xs
xsm
sm
md
lg

ดูท่า "ช้าง"สองเชือกไม่น่าพอ "โจ๊กสายมู" เติม "ช" ในชื่อ"สุรเชชษฐ์" แก้กรรม แต่สู้คำสั่งให้ออกทำใจไปต่อที่ศาล ** เรื่องวุ่นๆ ที่บ้านป่ารอยต่อฯ เมื่อ“ลุงป้อม”ฝันจะเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 31

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


พล.ต.อ. สุรเชชษฐ์ หักพาล - พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ - พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ
ข่าวปนคน คนปนข่าว



++ ดูท่า "ช้าง"สองเชือกไม่น่าพอ "โจ๊กสายมู" เติม "ช" ในชื่อ"สุรเชชษฐ์" แก้กรรม แต่สู้คำสั่งให้ออกทำใจไปต่อที่ศาล

รอฟังผลอีกอึดใจ คาดว่าภายในสัปดาห์นี้ หรือสัปดาห์หน้า สำหรับการพิจารณาอุทธรณ์คำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน ของ “พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์” ที่ลงนามโดย “พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ” ขณะดำรงแหน่งรักษาราชการแทน ผบ.ตร.

หลังจากเมื่อวานนี้ คณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ (ก.พ.ค.ตร.) เรียก "โจ๊ก" ในชื่อเก่า แต่เพิ่มเติม "ช" มาอีกเชือก “พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล” รอง ผบ.ตร.และ "บิ๊กต่าย" พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. เข้าชี้แจงด้วยวาจา
ทั้งนี้ ตามกระบวนการจะต้องเชิญ "บิ๊กต่อ" พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. มาให้ถ้อยคำด้วย แต่ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ได้มอบหมายให้ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ เข้าชี้แจงแทน เนื่องจากเป็นผู้ลงนามในคำสั่ง

เห็นว่ารูปแบบการให้ถ้อยคำได้รับคำอธิบายจาก “พล.ต.ท.อนุชา รมยะนันทน์” ผู้บัญชาการสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ในฐานะ ผู้ช่วยเลขานุการ ก.พ.ค.ตร. ว่า ทั้ง 2 ฝ่ายต้องเข้าห้องพิจารณาเพื่อชี้แจงต่อหน้ากรรมการทั้ง 6 คนพร้อมกัน แต่ทั้ง "บิ๊กต่าย" และ "โจ๊ก" ไม่มีสิทธิโต้แย้งกันเอง โดยคณะกรรมการจะรับฟังเหตุผลทีละฝ่าย และให้อีกฝ่ายฟังไปด้วย ในเวลาเดียวกัน

เมื่อเสร็จสิ้นขั้นตอนส่วนนี้ คณะกรรมการฯ จะนำสำนวนหลักฐานที่ได้ทำไว้เสร็จแล้วประกอบกับการให้ถ้อยคำพิจารณาร่วมกัน โดยจะสรุปผลวินิจฉัยในรอบการประชุม ซึ่ง ก.พ.ค.ตร. จะมีทุกวันอังคาร และพฤหัสบดี ของทุกสัปดาห์

จากนั้นจะต้องจัดทำคำวินิจฉัย หลังจากตรวจทานแล้วเสร็จ ก.พ.ค.ตร.ทุกคนจะต้องลงลายมือชื่อในคำวินิจฉัยร่วมกัน ก่อนจัดส่งให้กับคู่กรณีทั้ง 2 ฝ่ายทราบ เมื่อคู่กรณีทั้ง 2 ฝ่ายได้รับเอกสารแล้ว คำวินิจฉัยจึงจะเผยแพร่ต่อสาธารณะได้

งานนี้เป็นอันว่า รอคอยกันอีกหน่อย จะช้าหรือเร็วก็ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการฯ ว่าใช้เวลาพิจารณาพยานหลักฐานต่างๆ นานแค่ไหน

ส่วนการลงมติของคณะกรรมการฯ แน่นอนว่าจะออกมาลักษณะเป็นการลงเสียงมติข้างมากไปในทิศทางเดียวกัน ส่วนเนื้อหาภายในคณะกรรมการฯ ที่เห็นต่างสามารถที่จะมีความเห็นแตกต่างไว้ได้

