โฆษกรัฐบาล เผยผลสำเร็จการทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เยือนจีน ยกระดับความร่วมมือทุกมิติ ภาครัฐ-ภาคธุรกิจ-ประชาชน ผลักดันส่งออกสินค้าเกษตรจากไทยไปจีน เยือนอินเดียต่อเนื่อง ย้ำ ความพร้อมของไทยในฐานะประธานและเจ้าภาพจัดการประชุมผู้นำ BIMSTEC ครั้งที่ 6 ณ กรุงเทพฯ เดือนกันยายน 2567 นี้
นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นโยบายการทูตเศรษฐกิจเชิงรุกของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ส่งผลให้เกิดเห็นเป็นความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้เยือนสาธารณรัฐประชาชนจีน อย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 8-10 กรกฎาคม 2567 ยกระดับความสัมพันธ์ระหว่างไทย-จีน มุ่งขยายโอกาสและอำนวยความสะดวกด้านการค้าการลงทุนระหว่างกันในอนาคต พร้อมเดินทางต่อเนื่องไปยังสาธารณรัฐอินเดีย ระหว่างวันที่ 11-12 กรกฎาคม 2567 เพื่อเพิ่มพูนความร่วมมือภายใต้ความริเริ่มแห่งอ่าวเบงกอลสำหรับความร่วมมือหลากหลายสาขาทางวิชาการและเศรษฐกิจ (BIMSTEC) และย้ำความพร้อมของไทยในการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมผู้นำ BIMSTEC ครั้งที่ 6 ณ กรุงเทพฯ ประเทศไทย ในช่วงเดือนกันยายน 2567 นี้
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จากการเยือนจีนของนายมาริษ เป็นการต่อยอดความร่วมมือระหว่างไทย-จีน ภายหลังการเยือนจีนอย่างเป็นทางการของนายกรัฐมนตรี เมื่อเดือนตุลาคม 2566 โดยในการเยือนครั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้พบหารือกับผู้นำระดับสูงและบุคคลสำคัญของจีน โดยได้หารือเพื่อกระชับความสัมพันธ์ทวิภาคีในทุกระดับ ทั้งระหว่างภาครัฐ ภาคธุรกิจ และประชาชน (G2G B2B และ P2P) พร้อมผลักดันความร่วมมือทางเศรษฐกิจ เช่น การอำนวยความสะดวกด้านการค้าสินค้าเกษตร การส่งเสริมความเป็นหุ้นส่วนด้านเศรษฐกิจในระยะยาวผ่านนโยบาย IGNITE Thailand การส่งเสริมการลงทุนของจีนในอุตสาหกรรมเป้าหมายของไทย ซึ่งจีนพร้อมสนับสนุนไทยเป็น Regional Hub ผลิตส่วนประกอบ EV สำคัญให้จีน ตลอดจนการส่งเสริมการท่องเที่ยวระหว่างกัน และความร่วมมือเพื่อแก้ปัญหาข้ามแดน รวมถึงการกระชับความสัมพันธ์ในกรอบพหุภาคีร่วมกัน
นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้หารือกับประธานธนาคารแห่งประเทศจีน (Bank of China) ซึ่งเป็นธนาคารจีนแห่งแรกที่เปิดสำนักงานใหญ่ในไทย โดยธนาคารตอบรับที่จะเป็นตัวกลางสนับสนุนธุรกิจไทยเข้าตลาดทุนจีน พร้อมจะแนะนำธุรกิจจีนรายใหญ่ให้ลงทุนในเศรษฐกิจไทย ผ่านอุตสาหกรรมสาขาต่างๆ ที่ไทยนำเสนอ เช่น เซมิคอนดักเตอร์ ชิ้นส่วนหลักของ EV เศรษฐกิจดิจิทัล และพลังงาน รวมทั้งได้เชิญชวนธนาคารเข้าร่วมกิจกรรมโรด์โชว์ของไทยในจีนที่จะจัดขึ้น ณ กรุงปักกิ่ง ช่วงเดือนกันยายน 2567 นี้ด้วย
จากนั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้เดินทางต่อเนื่องไปยังกรุงนิวเดลี สาธารณรัฐอินเดีย ซึ่งเป็นการเยือนอย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 11-12 กรกฎาคม 2567 เพื่อร่วมการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศบิมสเทคอย่างไม่เป็นทางการ (BIMSTEC Foreign Ministers’ Retreat) ครั้งที่ 2 โดยที่ประชุมได้หารือถึงการจัดตั้งกลไกประสานงานระหว่างสมาชิกเพื่อรับมือกับวิกฤตการณ์ต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ความคืบหน้าของการเจรจาความตกลงการค้าเสรีบิมสเทค (BIMSTEC Free Trade Area) การส่งเสริมการท่องเที่ยว และความร่วมมือด้านการขนส่งทางทะเล โดยไทยได้เน้นย้ำความพร้อมในฐานะประธานและเจ้าภาพจัดการประชุมผู้นำ BIMSTEC ครั้งที่ 6 ณ กรุงเทพฯ ประเทศไทย ในช่วงเดือนกันยายน 2567 (http://www.bimstecthailand.com/)
“นายกรัฐมนตรีขอบคุณหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ดำเนินตามนโยบายการทูตเชิงรุกของนายกรัฐมนตรีอย่างต่อเนื่อง แสวงหาโอกาส ส่งเสริมให้เกิดการค้า การลงทุนกับทุกมิตรประเทศในทุกมิติ ไม่เพียงแต่ด้านเศรษฐกิจ แต่รวมทั้งด้านสังคม วัฒนธรรม สิ่งแวดล้อม การท่องเที่ยว และความสัมพันธ์แบบประชาชนสู่ประชาชนด้วย ซึ่งเชื่อมั่นว่าด้วยการดำเนินยุทธศาสตร์ที่เปิดกว้างพร้อมร่วมมือนี้ จะเป็นประตู่สู่ทุกความร่วมมือของไทยกับสังคมโลก” นายชัย กล่าว