xs
xsm
sm
md
lg

"หมอโอภาส"ไม่ไหวจะทน "หมออัมพร" ดื้อตาใส "เวชปฏิบัติ" ตัดฟ้าทะลายโจร เบื้องหลังคำสั่งหักอธิบดี ** "ทักษิณ" อ้างโรคเก่ากำเริบ ยื่นขอไปรักษาตัวที่ดูไบ ศาลไม่บ้าจี้ตาม จึงไม่อนุญาต บอกหมอไทยก็รักษาได้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ - แพทย์หญิงอัมพร เบญจพลพิทักษ์ - ทักษิณ ชินวัตร
ข่าวปนคน คนปนข่าว



++ "หมอโอภาส"ไม่ไหวจะทน "หมออัมพร" ดื้อตาใส "เวชปฏิบัติ" ตัดฟ้าทะลายโจร เบื้องหลังคำสั่งหักอธิบดี

กระทรวงสาธารณสุขตอนนี้ต้องบอกว่ามีคนทำตัวใหญ่กว่าปลัดถึงขนาดปลัดสั่งแล้วยังตีมึน

เรื่องของเรื่องก็สืบเนื่องมาจากปมประเด็น "เวชปฏิบัติ" ที่ตัดพืชสมุนไพรมหัศจรรย์อย่าง “ฟ้าทะลายโจร” ไม่จ่ายให้กับผู้ป่วยโควิด-19 ที่ “แพทย์หญิงอัมพร เบญจพลพิทักษ์" อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทย และการแพทย์ทางเลือกดันออกมาตั้งแต่ วันที่ 5 มิถุนายน 2567 ที่ผ่านมา

งานนี้ถูกวิพากษ์วิจารณ์ยับ กรมที่ตามชื่อแล้วสมควรสนับสนุนแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือก กลับไม่สนับสนุนสมุนไพรไทย ตรงกันข้ามออกนโยบายเปลี่ยนเวชปฏิบัติที่ถือว่าเป็นการล็อก หรือ "ฆ่าตัดตอน" ฟ้าทะลายโจร ก็ว่าได้

เพราะเวชปฏิบัติของกรมการแพทย์ฯ ไม่มีขั้นตอนใดให้จ่ายฟ้าทะลายโจร ในผู้ป่วยโควิด-19 ได้ ส่งผลคือ ตั้งแต่วันที่ 5 มิถุนายน 2567 เป็นต้นมา ใครป่วยเป็นโควิด-19 โรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข จะไม่สามารถจ่ายยาฟ้าทะลายโจร ให้ผู้ป่วยโควิด-19 ได้!

ตัดฟ้าทะลายโจรออก แต่เวชปฏิบัติ ยังคงมี "ฟาวิพิราเวียร์" อยู่ ทั้งๆ ที่เป็นยาที่ทำให้เชื้อดื้อยามากขึ้น หากใช้ในผู้ป่วยที่มีอาการน้อย หรือไม่มีอาการ

ฟังว่า “นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์” ปลัดกระทรวงฯ ไม่เห็นด้วย คัดค้านเรื่องนี้มาตลอดตั้งแต่ “แพทย์หญิงอัมพร” ดันเวชปฏิบัตินี้ออกมา สั่งให้แก้ไข แต่ก็ไม่ได้รับการตอบสนอง

ต้องไม่ลืมว่า “นายแพทย์โอภาส” เป็นแพทย์เวชศาสตร์ป้องกันด้านระบาดวิทยา ที่มีความรอบรู้และเชี่ยวชาญทั้งด้านการแพทย์และการสาธารณสุข และเป็นผู้ที่มีประสบการณ์ในการบริหารจัดการโรคติดต่อต่างๆ ในไทยเป็นอย่างดี ทั้งยัง รับผิดชอบภารกิจการควบคุมโรคติดต่อมายาวนานกว่า 10 ปี เป็นผู้ร่วมกำหนดนโยบาย เป้าหมาย และมาตรการจัดการกับโรคติดต่อ รวมทั้งโควิด-19 จึงรู้ซึ้งถึงสรรพคุณของฟ้าทะลายโจร

