 17 ปี มีพรรคการเมืองที่ถูกยุบโดยศาลรัฐธรรมนูญ ถึง5พรรค ทั้งนี้ตนไม่ปฏิเสธกับการลงโทษพรรคการเมืองที่ทำผิดและได้พิสูจน์โดยองค์กรที่เป็นกลาง และบังคับใช้กับผู้กระทำผิดอย่างจำกัดและได้สัดส่วนกับฐานความผิด ดังนั้นข้อเสนอ คือ ปรับรายละเอียดให้เหมาะสม สมดุลและได้สัดส่วน เช่น ลดสภาพบังคับให้ทำไพรมารี่โหวต การมีสาขาพรรคตามจำนวนที่กฎหมายกำหนดในเวลาที่กำหนดซึ่งมีผลให้พรรคต้องสิ้นสภาพหากไม่ทำตาม เป็นมาตรการที่เป็นการสร้างแรงจูงใจทางการเมือง ผ่านการสนับสนุนจากกองทุนพัฒนาการเมือง

“นอกจากนั้นคือ ทบทวนเงื่อนไขการยุบพรรคให้สอดคล้องกับหลักสากล และเป็นมาตรการสุดท้ายสำหรับกรณีร้ายแรง ไม่ใช่ใช้กลั่นแกล้งทางการเมือง เช่น กรณีทุจริต ทำผิด เกี่ยวกับการบริหารจัดการพรรค เปลี่ยนจากการลงโทษโดยยุบพรรค เป็น ลงโทษกรรมการบริหารพรรครายบุคคหรือคณะ ส่วนกรณีข้อหาล้มล้างการปกครอง ให้ยุบพรรคเฉพาะกรณีที่พรรคได้ทำการล้มล้างการปกครองที่มีคำพิพากษาถึงที่สุดว่าทำผิดอาญาว่าด้วยล้มล้างการปกครอง นอกจากนี้ให้ยกเลิกบทลงโทษว่าด้วยการเพิกถอนสิทธิลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง ที่เป็นสิทธิพื้นฐานของประชาชน” ประธานกมธ.การเมือง กล่าว

นายพริษฐ์ กล่าวด้วยว่า ข้อเสนอขอกมธ.นั้นเพื่อทำให้พรรคการเมืองยึดโยงพับประชาชน และมีกติกากำกับที่เสรี เป็นธรรม ทันสมัยและสากล หลังจากรับฟังอภิปายและข้อเสนอแนะของ สส. หวังว่าทุกพรรคร่วมกันเสนอร่างแก้ไข พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมืองฉบับกลาง เพื่อผลักดันให้ให้เกิดขึ้น

“ไม่รู้ว่าโชคชะตาเล่นตลกหรือไม่ ที่ทำให้รายงานมีข้อเสนอแก้ไข พ.ร.ป.พรรคการเมืองและเงื่อนไขยุบพรรคเข้าสู่สภา ไม่ถึงสัปดาห์ ที่พรรคต้นสังกัดผมจะตัดสินยุบพรรค ตามพ.ร.ป.พรรคการเมืองที่ใช้ปัจจุบัน ทั้งนี้ข้อเสนอไม่สามารถเปลี่ยนแปลงเชิงกฎหมายได้ทันกับคำวินิจฉัยยุบพรรคพรรคก้าวไกลวันที่ 7 ส.ค. นี้ ขอให้สบายใจและไว้วางใจว่าไม่ได้เสนอเพื่อผลประโยชน์พรรคใด แต่ยืนยันหลักการที่ถูกต้องและยกระดับสุขภาพของประชาธิปไตยในประเทศไทย” นายพริษฐ์ กล่าว

นายพงศธร ศรเพรชรนรินทร์ รองประธานคณะกรรมาธิการ กล่าวรายงานช่วงหนึ่งว่า กรรมาธิการฯมีการแก้ไขให้ยกเลิกโทษเรื่องการครอบงำพรรคจากบุคคลภายนอก การยินยอมให้บุคคลใดมีบทบาทภายในพรรคควรเป็นสิทธิเสรีภาพของพรรคนั้นๆ ไม่ควรใช้กฎหมายไปกำหนดหลักเกณฑ์เพราะจะสร้างปัญหาในการตีความและปัญหาทางการเมืองขึ้นมาได้ ส่วนหมวดการสิ้นสุดพรรคการเมืองนั้น ควรให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสิน ไม่ควรมีองค์กรใดมาตัดสินชี้ขาด ให้พรรคการเมืองนั้นยุติหรือสิ้นสุดลง ยกเว้นกรณีเดียวคือการกระทำในข้อหาล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และต้องมีคำพิพากษาถึงที่สุดว่าเป็นการกระทำผิดทางอาญาเกี่ยวกับการล้มล้างการปกครองแล้วเท่านั้น จึงจะส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคได้ เพื่อไม่ให้มีการเปิดช่องให้ใช้ดุลยพินิจการคาดเดาหรืออนุมานเอาเองจากคำที่บอกว่า“อันเชื่อได้ว่า” หรือ“ อันอาจจะ” แต่ควรจะเป็นการกระทำที่ชัดเจนเท่านั้นเพื่อไม่ให้มีการบิดเบือนข้อเท็จจริง

