‘ธรรมนัส‘ ถกสมาคมประมง 16 จังหวัดแก้ปัญหาปลาหมอคางดำ ห่วงคนหัวใสเพาะขายจนเกิดเอเลี่ยนสปีชีส์ จ่อคุยเชฟชุมพลทำปลาร้าเพิ่มมูลค่า กก.ละ 15 บาทเป็นเงินหมื่นล้าน
วันนี้ (22 ก.ค.67) ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรสหกรณ์ และนายอรรถกร ศิริลัทยากร รัฐมนตรีช่วยการเกษตรและสหกรณ์ ร่วมประชุมหารือร่วมกับผู้แทนสมาคมการประมง 16 จังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำ ณ สมาคมการประมงสมุทรสาคร จ.สมุทรสาคร
ร้อยเอกธรรมนัส กล่าวว่าการแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำ เป็นวาระแห่งชาติที่ปล่อยให้มีสิ่งทำลายสัตว์น้ำ ทำให้เกิดปัญหากับพี่น้องชาวประมง รัฐบาล นำโดยนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีได้กำชับกระทรวงเกษตรฯ โดยเรื่องของการปราบและการแก้ปัญหาปลาหมอคางดำไม่ใช่เพิ่งเริ่มทำ แต่เริ่มทำมาตั้งแต่สมัยที่ตนเองเป็นรัฐมนตรีใหม่ ๆ แต่มาตรการอาจจะไม่ได้ผลตามที่คาดไว้ด้วยหลายปัจจัย จึงต้องทำให้ความสำคัญ เพราะปลาหมอคางดำแพร่ระบาดไว เป็นปลาที่มีความอดทนสูง อยู่ได้ทั้งน้ำเค็ม น้ำ กร่อย น้ำจืด และโคลน ซึ่งถือเป็นเรื่องวิกฤต
ขอขอบคุณภาคการเมืองที่ได้หารือในสภาผู้แทนราษฎร โดยได้จึงได้มอบหมายให้นายอรรถกร เป็นประธานในการแก้ไขปัญหา เพราะถึงเวลาที่ต้องจับมือกันในการแก้ปัญหาอย่างเอาจริงเอาจัง พร้อมกับขอบคุณการยางแห่งประเทศไทย ที่จะรับซื้อปลาหมอคางดำกิโลกรัมละ 15 บาท โดยให้กรมวิชาการเกษตร และกรมพัฒนาที่ดินร่วมกันขับเคลื่อนอย่างจริงจัง เมื่อถามว่าจะซื้อไปถึงไหนถือเป็นเรื่องละเอียดอ่อน
ขณะนี้เราประกาศจับตายปลาหมอคางดำ ซึ่งบุคคลหัวใส ซื้อปลาหมอในราคาที่ถูกเพื่อนำมาขายต่อ ขออย่าทำแบบนั้นเด็ดขาด โดยเบื้องต้นมอบหมายให้ปลัดกระทรวงเกษตรฯ ประชุมกับผู้บริหารภายในกรมประมง ห้ามให้พี่น้องประชาชนเพาะเพื่อขายแล้ว อย่างไรก็ตามในช่วงเย็นวันนี้ จะจัดประชุมหารือร่วมกับเชฟชุมพล แจ้งไพร ทำปลาหมอคางดำเป็นเมนูอาหารแปรรูปเป็นปลาร้า เป็นซอฟพาวเวอร์ของคนอีสาน เพิ่มมูลค่าจากกิโลกรัมละ 15 บาทเป็นเงินหมื่นล้าน
ส่วนที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ถึง 5 มาตรการในการแก้ปัญหาปลาหมอคางดำ จะได้ผลหรือไม่นั้น ทุกอย่างต้องหาทางออกร่วมกัน พร้อมกับระมัดระวังถึงผลกระทบ เช่น การเกิดสายพันธุ์เอเลี่ยนจะมีวิธีแก้ไขอย่างไร ทั้งนี้ได้ให้ปลัดกระทรวงเกษตรฯ ตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางที่มาที่ไปของการแพร่ระบาด โดยเมื่อได้ข้อสรุปจะมีการนำเสนอต่อไป เพราะเป็นเรื่องหมิ่นเหม่ที่จะถูกฟ้องร้องได้