ว่ากันว่าปลัดฯ สั่งมาแล้วหลายครั้ง ตั้งแต่วันที่ 5 มิถุนายน เป็นต้นมา แต่ “แพทย์หญิงอัมพร” เล่นบทดื้อตาใส รับปากจะแก้ไข แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ล่าสุดฟังว่า “นายแพทย์โอภาส” ชักไม่ไหวจะทน รอเปิดทำการหลังหยุดยาวเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (30 ก.ค.) เรียกผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงประชุมกันภายในออกเป็นคำสั่งกระทรวงให้กรมแพทย์แผนไทยฯ โดย “แพทย์หญิงอัมพร” อธิบดี ยกเลิก เวชปฏิบัติ วันที่ 5 มิถุนายน เสีย แล้วให้กลับไปใช้ เวชปฏิบัติเดิม ที่ให้จ่ายยาฟ้าทะลายโจรกับผู้ป่วยโควิดได้

งานนี้ต้องชื่นชมปลัดกระทรวงฯ ที่ต้องการเปิดกว้างให้ประชาชนได้เข้าถึงการใช้ฟ้าทะลายโจรทางการแพทย์ อย่างเต็มที่
แต่ติดที่ฟ้าทะลายโจร อยู่ภายใต้การกำกับควบคุมของ “แพทย์หญิงอัมพร เบญจพลพิทักษ์” อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ที่ต้องการส่งเสริม ฟาวิฟิราเวียร์ ยาฝรั่งมากว่าสมุนไพรไทย ทำตัวใหญ่กว่าปลัดฯ หูทวนลม ไม่ได้ยินไม่ได้ฟัง ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของปลัดฯ

หมายความว่า ผู้ป่วยที่ต้องการเลือกฟ้าทะลายโจร ไม่มีสิทธิ์ใช้ ตราบที่หมออัมพร ยังดื้อดึงดันอยู่เช่นนี้

แว่วว่า ล่าสุดในขณะที่ปลัดฯ ได้ออกคำสั่งกระทรวง “หมออัมพร” ก็ยังไม่ยกเลิกเวชปฏิบัตินี้

ที่ “หมออัมพร” ยืนกรานเวชปฏิบัติตัดตอนสมุนไพรไทย จะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม ผู้คนย่อมคิดวิเคราะห์กันแน่ว่า เรื่องนี้ต้องมีเบื้องหน้าเบื้องหลัง มีผลประโยชน์อะไรกับยาฝรั่งอย่าง ฟาวิพิราเวียร์ หรือไม่!? หรือมีแบ็กแข็งโป๊ก เป็นใคร?

ขนาดกล้าไม่ทำตามคำสั่งปลัดกระทรวง และไม่ห่วง ไม่แคร์ประชาชนเลย แสดงว่าถืออำนาจบาตรใหญ่ ไม่ธรรมดา...นี่ต้องฝาก "หมอสมศักดิ์" สมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข ช่วยดูหน่อย ก่อนที่ประชาชนผู้รักสมุนไพรไทย จะทนไม่ไหวนะจ๊ะ!

ทักษิณ ชินวัตร - สมศักดิ์ เทพสุทิน
++ "ทักษิณ" อ้างโรคเก่ากำเริบ ยื่นขอไปรักษาตัวที่ดูไบ ศาลไม่บ้าจี้ตาม จึงไม่อนุญาต บอกหมอไทยก็รักษาได้

เมื่อ “ทักษิณ ชินวัตร” ได้รับการพักโทษ ลงจากชั้น 14 รพ.ตำรวจ กลับมาอยู่บ้านจันทร์ส่อหล้า วันแรกๆ ก็ใส่เฝือกอ่อนที่คอ และมีที่พยุงแขน เหมือนคนป่วยที่อาการยังไม่ทุเลา

แต่พอไปไหว้บรรพบุรุษที่เชียงใหม่ ก็เริ่มถอดออกในบางช่วง บางอารมณ์ สุดท้ายก็ถอดออกหมด หลังจากนั้นก็ออกเดินสายปร๋อ เหมือนไปตรวจราชการจังหวัดนั้น จังหวัดนี้ จนถูกวิพากวิจารณ์ ว่าที่ผ่านมานั้นล้วนป่วยทิพย์

โดยเฉพาะในโลกโซเชียลฯ วิจารณ์ เรื่องทักษิณแกล้งป่วยกันจนเบื่อไปเอง

เมื่อสุดสัปดาห์ก่อน “ทักษิณ” ก็ยกครอบครัวไปพักผ่อนที่รีสอร์ต ของ “อนุทิน ชาญวีรกูล” ที่เขาใหญ่ มีการร้องเพลงคาราโอเกะ กันอย่างสนุกสนาน วันรุ่งขึ้นยังออกรอบตีกอล์ฟ กับก๊วนนักการเมือง ทั้ง อนุทิน ชาญวีรกูล และ “สุวัจน์ ลิปตพัลลภ” บ้านใหญ่เมืองย่าโม จนถูกแซวว่า ไหนว่าเอ็นหัวไหล่เปื่อยยุ่ย ทำไมยังตีกอล์ฟได้

