ก.คลัง เวียนหนังสือทั่วประเทศ แจ้ง ยกเลิกเบี้ยประชุม 2 บอร์ด อนุฯ ก.ตร. ชุดปัจจุบัน “อนุ ก.ตร.เกี่ยวกับการอุทธรณ์” และ “อนุ ก.ตร.เกี่ยวกับการร้องทุกข์” เฉพาะประธาน รับเดือนละหมื่น พ่วง “เพิ่มเบี้ยประชุมย้อนหลัง” 6 เดือน ให้ 6 รองนายกฯ และกรรมการ ที่นั่งในตำแหน่งอนุกรรมการ 6 คณะ ใน บอร์ด ก.น.บ.ชุดใหญ่ ที่ได้สิทธิรับเบี้ยประชุม เดือนละ 5 พัน
วันนี้ (15 ก.ค.) มีรายงานจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ กรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง เวียนหนังสือประกาศกระทรวงการคลัง ถึงหน่วยงานราชการทั่วประเทศ
เพื่อแจ้งการ “ยกเลิก” กำหนดรายชื่อคณะอนุกรรมการในคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ตามบัญชีหมายเลข 2 ลำดับที่ 12.1 (2) และ (3) ในกรณีของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.)
“ในส่วนของ คณะอนุกรรมการ ก.ตร.เกี่ยวกับการอุทธรณ์ และคณะอนุกรรมการ ก.ตร.เกี่ยวกับการร้องทุกข์”
สำหรับอัตราเบี้ยประชุม ทั้ง 2 ชุด ซึ่งรับมาตั้งแต่ มี.ค. 2564 เฉพาะประธาน รับเดือนละ 1 หมื่นบาท รองประธาน ได้ 9 พันบาท ส่วน กรรมการ ได้ เดือนละ 8 พันบาท
ทั้งนี้ เป็นไปตามแนบท้ายประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง กำหนดรายชื่อ คณะกรรมการและคณะอนุกรรมการที่มีสิทธิได้รับเบี้ยประชุมเป็นรายเดือน และอัตราเบี้ยประชุมเป็นรายเดือน และเป็นรายครั้ง
สำหรับกรรมการ อนุกรรมการ เลขานุการ และผู้ช่วยเลขานุการ พ.ศ. 2567 ลงวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2567
ทั้งนี้ ยังแจ้งเวียน กำหนดเพิ่มเติม รายชื่อคณะอนุกรรมการ ที่มีสิทธิได้รับเบี้ยประชุมเป็นรายเดือน ตามประกาศกระทรวงการคลัง
เรื่อง กำหนดรายชื่อคณะกรรมการและคณะอนุกรรมการที่มีสิทธิได้รับเบี้ยประชุมและอัตราเบี้ยประชุมเป็นรายเดือน (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2567 ลงวันที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2567 ในส่วนของสำนักนายกรัฐมนตรี
“ประกอบด้วย คณะอนุกรรมการในคณะกรรมการนโยบายการบริหารงานเชิงพื้นที่แบบบูรณาการ (ก.น.บ.) จำนวน 6 คณะ ประจำภาคเหนือ ตะวันออกเฉียงเหนือ กลาง ตะวันออก ใต้ และ ชายแดนใต้”
ตามประกาศ ก.น.บ. เรื่อง การจัดตั้งภาค กลุ่มจังหวัด และกำหนดจังหวัดที่เป็นศูนย์ปฏิบัติการของกลุ่มจังหวัด โดยมีอำนาจบริหารศูนย์ปฏิบัตการในกลุ่มจังหวัด
ทั้งนี้ ประธานอนุฯ จะได้รับเบี้ยประชุม เดือนละ 5,000 บาท อนุกรรมการ จะได้รับเบี้ยประชุม เดือนละ 4,000 บาท
ให้มีผลตั้งแต่การประชุมครั้งแรก แต่ไม่ก่อนวันที่ 24 มกราคม 2567 ซึ่งเป็นวันที่คำสั่งแต่งตั้งมีผลใช้บังคับ โดยให้ใช้บังคับเพิ่มเบี้ยตั้งแต่วันที่ 26 มิ.ย. ซึ่งเป็นวันออกประกาศเป็นต้นไป
สำหรับอนุกรรมการ ทั้ง 6 ภาค นายภูมิธรรม เวชยชัย เป็นประธานอนุประจำภาคตะวันออกเฉียงเหนือ นายอนุทิน ชาญวีรกูล เป็นประธานอนุประจำภาคกลาง
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นประธานอนุประจำภาคเหนือ นายพิชัย ชุณหวชิร เป็นประธานอนุประจำภาคตะวันออก
นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เป็นประธานอนุประจำภาคใต้ และพลตำรวจเอก พัชรวาท วงษ์สุวรรณ เป็นประธานอนุประจำภาคใต้ชายแดน
มีหน้าที่และอำนาจหลักในการวางแนวทางปฏิบัติและอำนวยการให้การบริหารงานเชิงพื้นที่แบบบูรณาการในภาคเป็นไปตามนโยบาย หลักการ และวิธีการตามที่ ก.น.บ. กำหนดจัดทำเป้าหมายและแนวทางการพัฒนาภาค
และพิจารณากลั่นกรองเป้าหมายการพัฒนาจังหวัด 20 ปี วัตถุประสงค์และทิศทางการพัฒนาในอนาคตของกลุ่มจังหวัด แผนพัฒนาและแผนปฏิบัติราชการประจำปีของจังหวัด กลุ่มจังหวัด
ข้อเสนอโครงการของส่วนราชการที่สอดคล้องกับเป้าหมายและแนวทางการพัฒนาภาค รวมทั้งบูรณาการแผนงานโครงการของส่วนราชการและแผนพัฒนาระดับพื้นที่ก่อนนำเสนอ ก.น.บ.