นอกจากนี้ยังมีแนวทางแก้ไขในส่วนบทลงโทษตัดสิทธิ์เลือกตั้ง โดยยกเลิกไป ไม่ว่าจะเป็นความผิดฐานใด คนไทยทุกคนควรมีสิทธิ์เลือกตั้ง และโทษการเพิกถอนสิทธิ์สมัครรับเลือกตั้งที่ปัจจุบันไม่มีการกำหนดเพดานเอาไว้ ควรแก้ไขว่าไม่ว่าจะเป็นโทษใดให้มีเพดานสูงสุดไม่เกิน5 ปี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสมาชิกส่วนใหญ่จากพรรคก้าวไกลต่างอภิปรายสนับสนุนรายงานดังกล่าว โดยเฉพาะประเด็นโทษการยุบพรรคการเมือง มีการยกตัวอย่างการจะตัดสินยุบพรรคในวันที่7 ส.ค.นี้ ขณะที่สส.จากพรรคเพื่อไทยบางส่วนก็อภิปรายเห็นไปในแนวเดียวกัน

นายอดิศร เพียงเกษส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวสนับสนุนว่า เป็นรายงานที่ตรงไปตรงมาคืออยากให้ประเทศนี้เป็นประชาธิปไตยโดยแท้จริง พรรคการเมืองเกิดง่ายแต่ต้องตายยาก ตนไม่อยากให้มีองค์กรใดยุบพรรคการเมือง หวังว่ากกต.ทั้ง9 คนคงเปิดวิทยุฟังอยู่ ท่านไม่ได้มาจากการเลือกตั้งของประชาชน ไม่ได้ยึดโยงชาวบ้าน ตนเป็นกรรมการบริหารพรรคไทยรักษ์ไทยถูกรัฐประหารโดยคมช. สั่งยุบพรรค และตัดสิทธิ์กรรมการ 111 คนทั้งที่ไม่มีโอกาสโต้แย้งแม้แต่ 1 วินาที กว่าจะกลับเข้าสภาได้ก็ 17 ปี ตนไม่อยากเห็นสภาพวันที่7 ส.ค.เกิดขึ้น

“ผมขอให้กำลังใจส.ส. ก้าวไกล และอยากจะไปฟังด้วย ยุบได้ยุบไป พวกผมถูก ยุบพรรคไทยรักษ์ไทย มาพลังประชาชนก็ยุบอีก เพื่อไทยนี่ไม่รู้จะโดนหรือเปล่าก็พยายามเลี่ยงๆอยู่ พอยุบทีมันก็เจ็บปวดเหมือนกัน ฉะนั้นเลิกเสียทีการยุบพรรคการเมืองด้วยคำวินิจฉัยของใครบางคน ขออวยพรให้วันที่7 ของท่านจงชนะด้วยความจริงใจ “

นายอดิศรกล่าวว่าตนขอชื่นชมกรรมาธิการฯที่พยายามแก้ไขในสิ่งที่บกพร่องพรรคการเมืองไม่ใช่สวนราชการจะให้มีเจ้านายชื่อกกต. เดี๋ยวนี้เปรียบเสมือนผู้บังคับบัญชาของพรรคการเมือง จะให้เงินทีเหมือนจะเป็นขอทาน ขอให้ประธานกรุณาหาบรรจุรายงานนี้เข้าสภาให้เร็วที่สุด พรรคการเมืองยึดโยงกับประชาชนเมื่อไหร่นั่น คือประชาธิปไตยจะผลิ หากพรรคการเมืองมีระเบียบแบบแผนมากมายทำซ้ายขวาผิดหมดนั่นไม่ใช่พรรคการเมือง แต่เราถูกควบคุมไม่ต่างกับนักโทษการเมือง


กำลังโหลดความคิดเห็น