ข่าวปนคน คนปนข่าว
** จีนเทารีเทิร์น จากป้ายหรากลางกรุง ถึงพื้นที่ภาค 2 ชลบุรี "บ่อน-ตู้ม้า" พรึบ เปิดตัว "เล้งแซ่บ" รับเคลียร์หน้าเสื่อ “จ่ายครบไม่จับแน่”
ผ่างๆๆ...เล่นเอาเต้นผางไปตั้งแต่ "เศรษฐา ทวีสิน" นายกรัฐมนตรี “อนุทิน ชาญวีรกูล” รมว.มหาดไทย ไปจนถึง พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. กับป้ายซื้อขายพาสปอร์ต โอนสัญชาติ หรากลางกรุง
ภายหลังสืบไปสืบมาก็เจอว่า เป็นฝีมือของ "จีนเทา" ปฏิบัติการเย้ยหยัน เหิมเกริมอีกแล้วครับท่าน
ไม่เฉพาะแต่เมืองกรุง ข่าวว่าฐานปฏิบัติการที่เคยเป็นพื้นที่ทำมาหากินของจีนเทาทุกวันนี้ ได้กลับมาคึกคักอีกครั้ง อย่างเช่น พื้นที่ภาค 2 ชลบุรี
ตัวอย่างที่เปิดออกมาแล้วแบบเงียบๆ แต่พอล้วงลึกลงไปจะเห็นถึงภาพที่ว่า ก็เบื้องหน้าเบื้องหลังบ่อน “เล้งแซ่บ” ที่ปิดไม่ปิดนั่นไง
งานนี้ หัวไม่ส่ายหางไม่กระดิก...แต่ตอนนี้หัวอาการไม่ปกติ หางจึงฉวยโอกาสเรียกผู้ประกอบการที่คุ้นเคยให้มาเปิดบ่อน ในพื้นที่เขตผิดชอบของกองบัญชาการตำรวจ ภาค 2 จ.ชลบุรี ซึ่งในขณะนี้มีบ่อนพนันขนาดใหญ่ ขาพนันนับร้อยหมุนเวียนเข้าไปเล่นตลอด 24 ชั่วโมง
ว่ากันว่า พิกัดตั้งอยู่ที่ลานจอดรถผับดังแห่งหนึ่ง ซึ่งมีพื้นที่กว้างขวางบริเวณเดียวกับสะดวกซื้อท้องที่ สภ.พลูตาหลวง
บ่อนที่ว่าเป็นของ “เอกใต้” จับมือหุ้นกับ “เล้งแซ่บ” นายตำรวจสัญญาบัตรขาใหญ่ประจำจังหวัด นอกจากกิจการไฮโลว์ แล้วยังมีตู้ม้ารูปแบบใหม่ สะดวกต่อการเคลื่อนย้ายเป็นเพียงจอคอมพิวเตอร์ กับโน๊ตบุ๊ก กระจายไปตามชุมชนท้องที่ สภ.หนองปรือ ศรีราชา และบ่อวิน
กลุ่มเป้าหมาย คือแรงงานหาเช้ากินค่ำ เด็ก ไม่เว้นกระทั่งขี้ยาทั้งหลาย ซึ่งตำรวจ “น้ำดี”หลายคนทราบว่า นี่คือการทำร้าย ทำลายสังคมทั้งทางตรงและทางอ้อม แต่ก็เผลอไม่ได้ เผลอเมื่อไหร่โผล่เมื่อนั้น
แต่ที่หนักหนาแสบกว่า จากฝีมือ “เล้งแซ่บ” คือนำพาแก๊งจีนเทา เข้ามาเปิดบ่อนพนันบาคาร่า กับโป๊กเกอร์ ภายในพูลวิลล่าแห่งหนึ่ง ย่านพัทยา-หนองปรือ เลือกเชือดเฉพาะชาวจีนด้วยกัน
จนล่าสุดเมื่อเร็วๆนี้ เหยื่อชาวจีนได้เข้าร้องเรียนกับตำรวจตรวจคนเข้าเมืองว่า ถูกแก๊งจีนเทาชักชวนไปหลอกเล่นการพนันสูญเงินไปนับ10ล้าน!
