รองโฆษกรัฐบาล เผย ครม.เห็นชอบการขอยกเว้นการปฏิบัติตามมติ ครม. ห้ามมิให้ประโยชน์ในพื้นที่ป่าชายเลนในทุกกรณี เพื่อให้ ปตท. สามารถใช้ประโยชน์บริเวณแม่น้ำบางปะกง ดำเนินโครงการระบบท่อส่งก๊าซธรรมชาติบนบกไปโรงไฟฟ้าพระนครใต้
วันนี้ (16 ก.ค.) นางรัดเกล้า อินทวงศ์ สุวรรณคีรี รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันนี้ (16 กรกฎาคม 2567) คณะรัฐมนตรี มีมติเห็นชอบการขอยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีทั้งสิ้น 4 ฉบับ คือ ที่ออกเมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2530 วันที่ 23 กรกฎาคม 2534 วันที่ 22 สิงหาคม 2543 และวันที่ 17 ตุลาคม 2543 ที่ห้ามมิให้ใช้ประโยชน์ในพื้นที่ป่าชายเลนในทุกกรณี เพื่อให้บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) สามารถใช้ประโยชน์ในพื้นที่ป่าชายเลน บริเวณแม่น้ำบางปะกง ตำบลบางปะกง และตำบลท่าสะอ้าน อำเภอบางปะกง พื้นที่ประมาณ 3-0-75 ไร่ สำหรับดำเนินโครงการระบบท่อส่งก๊าซธรรมชาติบนบกจากบางปะกงไปโรงไฟฟ้าพระนครใต้ ได้ ตามที่กระทรวงพลังงาน (พน.) เสนอ
รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พน. รายงานว่า ปตท. เป็นผู้รับผิดชอบดำเนินโครงการ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถของโครงข่ายระบบท่อก๊าซธรรมชาติบนบกให้สามารถรองรับความต้องการก๊าซธรรมชาติที่สูงขึ้นจากการเพิ่มขึ้นของโรงไฟฟ้าในเขตนครหลวง ตามแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย พ.ศ. 2561-2580 ฉบับปรับปรุงครั้งที่ 1 ซึ่งการดำเนินการจะเป็นไปในลักษณะของการวางท่อใต้แนวสายไฟฟ้าแรงสูง ขนาดท่อ 36 นิ้ว ตั้งแต่สถานีควบคุมความดันก๊าซธรรมชาติ BP4 ในพื้นที่ตำบลท่าข้าม อำเภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา ไปจนถึงโรงไฟฟ้าพระนครใต้ ในพื้นที่ตำบลบางโปรง อำเภอเมืองสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ รวมระยะทางประมาณ 57 กิโลเมตร ภายใต้กรอบวงเงินลงทุนรวม 13,590 ล้านบาท โดยมีกำหนดระยะเวลาแล้วเสร็จภายในปี พ.ศ. 2568
จากการสำรวจพื้นที่ป่า พบว่า การวางท่อส่งก๊าซธรรมชาติของโครงการฯ ผ่านพื้นที่ป่าชายเลนตามมติ ครม. โดยตั้งอยู่บริเวณริมแม่น้ำบางปะกง ในพื้นที่ตำบลบางปะกงและตำบลท่าสะอ้าน อำเภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา ขนาดพื้นที่ 3-0-75 ไร่ (5,000 ตารางเมตร) ซึ่งยังคงมีสภาพเป็นป่าชายเลนและมีพันธุ์ไม้ป่าชายเลนขึ้นอยู่ โดยป่าชายเลนดังกล่าวเป็นป่าชายเลนที่มีสิทธิครอบครองที่ดินโดยเอกชน ระยะทางประมาณ 652 เมตร และเป็นพื้นที่ป่าชายเลนไม่มีเอกสารสิทธิ์ครอบครองที่ดิน ระยะทางประมาณ 85 เมตร ดังนั้น ปตท. จึงต้องขอยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรี 4 ฉบับ ที่ห้ามใช้ประโยชน์ในพื้นที่ป่าชายเลนต่อคณะรัฐมนตรี จำนวน 3-0-75 ไร่ และต้องขออนุญาตจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามขั้นตอน ทั้งนี้ ปตท. ได้ดำเนินการขออนุญาตจากคณะกรรมการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว
โดย กระทรวงคมนาคม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สำนักงบประมาณ (สงป.) และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ พิจารณาแล้วไม่มีข้อขัดข้อง/เห็นชอบตามที่ พน. เสนอ และมีความเห็นเพิ่มเติม ซึ่ง พน. ควรรับไปดำเนินการ เช่น หากมีการก่อสร้างวางระบบท่อก๊าซธรรมชาติ หรือสิ่งก่อสร้างก่อสร้างวางระบบท่อก๊าซธรรมชาติหรือสิ่งก่อสร้างอื่นใด ในเขตทางหลวงให้ดำเนินการขออนุญาตต่อกรมทางหลวงตามขั้นตอน และให้ดำเนินการตามมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมโดยเคร่งครัด ทั้งนี้ ในส่วนค่าใช้จ่ายในการปลูกและบำรุงรักษาป่าชายเลนทดแทนไม่น้อยกว่า 20 เท่า ของพื้นที่ป่าชายเลนที่ได้รับอนุญาต สงป. เห็นควรให้ ปตท. พิจารณาใช้จ่ายจากเงินรายได้