ที่น่าสนใจกว่านั้นก็คือ ล่าสุด เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม ที่ผ่านมา “ทักษิณ ชินวัตร” ซึ่งตอนนี้ ตกเป็นจำเลยในคดีประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ได้ยื่นคำร้องขอเดินทางออกนอกราชอาณาจักร ไปพำนักอยู่ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ดูไบ) ระหว่างวันที่ 1-16 สิงหาคมนี้ เพื่อพบแพทย์ซึ่งเคยตรวจรักษาอาการป่วยของตนเอง เกี่ยวกับปอดอักเสบเรื้อรัง ระบบหายใจและหลอดเลือดหัวใจ เอ็นไหล่ขวาฉีกขาด และ หมอนรองกระดูกสันหลังเคลื่อน ในสถานพยาบาล ที่ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ในวันที่ 2 เเละ 8 สิงหาคมนี้

“ทักษิณ”บอกว่าโรคเก่ากำเริบอีกแล้ว

นอกจากนี้ยังบอกศาลว่า ช่วงเวลาที่พำนักอยู่ที่ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ “ทักษิณ” ยังมีนัดหมายกับบุคคลสำคัญหลายคน เกี่ยวด้วยภารกิจส่วนตัว หลายเรื่อง และจะเดินทางกลับไทย ก่อนวันนัดตรวจพยานหลักฐาน ซึ่งศาลนัดไว้ในวันที่ 19 สิงหาคม 2567

เมื่อได้รับคำร้อง ศาลก็นัดไต่สวนคำร้อง เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม ที่ผ่านมา เเละ มีคำสั่งในวันเดียวกันว่า “ไม่อนุญาต”

โดยศาลเห็นว่า แม้จำเลย (ทักษิณ) อ้างตนเองเป็นพยานเบิกความยืนยันถึงความจำเป็น ที่ต้องเดินทางออกนอกราชอามาจักร โดยมีเอกสารหลักฐานจากแพทย์สนับสนุน และนัดพบบุคคลสำคัญหลายคน โดยช่วงเวลาที่จำเลยพำนักอยู่ ณ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เป็นช่วงเวลาก่อนกำหนดนัดตรวจพยานหลักฐานก็ตาม

แต่อาการป่วยของจำเลยเป็นโรคที่เกิดแก่บุคคลทั่วไป และแพทย์ในประเทศไทยตรวจรักษาเป็นประจำอยู่แล้ว การเดินทางไปพบบุคคลสำคัญของจำเลย เป็นเรื่องส่วนตัวของจำเลย ทั้งไม่มีพยานหลักฐานยืนยันชัดแจ้ง ถึงความจำเป็นดังกล่าว ประกอบกับช่วงระยะเวลาที่เดินทาง ใกล้กับวันนัดตรวจพยานหลักฐาน (19 สิงหาคม) ในชั้นนี้ ไม่สมควรอนุญาตให้จำเลยเดินทางออกนอกราชอาณาจักร ให้ยกคำร้อง

ทั้งนี้ “ทักษิณ ชินวัตร” ถูกอัยการสูงสุด สั่งฟ้องต่อศาล ในคดีความผิดตาม มาตรา 112 และ ความผิดตามพระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์ เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน ที่ผ่านมา จากกรณีให้สัมภาษณ์กับ “เดอะโชซอนมีเดีย” ของเกาหลีใต้ เมื่อปี 2558 มีเนื้อหาพาดพิงสถาบันฯ โดยศาลอนุญาตให้ประกันตัวในวงเงิน 5 แสนบาท พร้อมสั่งห้ามเดินทางออกนอกประเทศ เว้นแต่ได้รับอนุญาต

แต่การที่ “ทักษิณ” ยกเอาเรื่องการเจ็บป่วยของตนเอง มาเป็นข้ออ้างในการขอเดินทางไปดูไบครั้งนี้ ใครได้ยิน ได้ฟัง ต่างก็คิดว่า มามุกเดิมอีกแล้ว เพราะใครๆก็เห็นว่าเป็นการ “ป่วยทิพย์”

หากศาลอนุญาตตามที่ขอมา เชื่อว่างานนี้ทัวร์ลงชนิดที่รับกันไม่หวาดไม่ไหวแน่


กำลังโหลดความคิดเห็น