“สนธิญา” ร้อง ป.ป.ช.เอาผิด “หมอเกศ” ฝ่าฝืนจริยธรรม อ้างวุฒิการศึกษาจาก California University FCE ที่ไม่ผ่านการรับรอง ในใบสมัคร ส.ว. เข้าข่ายจูงใจให้เข้าใจผิดในคุณสมบัติ
วันนี้ (16 ก.ค.) นายสนธิญา สวัสดี ยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ขอให้สอ บ พญ.เกศกมล เปลี่ยนสมัย หรือ “หมอเกศ” ส.ว. กลุ่ม 19 (กลุ่มผู้ประกอบวิชาชีพ ผู้ประกอบอาชีพอิสระ) ได้คะแนนสูงสุด 79 คะแนน ในการคัดเลือก ส.ว.ระดับประเทศ กรณีมีปัญหาเรื่องวุฒิการศึกษา ที่ไม่ได้มีการรับรองในประเทศไทย หรืออาจเป็นวุฒิที่จ่ายเงินซื้อมา แต่กลับนำข้อมูลลงในใบสมัคร ส.ว.จนได้รับเลือก เข้าข่ายกระทำผิดจริยธรรมร้ายแรง
นายสนธิญา กล่าวว่า เพิ่งทราบว่า ก่อนหน้านี้ พญ.เกศกมล เคยอยู่ในคณะกรรมาธิการการกฎหมายการยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน ของรัฐสภาชุดที่แล้ว ซึ่งเป็นชุดเดียวกันกับที่ตัวเองเคยอยู่ แต่ขณะทำงานตนก็ไม่เคยได้ยินชื่อของ พญ.เกศกมล มาก่อน
ส่วนประเด็นวุฒิการศึกษาที่ได้มาจาก California University FCE ซึ่งเป็นบริษัทที่รับเทียบโอนคุณวุฒิ ไม่ได้มีการรับรองตำแหน่งทางวิชาการตามกฎหมายไทย จึงมายื่นเรื่องให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบจริยธรรมร้ายแรง เพราะการที่นำวุฒิดังกล่าวไปยื่นใส่ใบข้อมูลคุณสมบัติ สว.2 หรือ สว.3 กับ คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. เพื่อใช้ในเลือกตั้ง ส.ว. ถือว่าผิด พ.ร.ป.มาตรา 77(4) จูงใจให้บุคคลเข้าใจผิดในคุณสมบัติ
นายสนธิญา กล่าวว่า ขณะนี้ตัวเองกำลังศึกษาต่ออยู่ในระดับปริญญาโท ในประเทศไทย ซึ่งตัวเองได้สอบถามทาง กกต.ว่าสามารถลงคุณสมบัติส่วนนี้ได้หรือไม่ ได้รับการตอบกลับว่า ไม่สามารถทำได้ เมื่อย้อนกลับมาดูว่า การที่ พญ.เกศกมล นำวุฒิการศึกษาไปลงในลักษณะนี้ เจตนาเป็นอย่างไร และได้ประโยชน์หรือไม่ และทำให้การเลือกตั้งไม่สุจริตและเที่ยงธรรมหรือไม่ ซึ่งที่ผ่านมา ตัวเองได้ข้อมูลว่า มีผู้สมัครจากจังหวัดขอนแก่นท่านหนึ่ง บอกกับตัวเองว่าลงคะแนนเลือก พญ.เกศกมล เพราะเห็นว่ามีคุณสมบัติทางการศึกษาเหมาะที่จะเป็นสมาชิกวุฒิสภา
นายสนธิญา มองว่า ถ้าวุฒิการศึกษาที่จบมาจากต่างประเทศ ของ พญ.เกศกมล ใช้ในทางส่วนตัวสามารถทำได้ แต่เมื่อไหร่ที่นำไปใช้ประโยชน์ในทางราชการ จะถือว่าขัดต่อกฎหมายแน่นอน
ส่วนที่อ้างว่า ได้ส่งหนังสือไปถึง กกต.เพื่อสอบถามแล้วว่าสามารถใส่วุฒิการศึกษาลงในการสมัคร ส.ว.ได้หรือไม่ และ กกต.ก็อนุญาต นายสนธิญา กล่าวว่า นายสนธิญา มองว่า สิ่งสำคัญคือ คุณวุฒิตำแหน่งศาสตราจารย์ ได้มาอย่างไม่ถูกต้อง ทางการไทยไม่รับรอง แต่กลับนำไปใช้ในการเลือกตั้ง ส.ว. แค่นี้ก็ถือว่าไม่ถูกต้องแล้ว ขณะเดียวกัน ทนายความและกลุ่มคนที่ไปแถลงข่าวชี้แจงกรณีดังกล่าว หากมีความชัดเจนว่าสิ่งที่แถลงข่าวไม่เป็นความจริง ก็จะเข้าข่ายนำข้อความอันเป็นเท็จลงสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งตัวเองเตรียมจะร้องกองบัญชาการตำรวจนครบาล ตรวจสอบเอาผิดเรื่องนี้ภายในสัปดาห์หน้า
ขณะเดียวกัน ในส่วนของการร้อง ป.ป.ช.วันนี้ นอกจากจะให้ตรวจสอบจริยธรรมร้ายแรง ก็จะนำหลักฐานที่มีส่งให้ทาง ป.ป.ช.ไต่สวนพิจารณาวินิจฉัยและส่งศาลฎีกา ซึ่งส่วนตัวมองว่า วันนี้ หาก พญ.เกศกมล ลาออกจากการเป็น ส.ว.สถานการณ์ต่างๆ น่าจะคลี่คลายไป