วันนี้(23 ก.ค.)นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ให้การต้อนรับ นายอิสซา อับดุลเลาะฮ์ ญาบิร อัลอาลาวี (Mr. Issa Abdullah Jaber Al-Alawi) เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งรัฐสุลต่านโอมานประจำประเทศไทย และคณะ เข้าพบเพื่อเยี่ยมคารวะและแสดงความยินดีในโอกาสที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานเข้ารับตำแหน่ง รวมถึงหารือเรื่องความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างประเทศโอมานกับประเทศไทย ตลอดจนแนวทางการส่งเสริมความร่วมมือด้านแรงงานระหว่างสองประเทศ โดยมี นายไพโรจน์ โชติกเสถียร ปลัดกระทรวงแรงงาน นายสมาสภ์ ปัทมะสุคนธ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูงกระทรวงแรงงาน ร่วมให้การต้อนรับด้วย ณ ห้องจัตุมงคล ชั้น 6 อาคารกระทรวงแรงงาน
นายพิพัฒน์ กล่าวว่า ผมขอขอบคุณท่านเอกอัครราชทูตฯ โอมานประจำประเทศไทย และคณะที่ให้เกียรติมาเยี่ยมคารวะผมและผู้บริหารกระทรวงแรงงานในวันนี้ ประเทศของท่านนับเป็นอีกหนึ่งประเทศที่ได้สร้างโอกาสให้กับชาวต่างชาติมากมายผ่านการเปิดรับแรงงานต่างชาติเข้าไปทำงานกว่า 1.5 ล้านคน ซึ่งผมขอใช้โอกาสนี้ ในการขอบคุณที่ประเทศของท่านได้ให้การต้อนรับแรงงานไทยของเราให้เข้าไปทำงานเป็นจำนวนราว 1,066 คน โดยส่วนใหญ่ทำงานในสาขาการบริการ ไม่ว่าจะเป็นพนักงานต้อนรับ พนักงานนวดแผนโบราณ กุ๊กอาหารไทย และช่างเสริมสวย เป็นต้น ซึ่ง นับเป็นโอกาสอันดีที่ทั้งสองประเทศ จะได้พัฒนาทางด้านเศรษฐกิจ ในอุตสาหกรรมต่างๆ เพื่อความร่วมมือด้านแรงงานระหว่างกัน และพัฒนาทักษะแรงงานร่วมกันต่อไปในอนาคต
“จากการหารือในวันนี้ กระทรวงแรงงานของเรามีความยินดีและพร้อมที่จะให้การสนับสนุนด้านแรงงาน และพร้อมเชิญชวนนักลงทุนจากทางโอมาน เข้ามาลงทุนในประเทศไทย เช่น ธุรกิจด้านการท่องเที่ยวและธุรกิจด้านพลังงาน ซึ่งถือเป็นโอกาสใหม่ๆให้กับแรงงานและขับเคลื่อนเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศ และ ผมยินดีให้ทางรัฐบาลโอมาน พัฒนาทักษะแรงงานโดยสามารถส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาฝึกเพื่อพิจารณารับแรงงานไทยเข้าไปทำงานได้ตรงกับความต้องการ และกำหนดอัตราค่าจ้างที่เหมาะสมในการจ้างงานแรงงานไทย ให้สอดคล้องกับความสามารถและความเชี่ยวชาญของแรงงานนั้นๆ" นายพิพัฒน์ กล่าว
ด้าน นายอิสซา อับดุลเลาะฮ์ ญาบิร อัลอาลาวี (Mr. Issa Abdullah Jaber Al-Alawi) เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งรัฐสุลต่านโอมานประจำประเทศไทย กล่าวว่า ผมขอขอบคุณท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานและคณะ ที่เปิดโอกาสให้เข้าพบเพื่อหารือความร่วมมือด้านแรงงานกันในวันนี้ ประเทศโอมานพร้อมให้ความช่วยเหลือ ดำเนินการ และประสานงานเกี่ยวกับกิจการด้านแรงงานระหว่างกัน พร้อมทั้ง ผมยินดีจัดทำ MOU ในการพัฒนาทักษะฝีมือแรงงานร่วมกันได้ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ความร่วมมือด้านแรงงานของเราจะได้เกิดขึ้นอย่างเป็นทางการในอนาคตอันใกล้นี้และพัฒนาต่อไปอย่างแน่นแฟ้นยิ่งขึ้นต่อไป