สำหรับกิจการบ่อนไฮโลว์ และตู้มาฉบับกระเป๋าหิ้ว หรือกระทั่งบ่อพูลวิลล่าแก๊งจีนเทา นายตำรวจเจ้าของฉายา “เล้งแซ่บ” รับหน้าที่เป็นแม่บ้าน เคลียร์ตั้งแต่โรงพัก กองบังคับการ ยันกองบัญชาการ ตำรวจนอกหน่วย และยังให้ความมั่นใจผู้ประกอบการ ว่าสามารถประสาน ดูแลฝ่ายปกครองได้อย่างทั่วถึง ทั้งในจังหวัดและส่วนกลาง ในทำนอง “จ่ายครบ ไม่จับแน่”
“เล้งแซ่บ”คือใคร!? มีดีอะไร จึงเหิมเกริมขนาดนั้น “พล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท้วม” ผบช.ภ.2 กรุณาอย่างนิ่งเฉย อีกทั้ง “พล.ต.ต.ธวัชเกียรติ จินดาควรสนอง” ผบก.จว.ชลบุรี อันนี้ยิ่งต้องออกแอกชันเป็นพิเศษ เพราะ “เล้งแซ่บ” ไม่ใช่คนอื่นคนไกล
และคงต้องฝาก "บิ๊กต่อ" พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. ก่อนจะเกษียณไว้ลายสักหน่อย ช่วยขยับขับเคลื่อนจัดการล้างบางจีนเทา ขจัดปัดเป่าความเลวร้ายโดยฝีมือตำรวจนอกรีตแห่งภาคตะวันออกนี่ที ก่อนทำร้ายทำลายสังคมมากไปกว่านี้
** สว.สีน้ำเงิน ประกาศฮุบเรียบ เก้าอี้ประธานวุฒิสภา รองประธานฯ “กลุ่มสว.พันธุ์ใหม่”โวย ไม่เปิดโอกาสสตรี
การประชุมวุฒิสภาชุดใหม่ 200 คน ที่มาจากการเลือกกันเองเป็นครั้งแรก จะมีขึ้นในวันนี้ (23 ก.ค.) เพื่อทำการปฏิญาณตนก่อนปฏิบัติหน้าที่ จากนั้นก็เข้าสู่วาระการเลือกประธานวุฒิสภา และรองประธานวุฒิสภา อีก 2 คน
ในจำนวนสว. 200 คนนั้น ตอนนี้มีการเคลมว่าเป็น “สว.สีน้ำเงิน” ซึ่งผูกโยงกับเครือข่าย “พรรคภูมิใจไทย” และ “บ้านใหญ่บุรีรัมย์” มากถึง 150 คน
จากการประชุมนอกรอบของ สว.สีน้ำเงิน เมื่อวันก่อนที่โรงแรมพูลแมน ซอยรางน้ำ เคาะออกมาแล้วว่า จะเสนอชื่อ “มงคล สุระสัจจะ” นักปกครอง อดีตผู้ว่าฯบุรีรัมย์ สายตรง “ครูใหญ่เนวิน” เป็นประธานวุฒิสภา... ส่วน“บิ๊กเกรียง” พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ อดีต ผช.ผบ.ทบ.- อดีตแม่ทัพภาคที่ 4 ที่เคยทำงานใกล้ชิดกับ “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย จะเป็น รองประธานวุฒิสภา คนที่ 1 และ “บุญส่ง น้อยโสภณ” นักกฎหมาย อดีตผู้พิพากษา อดีต กกต. ที่เคยไปเปิดตัวกับ “กลุ่มสว.อิสระ” จะเป็นรองประธานวุฒิสภา คนที่ 2
การที่กลุ่มสีน้ำเงิน ยอมเปิดช่องให้ “บุญส่ง น้อยโสภณ” เพื่อเติมเต็มในด้านกฎหมาย ขณะเดียวกันก็ไม่ให้เกิดภาพ “กินรวบ”
