xs
xsm
sm
md
lg

“ลุงป้อม”ไม่ทน เสี่ยงแตกหักรัฐบาล !?

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ - ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า
เมืองไทย 360 องศา

ไม่ธรรมดาทีเดียวสำหรับพรรคพลังประชารัฐในเวลานี้ เพราะเมื่อจับอาการของแต่ละฝ่ายแล้วทำให้เห็นร่องรอย “ปริร้าว” จนอาจนำไปสู่การแตกหักได้เหมือนกัน อย่าดูเบาเป็นอันขาด และที่ต้องจับตาอาการของ “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค กับอีกฝ่ายที่เวลานี้ต้องมองไปที่ “กลุ่มผู้กอง” ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรค เพราะเริ่มเห็นท่าทีแปลกๆ ออกมาให้เห็นแล้ว

ที่ผ่านมาต่างพยายาม “เก็บอาการ” โดยเฉพาะฝ่าย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ที่เวลานี้เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีตำแหน่งในรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย ซึ่งแน่นอนว่าในทางการเมืองตอนนี้ถือว่า เขาได้ประโยชน์มากกว่าใคร จนที่ผ่านมาถึงกับมีบางคนมองว่า เป็น “สาขาของพรรคเพื่อไทย” ไปแล้ว และหากพิจารณาจากการที่พรรคเพื่อไทย เปิดตัว นายอัครา พรหมเผ่า น้องชาย ร.อ.ธรรมนัส เป็นผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพะเยา เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคมที่ผ่านมา ย่อมสะท้อนให้เห็นความเชื่อมโยงกันแบบไม่ต้องอธิบายกันมาก

อีกทั้ง เมื่อพิจารณากันถึงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ของ ร.อ.ธรรมนัส ก็อยู่ในกำกับดูแลของ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ จากพรรคเพื่อไทย แทนที่จะเป็น พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ที่เป็นรองนายกฯ ควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ น้องชายของ “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร ซึ่งต่างจากพรรคร่วมรัฐบาลอื่นๆ เช่น รวมไทยสร้างชาติ ที่กำกับดูแลรัฐมนตรีที่สังกัดพรรค

ประกอบกับการเคลื่อนไหวของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ล้วนเป็นเนื้อเดียวกับรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทยอย่างกลมกลืน จนบางครั้งแทบลืมไปกว่าเขาเป็นเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐด้วยซ้ำไป จนหลายคนมองออกว่าเขาจะย้ายไปพรรคเพื่อไทยในการเลือกตั้งครั้งหน้าค่อนข้างแน่

ขณะเดียวกัน อีกในฟากของ “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค และเป็นส.ส.บัญชีรายชื่อเพียงหนึ่งเดียวของพรรค ที่ผ่านมารับรู้กันว่า เขาหวังได้เป็น นายกฯสักครั้งก่อนลาโรงการเมือง และคราวนี้น่าจะมีโอกาสลุ้นครั้งสุดท้ายแล้ว โดยที่ผ่านมาเขาไม่เคยร่วมสังฆกรรมโดยตรงกับพรรคเพื่อไทย และรัฐบาลที่นำโดย นายเศรษฐา ทวีสิน เลย เริ่มจากตอนตั้งรัฐบาลในตอนนั้น ทั้งพล.อ.ประวิตร และน้องชาย คือพล.ต.อ.พัชรวาท ก็ไม่ได้มาโหวตให้ รวมไปถึงส.ว.ที่รู้กันว่าอยู่ในสายของเขา ต่างก็ไม่โหวตให้ นายเศรษฐา จนสร้างความไม่พอใจกับคนในพรรคเพื่อไทยมาแล้ว

รอยปริร้าว ที่อาจนำไปสู่การ “แตกหัก” ระหว่างพรรคพลังประชารัฐ ของ “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ กับในฟากของ ร.อ.ธรรมนัส ที่แนบแน่นกับพรรคเพื่อไทย เพราะหากสังเกตอาการชัดเจนหลังจากที่ “สองพ่อลูกอยู่บำรุง” แตกหักกับพรรคเพื่อไทย และนายทักษิณ ชินวัตร โดยนายวัน อยู่บำรุง ลูกชาย ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ย้ายมาสังกัดพรรคพลังประชารัฐ โดย พล.อ.ประวิตร เปิดตัวอย่างอลังการทีเดียว ขณะที่ร.ต.อ.เฉลิม ที่ตราบใดที่พรรคเพื่อไทยไม่ขับออกมา ก็ยังออกมาไม่ได้ เพราะจะพ้นสถานภาพส.ส.ทันที แต่ที่ผ่านมาก็ถล่มนายทักษิณ เสียเละเทะ ไม่เผากันแน่นอนแล้ว

แน่นอนหากจับอาการการย้ายมาสังกัดพรรคพลังประชารัฐของ นายวัน อยู่บำรุง และท่าทีของ ร.ต.อ.เฉลิม ได้สร้างความไม่พอใจ และอึดอัดใจให้กับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เป็นอย่างยิ่ง เพราะอย่างที่รู้แบ็กกราวด์ก่อนหน้านี้ที่ว่า เขา และส.ส.ในกลุ่ม มีความแนบแน่นกับพรรคเพื่อไทย จนเมื่อถูกถามเรื่องนี้ ร.อ.ธรรมนัส บอกเพียงว่า “เป็นการตัดสินใจของลุงป้อม” ความหมายก็คือ เขาไม่รู้เรื่องด้วย และทุกครั้งเขาก็ย้ำแบบนี้