คำวินิจฉัยตามหลักการมีได้สองทาง หากผลการวินิจฉัยของคณะกรรมการฯ ออกมาเป็นลบต่อ “พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์” เจ้าตัวก็สามารถยื่นฟ้องต่อศาลปกครองสูงสุดภายใน 90 วัน นับตั้งแต่วันที่รับทราบคำสั่ง

ในทางกลับกัน หากผลเป็นบวกต่อ “พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์” สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะต้องเพิกถอนคำสั่งให้ออกจากราชการและ พล.ต.อ.สุรเชษษฐ์ กลับมารับตำแหน่งดังเดิม สิทธิประโยชน์คงเดิมรวมทั้งได้เป็นแคนดิเดตในการคัดเลือก ผบ.ตร.

ฟังว่า "โจ๊ก"เองก็รู้ชะตา ทำใจมาล่วงหน้ายังไงต้องไปต่อที่ศาลปกครองเพื่อสู้เรื่องนี้ กระนั้น หลังการประชุมคณะกรรมการ ออกมาให้สัมภาษณ์สื่ออย่างอารมณ์ดี ถึงเรื่องการเปลี่ยนชื่อเดิม เพิ่มเติม "ช." เข้ามาอีกหนึ่งตัว ว่าเพื่อความเป็นสิริมงคล แต่ก็ยังอ่านออกเสียงเหมือนสุรเชษฐ์ ดังเดิม

เดิม “สุรเชษฐ์”นั้นแปลว่า “พระพรหม” เจ้าตัวเองก็เคยคุยฟุ้งเสิร์ชหา"อากู๋" กูเกิ้ลก็จะรู้ว่าใช่

แก้กรรมแก้เคล็ดคราวนี้เติม "ช" เข้าไปอีกตัว กลายเป็น "สุรเชชษฐ์" ตามความเชื่อของสายมู หากใครสงสัยถาม กูเกิ้ลใหม่ ก็จะเห็นว่า "อากู๋" ไม่รู้แล้วว่าแปลว่าอะไร

งานนี้ “โจ๊ก” แก้ชื่อแล้วจะดีขึ้นอย่างที่ใจหวังหรือไม่ก็ต้องติดตาม ที่แน่ๆไม่ใช่แค่เรื่องคำสั่งให้ออกจากราชการที่รอลุ้นผล คดีที่ ปปง. ก็ฟังว่าใกล้จะถูกพิจารณายึดทรัพย์ฐานฟอกเงินเร็วๆ นี้

นี่ดูท่าหากไม่รอดอีก ช้างสองเชือกคงไม่พอซะละมัง ต้องเติมมาเป็นโขลง อ๊ะป่าว...สุรเชชชชชชชษฐ์!

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ - สามารถ เจนชัยจิตรวนิช - ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า
++ เรื่องวุ่นๆ ที่บ้านป่ารอยต่อฯ เมื่อ“ลุงป้อม”ฝันจะเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 31

กรณี “สามารถ เจนชัยจิตรวนิช” อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรม สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ซึ่งช่วงนี้ จัดว่าเป็นคนใกล้ชิด “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ออกมาให้ข่าวว่า ตามที่พรรคพปชร. จะเปิดตัวสมาชิกใหม่ที่เป็น “อดีตส.ส.พรรคเพื่อไทย” และกลุ่มคนรุ่นใหม่ 6-7 คน ที่บ้านป่ารอยต่อฯ ในวันที่ 30 ก.ค.นั้น ต้องเลื่อนออกไปก่อน เพราะ“ลุงป้อม” ท้องเสียกระทันหัน หลังรับประทานอาหารจากบูธในงาน ซึ่งไม่รู้ว่าใครเป็นคนตักมาให้
แถมทิ้งท้ายว่า สงสัยจะโดนวางยา

