นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตคณะกรรมการการเลือกตั้ง ชี้ "หมอเกศ" ให้ข้อมูลในใบแนะนำตัวที่เกินจริง ทั้ง ศ. ทั้ง ดร. ทั้งแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ อาจโชคดีรอดตัวมาได้ แต่อาจจบที่แพทย์ผู้เชี่ยวชาญในสาขาที่แพทยสภาไม่มีและไม่สามารถใช้ได้
จากกรณีดรามาคุณสมบัติของ น.ส.เกศกมล เปลี่ยนสมัย หรือหมอเกศ สมาชิกวุฒิสภา กลุ่ม 19 (กลุ่มผู้ประกอบวิชาชีพ ผู้ประกอบอาชีพอิสระ) ได้คะแนนสูงสุด 79 คะแนน ในการคัดเลือก ส.ว.ระดับประเทศ หลังระบุในใบแนะนำตัวผูัสมัคร (สว.) ใช้คำนำหน้าว่า ศาสตราจารย์ ดร.พญ. จบปริญญาเอกรัฐศาสตรดุษฎีบัณฑิตที่ California University รวมถึงใช้คำว่า แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ นั้น
วันนี้ (22ก.ค.67) รศ.สมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุ เรื่องของ ศ.ดร.พญ. จะจบอย่างไร
1. เรื่อง ศ. นั้นไม่มีเจ้าภาพ เนื่องจาก ไม่ได้อ้าง ศ. มหาวิทยาลัยในประเทศ จึงไม่มีมหาวิทยาลัยใด รับเป็นเจ้าทุกข์ ดำเนินคดี ส่วน อว. ก็แค่พูดลอย ๆ ให้พ้นตัว
2. เรื่อง วุฒิ ป.เอก จากเทียบประสบการณ์ ก็ยังคงมีอยู่ในบ้านเมือง เพราะมีคนพร้อมจ่าย และมีบริษัทในต่างประเทศพร้อมรับ อาจารย์ที่ปรึกษารับทำวิทยานิพนธ์ ไม่มีใครลงโทษได้ เพราะเป็นอาจารย์อิสระ ไม่สังกัดสถาบันใด
3. เรื่องบริษัทเอกชนในอเมริกา กล่าวอ้าง รัฐสภาไทยรับรองวุฒิที่ออกโดยเขา ผู้บริหารรัฐสภาไทย คงปรึกษาฝ่ายกฎหมายในสำนักงานอีกนาน จนคนลืมแล้วก็ไปทำเรื่องอื่น เช่น แก้ฝนรั่วหลังคาสภา
4. การใช้คำว่า แพทย์ผู้เชี่ยวชาญในสาขาที่แพทยสภาไม่รับรอง อาจมีการดำเนินการทางวินัยต่อแพทย์ในเรื่องจรรยาบรรณ เช่น ตักเตือน พักใบอนุญาต แต่คงไม่ถึงถอนใบอนุญาต
5. เรื่องคำร้องถึง กกต. กรณีการให้ข้อมูลในใบแนะนำตัวที่เกินจริง ทั้ง ศ. ทั้ง ดร. ทั้งแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านความงามและผิวพรรณ อาจโชคดีผ่านหลายตะแกรงมาได้ แต่อาจจบที่แพทย์ผู้เชี่ยวชาญในสาขาที่แพทยสภาไม่มีและไม่สามารถใช้ได้