รมว.คลัง รับเศรษฐกิจไทยยังตกต่ำ เผย ครม.เศรษฐกิจ เจอปัญหาใหญ่ เรื่องหนี้ครัวเรือน ฝาก ธปท. หารือแบงก์พาณิชย์ ช่วยยืดผ่อนชำระหนี้บ้าน 80-85 ปี พร้อมให้ ธปท.ทบทวน จ่ายบัตรเครดิตขั้นต่ำ จาก 8% มาเหลือ 5%
วันนี้ (15 ก.ค.) นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง กล่าวถึงผลการประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจ โดยกล่าวเริ่มต้นว่า ในขณะนี้เศรษฐกิจยังตกต่ำ สัญญาณการฟื้นตัวเศรษฐกิจค่อยๆ ฟื้นตัว และปัญหาที่ใหญ่ที่สุด คือ เรื่องหนี้ครัวเรือนของประชาชน ซึ่งจะเป็นหนี้บ้าน หนี้รถยนต์ หนี้บัตรเครดิต และหนี้ใช้จ่ายเพื่อการบริโภค
สำหรับหนี้บ้าน ในขณะนี้ธนาคารอาคารสงเคราะห์ หรือ ธอส. ปล่อยหนี้บ้าน ประมาณ 34% ของหนี้ทั้งหมด โดยมีหนี้ของลูกค้า ธอส.ที่ไม่ชำระคืนได้ ประมาณ 8 หมื่นกว่าราย และทางธนาคาร ธอส. ได้ทำคลินิกแก้หนี้ด้วยการพูดคุยกับลูกหนี้ และให้มีการยืดการผ่อนชำระไปจนถึงอายุ 80-85 ปี หรือให้มีการปรับหลักเกณณ์การคิดดอกเบี้ย ซึ่งในขณะนี้มีคนเข้ามาพูดคุยกับทาง ธอส.แล้ว 5 หมื่นกว่าราย
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการอยากให้นำรูปแบบการช่วยเหลือของ ธอส. ไปพูดคุยและขอความร่วมมือกับทางธนาคารพาณิชย์อื่นๆ ด้วย เพื่อไม่ให้เกิดหนี้เสีย และกลับมาเป็นลูกหนี้ที่ดีของธนาคารพาณิชย์ได้ในอนาคต ซึ่งในที่ประชุมวันนี้มีธนาคารแห่งประเทศไทยร่วมอยู่ด้วย จึงฝากเรื่องนี้ไว้ด้วย
สำหรับหนี้บัตรเครดิต ปัจจุบันมีจำนวนบัตรเครดิตทั้งหมด 24 ล้านใบ เป็นหนี้เสียไปแล้ว 1.1 ล้านใบ และกำลังเป็นหนี้เสียอีก 2 แสนใบ รวมแล้ว กว่า 1.3 แสนใบ โดยมีแนวทางการช่วยเหลือผ่านทางคลินิกแก้หนี้ เพื่อยืดระยะการผ่อนชำระให้นานขึ้น และลดอัตราดอกเบี้ย 3-5% และในขณะนี้มีบริษัทบัตรเครดิตให้ความร่วมมือ พร้อมกับฝากให้ธนาคารแห่งประเทศไทย ช่วยติดต่อกับบริษัทบัตรเครดิตรายใหญ่ ให้เข้าร่วมกับคลีนิกแก้หนี้ รวมถึงฝากให้ ธปท.ช่วยพิจารณาทบทวนการจ่ายบัตรเครดิตขั้นต่ำ จาก 8% กลับมาอยู่ที่ 5% ซึ่งตัวแทน ธปท.จะนำกลับไปพิจารณาโดยด่วน