ความไม่พอใจจนเก็บอาการไม่อยู่ เมื่อนายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ได้แต่งเพลง “อวยลุงป้อม” พร้อมทั้งวิจารณ์การทำงานของรัฐบาล และนายกรัฐมนตรี จนทำให้ถูกดีดออกจากไลน์กลุ่มส.ส.พลังประชารัฐ และถูกร.อ.ธรรมนัส ขู่ว่าหากยังไม่หยุด จะเสนอให้ขับออกจากพรรค

อย่างไรก็ดี นายสามารถ ยืนยันว่า การเคลื่อนไหวของเขา ล้วนได้รับไฟเขียวจากพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และจะทำตามคำสั่งของ พล.อ.ประวิตร เท่านั้น คนอื่นไม่ต้องมายุ่ง

“ผมไม่มั่นใจสิ่งที่กรรมการบริหารพรรคฯ และเลขาธิการพรรคฯ ไม่พอใจผมเรื่องอะไร หรือเป็นเรื่องการเปิดตัวนายวัน อยู่บำรุง เข้าสังกัดพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งผมไม่ได้มีตำแหน่งหรือเข้าไปยุ่งอะไร แต่หากพล.อ.ประวิตร ใช้ ผมก็ทำ ไม่มีอะไรที่ผมเข้าไปแทรกแซง” นายสามารถ ระบุ

เมื่อถามว่าการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนายกรัฐมนตรี ในขณะที่พรรคพลังประชารัฐ ยังเป็นพรรครวมรัฐบาล เขาอาจจะมองไม่เหมาะสม นายสามารถ กล่าวว่า พรรคร่วมรัฐบาลไม่ใช่พรรคเมืองขึ้น มีอำนาจ มีแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี แล้ววันนี้ตนก็เชียร์ให้ พล.อ.ประวิตร เป็นนายกรัฐมนตรี

“ถ้าจะใช้ตำแหน่งเลขาธิการพรรคนำเรื่องเข้ากรรมการบริหารพรรคขับผมออกใหญ่โตเกินไปหรือเปล่าแค่แต่งเพลงเนี่ยนะ หรือเขาโกรธผมที่ไม่ใส่ชื่อพลังประชารัฐ ลงไปในเพลง ผมว่ามันไม่ใช่ จะเอาเรื่องอื่นมาลงกับเรื่องนี้ไม่ได้”

ขณะที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เปิดเผยว่าเมื่อวานนี้ (29 กค.) ได้โทรคุยเรียนกับ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐแล้ว ว่าอาจจะต้องปรามด้วยในเรื่องพวกนี้ พร้อมยืนยันว่าเลขาพรรค และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เดินในทิศทางเดียวกัน ในพรรคไม่มีความแตกแยก กรรมการบริหารพรรคทุกท่านไม่มีแตกแยก มีแต่คนภายนอกที่เข้ามาแส่

ร.อ.ธรรมนัส ย้ำว่าผู้ที่จะให้ทิศทางของพรรคต้องมาจากกรรมการบริหารพรรคเท่านั้น ถ้ายังไม่จบ ไม่หยุดแค่นี้กรรมการบริหารพรรค ก็ต้องขับไล่ออกไป เหมือนที่เคยขับไล่ออกไปรอบหนึ่ง ยืนยันว่า การร่วมรัฐบาลของพรรคพลังประชารัฐต้องอยู่ร่วมกันทั้งพรรค จะไปแยกกันได้อย่างไร อย่าไปตีความเป็นอย่างอื่น คนๆเดียวที่ไม่ใช่และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการบริหารพรรค มาแสดงวิสัยทัศน์มาแสดงความคิดมันไม่ใช่การตัดสินใจของพรรค

“เรายืนยันว่า พรรคพลังประชารัฐไม่มีการแตกแยก ส.สเราทั้งหมด 40 ท่าน ไปในทิศทางเดียวกัน อย่าเอาไปเป็นประเด็น” ร.อ.ธรรมนัส ระบุ

พิจารณาตามรูปการณ์แล้ว ถือว่างานนี้ไม่ธรรมดา เพราะหากยืนตามคำพูดของ นายสามารถ ที่ยืนยันว่าได้รับไฟเขียวจาก “ลุงป้อม” แล้ว มันก็เหมือนเป็นการส่ง “ตัวแทน” ข้ามรุ่นไปชกเต็มหมัด ประกอบกับจาก “แบ็กกราวด์” ก่อนหน้านี้ มันก็เหมือนกับว่า เดินกันคนละทางมานานแล้ว และหากจำกันได้ นายทักษิณ ชินวัตร ก็เคยเอ่ยปากว่า “คนในบ้านป่าสร้างความวุ่นวาย” ก็น่ารู้ว่าหมายถึงใคร และสถานการณ์การเมืองที่กำลังมาถึงจุดที่อาจพลิกผันในเดือนสิงหาคม ก็อาจถึงเวลาแล้วที่ “ลุงป้อม” ต้องเสี่ยงแตกหักครั้งสุดท้าย อย่ากระพริบตาเป็นอันขาด !!


กำลังโหลดความคิดเห็น