“บุญส่ง” กวาด 167 เสียง นั่งรอง ปธ.วุฒิฯ คนที่ 2 เจ้าตัวโชว์ประวัติการทำงาน ชี้สำคัญกว่า “วิสัยทัศน์” ยันพร้อมใช้ความรู้ด้าน กม.- ข้อบังคับ ฟื้นความเชื่อมั่น “สภาสูง” ติงล่วงหน้าช่วยกรองคนเข้าเป็น กมธ. เน้นคนดี ให้คุ้มกับเงินแผ่นดิน
วันนี้ (23 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ในช่วงการประชุมสมาชิกวุฒิสภากับวาระพิจารณาเลือกตำแหน่งรองประธานสภาคนที่ 2 มีผู้เสนอชื่อเข้าชิงตำแหน่ง ประกอบด้วย นายบุญส่ง น้อยโสภณ ส.ว. นายปฎิมา จีระแพทย์ ส.ว. นายพงษ์ศักดิ์ เกิดวงศ์บัณฑิต ส.ว. และ นางอังคณา นีละไพจิต ส.ว.
หลังจากสมาชิกลงคะแนนลับแล้ว พล.ต.ท.ยุทธนา ไทยภักดี ประธานในที่ประชุม ได้แจ้งต่อที่ประชุมว่ามีผู้มารับบัตรลงคะแนน 199 คน โดยผลปรากฏว่า นายบุญส่ง ได้ 167 เสียง นายปฏิมา ได้ 4 เสียง นายพงษ์ศักดิ์ ได้ 8 เสียง และ นางอังคณา ได้ 18 เสียง งดออกเสียง 2 เสียง บัตรเสียไม่มี
ทั้งนี้ ก่อนปิดการประชุม ประธานกล่าวว่า จากนี้ สำนักเลขาธิการวุฒิสภา จะส่งรายชื่อบุคคลที่ได้รับเลือกเป็นประธานวุฒิสภาและรองประธานวุฒิสภาคนหนึ่ง และคนที่สอง ไปยังนายกรัฐมนตรี เพื่อนำความขึ้นกราบบังคมทูลเพื่อทรงลงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งต่อไป โดยการประชุมครั้งต่อไปจะมีขึ้นภายหลังจากได้มีพระบรมราชโองการประกาศแต่งตั้งบุคคลทั้งสามแล้ว โดยประธานวุฒิสภาจะมีคำสั่งให้นัดประชุมและสำนักงานเลขาวุฒิสภาจะแจ้งให้สมาชิกทราบต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับนายบุญส่งได้แสดงวิสัยทัศน์โดยสรุปว่า ตนรับราชการตั้งแต่อายุ 17 ปี ขณะนี้ 75 ปีแล้ว สมัครเป็นส.ว. คิดว่าจะรับใช้ชาติบ้านเมืองในช่วงท้ายของชีวิต มองว่า วิสัยทัศน์มันแต่งได้ แต่ทำได้หรือเปล่าไม่ทราบ เราสังเกตว่า การเลือกตั้งลักษณะนี้ ต้องมีประวัติการศึกษา การทำงานให้เห็น เพื่อจะเป็นประโยชน์กับสมาชิกพิจารณาได้ ซึ่งประวัติของตนที่ผ่านมา เชื่อว่า ความรู้ทางด้านกฎหมายและข้อบังคับต่างๆ ตนสามารถเข้าใจได้ดี และทำหน้าที่ได้อย่างดี เพื่อนำองค์กรวุฒิสภาให้ได้รับความศรัทธาเชื่อมั่นจากประชาชน บทบาทของวุฒิสภาทุกท่านคงทราบแล้วว่าอะไรสำคัญที่สุด ซึ่งก็คือกรรมาธิการวุฒิสภาใครจะเป็นประธานกรรมาธิการแต่ละชุดเป็นเรื่องสำคัญ เวลาที่จะแต่งตั้งอะไรต่างๆ ขอความกรุณาคัดสรรคนนิดหนึ่ง จึงขอให้ทุกท่านที่อยู่คณะต่างๆ ได้ตั้งคนดีมีความรู้ความสามารถให้เหมาะสมกับคณะที่อยู่ให้คุ้มค่ากับงบประมาณที่จ่ายแต่ละเดือนๆ ละ 200,000 บาท หวังว่า การทำงานของกรรมาธิการทั้งหลายที่มีส่วนสำคัญ คือ นอกจากกลั่นกรองกฎหมายแล้ว ยังต้องควบคุมการบริหารราชการแผ่นดินด้วย รับความร้องเรียนจากประชาชนต้องตั้งกระทู้ถามเรื่องต่างๆ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อกติกาอย่างสูงสุด
ดังนั้น ตนขอเน้นคณะกรรมธิการว่าทำอย่างไรให้มีประสิทธิภาพ และจะต้องมีความร่วมมือกับหน่วยงานอื่นทางวิชาการด้วย ให้มีความพร้อมที่จะเสนอกรรมาธิการแต่ละคณะ รวมถึงฝ่ายสำนักเลขาธิการวุฒิสภาอยากให้ช่วยกันผลักดันส่งเสริมให้ทัดเทียมกับองค์กรอื่นที่ทำงานในลักษณะเดียวกัน ต้องมีงบประมาณที่เพียงพอ มีความรู้ทางวิชาการที่เพิ่มขึ้น ส่งไปอบรมศึกษาบุคลากรต่างๆ ให้มีประสิทธิภาพในการทำงานมากขึ้นก็จะเป็นประโยชน์ต่อการทำงานอย่างยิ่ง และ สุดท้ายคือความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ องค์กรก็ต้องมีความสัมพันธ์ตรงนี้ด้วย ไม่ว่าจะด้านวิชาการ ทวิภาคี พหุภาคี เพื่อจะได้เป็นประโยชน์อย่างแท้จริงทำให้วุฒิสภาได้รับความเชื่อถือ และความศรัทธาจากประชาชนทั้งในประเทศและต่างประเทศ หวังว่า 5 ปีข้างหน้านี้ เราจะทำงานร่วมกันให้สำเร็จลุล่วงตามวัตถุประสงค์เจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญในด้านต่างๆ
