“Swing Thailand” บุกสภา ยื่นรายชื่อประชาชนน หนุนยกเลิก พ.ร.บ.ป้องกันและปราบรามการค้าประเวณี อ้างเป็นกฎหมายไม่ทันสมัย ตีตราผู้ให้บริการทางเพศ ละเมิดสิทธิในร่างกายของผู้ประกอบอาชีพโดยสมัครใจ
เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 18 ก.ค. 2567 ที่รัฐสภา มูลนิธิ Swing Thailand ยื่นหนังสือ พร้อม 4,693 รายชื่อ ต่อนายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาคนที่ 1, นายธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล และ น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองโฆษกพรรคเพื่อไทย เพื่อให้ยกเลิก พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณีพ.ศ. 2539
โดย รศ.ดร.ชลิดาภรณ์ ส่งสัมพันธ์ ประธานมูลนิธิฯ กล่าวว่า ตลอดระยะเวลา 28 ปี ของการมีกฎหมายดังกล่าว ไม่ได้มีการปรับเปลี่ยนไปตามบริบทของสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป โดยมีบทบัญญัติการกำหนดโทษทางอาญาต่อผู้ให้บริการทางเพศ เป็นการตีตราและเลือกปฏิบัติ ทำให้ผู้ประกอบอาชีพต้องใช้ชีวิตอย่างหลบซ่อน ถูกลดทอนความเป็นมนุษย์ การมีกฎหมายฉบับดังกล่าวส่งผลให้ผู้ประกอบอาชีพไม่ได้รับการคุ้มครองภายใต้กฏหมายแรงงาน สะท้อนให้เห็นว่า กฎหมายฉบับดังกล่าว คือ กฎหมายที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนของผู้ประกอบอาชีพพนักงานบริการโดยสมัครใจ ที่เป็นเจ้าของ “สิทธิ” ในเนื้อตัวร่างกาย และมีเสรีภาพในการประกอบอาชีพ มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องยกเลิกพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณี พ.ศ. 2539 ออกไป เพื่อเรียกคืนศักดิ์ศรีและสิทธิของพนักงานบริการ ทางมูลนิธิได้รวบรวมรายชื่อประชาชนผู้สนับสนุนให้มีการยกเลิกกฎหมายดังกล่าว ทั้งหมด 14,484 รายชื่อ เพื่อนำเสนอต่อสภาผู้แทนราษฎร เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป
รศ.ดร.ชลิดาภรณ์ กล่าวว่า การเดินทางของการขับเคลื่อนกฏหมายสิทธิของพนักงานบริการในยกเลิกกฎหมายที่เอาผิดทางอาญากับพนักงานบริการ (Decriminalize sex worker) คือ แก้ไขปัญหาเชิงโครงสร้างที่กดทับให้พนักงานบริการ ปลดล็อกให้อาชีพพนักงานบริการในรับการยอมรับ และคุ้มครองในฐานะอาชีพภายใต้กฏหมายแรงงาน และเป็นอีกก้าวสำคัญของสังคมไทยที่จะเป็นบทพิสูจน์ในการยกระดับทำงานเรื่องสิทธิมนุษยชนว่า สิทธิของพนักงานบริการ คือ สิทธิมนุษยชน (Sex Work Rights are Human Right)
นายปดิพัทธ์ กล่าวว่า รัฐสภาเป็นที่สำหรับทุกคน ไม่ว่าจะประกอบอาชีพใด เพศสภาพใด จะโอบรับทุกความฝันและทุกสิทธิของทุกคน ไม่ว่ากฎหมายนี้จะผ่านหรือไม่ผ่าน แต่ก็ถึงเวลาแล้วที่ต้องเอาเรื่องนี้มาพูดคุยกันอย่างจริงใจที่สุด และพูดคุยกันอย่างมีวุฒิภาวะไม่ปล่อยให้เรื่องศีลธรรมมาปกคลุมมิติอื่นๆ นำไปหาผลประโยชน์โดยไม่ชอบ หรือทำลายอาชีพนี้ ทั้งที่อาชีพนี้ควรจะเป็นเหมือนอาชีพอื่นๆ เพื่อหาเลี้ยงปากท้อง หรือทำตาม เพราะความชอบของตัวเองก็ย่อมได้ ซึ่งเรื่องนี้ทางสภาก็จะรับเรื่องไปตรวจเอกสาร
น.ส.ขัตติยา กล่าวว่า พรรค พท. ในฐานะพรรคฝ่ายรัฐบาล เรายินดีให้การทบทวนกฎหมายฉบับนี้ ซึ่งเรื่องเซ็กซ์เวิร์กเกอร์ เราไม่ได้มองเรื่องของเศรษฐกิจเท่านั้น แต่เป็นเรื่องของสิทธิมนุษยชนทุกคน ซึ่งในเรื่องข้อกฎหมายเรามองว่าควรต้องมีการอัพเดตให้ทันสมัยทันต่อการเปลี่ยนแปลงของสังคม และไม่เป็นช่องว่างให้เจ้าหน้าที่เรียกรับผลประโยชน์ ย้ำว่า พรรค พท.และพรรคร่วมรัฐบาลยินดีทบทวนที่จะยกเลิกกฎหมายฉบับนี้
ด้า นายธัญวัจน์ กล่าวว่า เราได้ติดตามเรื่องราวดังกล่าวมาตลอดและได้มีการพูดคุยกันเป็นระยะ วันนี้จึงมองว่าเราควรต้องทำให้ทุกคนมีสิทธิ์และศักดิ์ศรีในการประกอบอาชีพ ซึ่งเรื่องเพศคนมักตีตราและมองว่าเป็นเรื่องที่ผิดไม่ถูกต้อง แต่วันนี้ถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องเร่งให้เรื่องนี้เกิดขึ้นเป็นจริงในประเทศไทย