ย้อนไปเมื่อกว่าสองปีก่อนหน้านี้ “สามารถ” เป็นผู้ช่วย รมว.ยุติธรรม “สมศักดิ์ เทพสุทิน” ในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แต่ถูกคณะกรรมการสอบสวนของพรรคพลังประชารัฐ มีมติเป็นเอกฉันท์ให้ปลด “สามารถ”ออกจากทุกตำแหน่ง ไม่ว่าจะเป็น ตำแหน่งผู้ช่วยรัฐมนตรี... ผอ.ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของพรรคพปชร. ... วิปรัฐบาล... คณะกรรมการศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดการฉ้อโกงประชาชนในลักษณะแชร์ลูกโซ่ เพียงแต่ไม่ได้ไล่ออกจากสมาชิกพรรค
เหตุเกิดจากที่มีการร้องเรียนว่า “สามารถ”เคยทำการทุจริต โดยส่งลูกน้องของตัวเองไปเข้าเรียน และสอบหลักสูตรภาษาอังกฤษระดับปริญญาเอก แทนตัวเอง จนเป็นผลให้ถูกตัดสิทธิ์จากวิชาเรียนดังกล่าว

แต่ด้วยความที่ “สามารถ” เข้าใจพื้นฐานการเมืองแบบไทยๆ จึงพยายามเข้าใกล้ชิดกับ “ลุงป้อม” พร้อมคำหวานที่กรอกหูอยู่เป็นประจำว่า “ลุงป้อม” มีโอกาสเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 31 ก็ทำเอาลุงเคลิบเคลิ้ม ว่าฝันนั้นจะเป็นจริง แม้โอกาสจะน้อยนิด ก็ตาม
ยิ่งตอนนี้ “เศรษฐา ทวีสิน”เจอกรณี 40 อดีตสว. ยื่นถอดถอนจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี จากการแต่งตั้ง “พิชิต ชื่นบาน” เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญ นัดพิจารณาวินิจฉัยชี้ขาด ในวันที่ 14 ส.ค.นี้ “ลุงป้อม” ยิ่งรู้สึกว่าตัวเองมีลุ้น
นอกจากนี้ “สามารถ” ยังจัดได้ว่าเป็นนักหาแสงตัวยง ...ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดก็กรณี “วัน อยู่บำรุง” ลาออกจากสมาชิกพรรคเพื่อไทย หลังถูก “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เรียกไปตำหนิ จากกรณีที่ “วัน” ไปลุ้นผลเลือกตั้งนายกอบจ.ปทุมธานี ที่บ้าน “บิ๊กแจ๊ส” พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง คู่แข่ง “ชาญ พวงเพ็ชร์” ผู้สมัครของพรรคเพื่อไทย
“สามารถ” รีบไปติดต่อให้ “วัน” มาสมัครเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ มีการแถลงข่าว เปิดตัวโดย “ลุงป้อม” มาสวมเสื้อพรรคให้กับ “วัน” ด้วยตัวเอง

ไม่เพียงเท่านั้น “สามารถ” ยังออกมาตำหนิการทำงานของรัฐบาลเศรษฐา ด้วยถ้อยคำที่รุนแรง ซ้ำยังแต่งเพลง อวย “ลุงป้อม”ออกมาเผยแพร่ ประกบเพลงคิดถึงลุงตู่ อีกด้วย

ข่าวว่าเรื่องนี้สร้างความไม่พอใจให้กับ “ทักษิณ ชินวัตร” เป็นอย่างมาก... แล้วสัญญาณความไม่พอใจ ก็ส่งมาถึง“ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า” เลขาธิการพรรคพปชร. ทำให้บรรยากาศในกลุ่มไลน์ สส.ของพรรคพลังประชารัฐ โดยเฉพาะในปีกของ “ผู้กองธรรมนัส” ออกมาซัด “สามารถ” กันอย่างดุเดือด ว่าเป็นคนทำให้พรรคปั่นป่วน เสียหาย ทั้งที่เป็นพรรคร่วมรัฐบาล และเตรียมให้ “ลุงป้อม” หามาตรการในการแก้ปัญหานี้

ก็ต้องติดตามกันว่า “ลุงป้อม” จะออกมาพูด หรือจัดการกับเรื่องนี้อย่างไร เพราะที่ผ่านๆ มา แกนนำในพรรคพลังประชารัฐ ไม่เคยพูดถึงยุทธศาสตร์ แผนการผลักดันให้ “ลุงป้อม” ขึ้นเป็นนายกฯ กันเลย จะมีก็แต่ “สามารถ” คนนี้ที่พูดกรอกหูอยู่ทุกวี่วัน แล้ว “ลุงป้อม”จะตัดใจเงื้อดาบฟันได้ลงหรือ


กำลังโหลดความคิดเห็น