ส่วนกลุ่มที่จะมาชิงตำแหน่ง ประธานฯ รองประธานวุฒิสภา กับสายสีน้ำเงินก็ประกาศเปิดตัวออกมาแล้ว นั่นคือ “กลุ่มสว.พันธุ์ใหม่” รวบรวมสว.ที่มีแนวคิด อุดมการณ์ใกล้เคียงกัน ร่วมกับ “สว.สีส้ม” แต่ที่ไม่ใช้ชื่อ“กลุ่มสว.สีส้ม” เพราะไม่อยากให้ติดภาพ“ล้มเจ้า”
กลุ่มสว.พันธุ์ใหม่ นี้ออกหน้าโดย “นันทนา นันทวโรภาส” สว.สายสื่อมวลชน ประกาศจะลงชิงตำแหน่งประธานวุฒิสภา ส่วนรองประธานวุฒิสภาคนที่ 1 จะส่ง “แล ดิลกวิทยรัตน์” อดีตนักวิชาการด้านแรงงาน และ รองประธานวุฒิสภาคนที่ 2 ส่ง “อังคณา นีละไพจิตร” อดีตกรรมการสิทธิมนุษยชนฯ ลงสู้กับกลุ่มสว.สีน้ำเงิน
แม้จะมีการออกข่าวข่มว่า กลุ่มสีน้ำเงินรวบรวมเสียงได้ถึง 150 เสียง แต่ “นันทนา” ก็ยังไม่ถอดใจ เพราะไม่เชื่อว่าฝ่ายตรงข้ามจะมีเสียงถึง 150 เสียง อีกทั้งไม่เคยเห็นมีใครแสดงตัว ยังเชื่อว่า สว.ทุกคน จะเลือกด้วยความตั้งใจ เป็นประโยชน์กับประชาชน จึงยังไม่ถอดใจ และพร้อมจะแสดงวิสัยทัศน์ ขอให้ประชาชนรอฟัง รับรองได้เลยว่า เมื่อฟังแล้วจะเปลี่ยนภาพของ สว.ไปหมดเลย
ก็คอยติดตามว่า “นันทนา นันทวโรภาส” อดีตดาราสภาโจ๊กที่พูดเอาฮา มาวันนี้ได้มีโอกาสเข้าสภาจริง จะโชว์วิชั่นให้ชวนเคลิบเคลิ้ม ดึงเสียงสนับสนุนได้แค่ไหน
ส่วน “อังคณา นีละไพจิตร” ที่ได้ลุ้นเป็นรองประธานวุฒิสภา คนที่ 2 บอกว่า ไม่หวั่นไหว ไม่เปลี่ยนใจ เพราะ 3รายชื่อ ที่บอกว่าเป็นคนของสายสีน้ำเงินนั้น ล้วนเป็นข้าราชการบำนาญทั้งหมดเลย หากย้อนกลับในช่วงแรกของการเลือก สว. ก็มีการวิพากษ์วิจารณ์ และให้ความเห็นในเรื่องที่เกี่ยวกับ คุณวุฒิ วัยวุฒิ การศึกษา ซึ่งหลายคนก็ออกมาพูดว่า สว.ชุดนี้มีความแตกต่าง หลากหลาย ให้โอกาสคนธรรมดาที่ไม่จำเป็นต้องมีความรู้มาก เข้ามาทำหน้าที่ได้ แต่พอเอาเข้าจริง หากเป็นไปตามรายชื่อดังกล่าว ก็เป็นเรื่องน่าเสียดาย
สำหรับวิสัยทัศน์ที่จะแสดงต่อที่ประชุมนั้น “อังคณา” บอกว่า จะพัฒนาการทำหน้าที่ของวุฒิสภา ให้เป็นที่ยอมรับ และทำงานร่วมกับประชาชนมากยิ่งขึ้น ที่ผ่านมาตั้งแต่การรัฐประหาร สว. มาจากการแต่งตั้งทั้งหมด เวลาที่มีการโหวตอะไรสักอย่าง ก็มักจะขัดกับความรู้สึก หรือความเห็นของประชาชน
ขณะนี้ แม้ว่าตนเองอาจจะไม่กล้าพูดเต็มปากว่า เป็นสว.ที่มาจากประชาชน เพราะประชาชนทุกคนก็ไม่ได้เลือกเรา แต่อย่างน้อย เราก็เป็นคนธรรมดาที่เสนอตัวเข้ามา และเราก็อยากเห็นการทำหน้าที่ของสว. ที่มีความก้าวหน้า ยึดโยงกับประชาชนมากขึ้น
ที่สำคัญคือ ช่วงที่ผ่านมานี้ ไม่มีผู้หญิง ที่จะขึ้นมาเป็นผู้นำของฝ่ายนิติบัญญัติเลย