“ธรรมนัส” แจงเพิกถอนสภาพป่าทับลาน 2.56 แสนไร่ กระทรวงเกษตรฯ ไม่เกี่ยว ขออย่าพาดพิง ส.ป.ก.เป็นแค่ผู้ปฏิบัติ ชี้ เป็นปัญหาเดิมเกิดมาหลายยุค เพิ่งได้ข้อสรุปในรัฐบาลชุดที่แล้ว และอยู่ในขั้นตอนกรมอุทยานฯ เผย ก.เกษตร-ก.ทรัพย์ คุยกันดี ต้องแยกแยะกลุ่มทุนกับเกษตรกร
วันนี้ (9 ก.ค.) เมื่อเวลา 10.10 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้สัมภาษณ์ถึงการเพิกถอนสภาพป่าทับลาน พื้นที่ประมาณ 256,000 ไร่ ว่า เรื่องทับลานที่กำลังเป็นประเด็นอยู่นั้น ขออนุญาตตอบคำถามแบบที่เราไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง การทำงานของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในทุกๆ เรื่อง เราทำงานภายใต้นโยบายคณะกรรมการแห่งชาติทั้งหมด รวมถึงเรื่องที่ดินที่ทำงานภายใต้คณะกรรมการที่ดินแห่งชาติ (คทช.) ซึ่งจะมีคณะกรรมการที่ประกอบไปด้วย ผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ส่วนเรื่องข้าวเราก็มีคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กนข.) ฉะนั้นจะทำอะไรกระทรวงเกษตรฯของเรา เป็นผู้รับนโยบายแห่งชาติ มาปฏิบัติ หากกลับมาที่เรื่องทับลาน สืบเนื่องจากรัฐบาลเดิมในหลายยุค แต่มาสรุปในรัฐบาลชุดที่แล้ว ต้นปี 2566 ซึ่งนำความเห็นของมติคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ เสนอต่อ ครม.ในยุครัฐบาลที่แล้ว ในเรื่องของการปรับแนวเขต ปี 2543 ตรงนี้ถือเป็นประเด็นสำคัญ
“ดังนั้น กระทรวงเกษตรฯ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเรื่องนี้ ทั้งนี้ เมื่อคณะกรรมการที่ดินแห่งชาติ เห็นชอบอย่างไร นำเสนอ ครม.ชุดที่แล้ว เมื่อ ครม.เห็นชอบ ก็เป็นเรื่องกระบวนการที่ต้องไปดำเนินการตามกระบวนการ โดยกรมอุทยานฯ และในช่วงนี้เห็นว่าเป็นประเด็นที่มีการรับฟังเสียงประชาชนที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ ถือเป็นเรื่องของกรมอุทยานฯ ที่ต้องดำเนินการ ภายใต้การดูแลของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ฉะนั้น ต้องกราบเรียนนำเสนอให้เข้าใจ ไม่ใช่เป็นเรื่องของรัฐบาลชุดปัจจุบัน เดี๋ยวจะไปผสมผสานเข้าใจกันผิด” ร.อ.ธรรมนัส กล่าว
ร.อ.ธรรมนัส กล่าวอีกว่า ในฐานะที่ตนได้กำกับดูแล สำนักงานปฏิรูปที่ดิน (ส.ป.ก.) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่รับนโยบายจาก คทช.ที่เห็นชอบ นำเข้าที่ประชุม ครม. เมื่อเห็นชอบให้ ส.ป.ก.ไปจัดสรรที่ดินให้พี่น้องเกษตรกรได้ทำกิน เราก็จะนำไปปฏิบัติ แต่ขั้นตอนเวลานี้ไม่ใช่ขั้นตอนตามกระบวนการของ.ส.ป.ก.ที่จะดำเนินการ
“ขอให้เข้าใจตรงนี้ เพราะมีสื่อบางสำนักไปโจมตีพาดพิง ส.ป.ก. เขาจะเสียหาย” ร.อ.ธรรมนัส กบ่าว
เมื่อถามว่า พื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ซับซ้อนและพรรคพลังประชารัฐ เคยใช้เป็นพื้นที่ในการจัดสัมมนา และมีการพาดพิงว่าเกิดมติ ครม.ตามมาในวันที่ 14 มีนาคม 66 ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ตนในฐานะที่ออกมาแล้วในตอนนั้น เลยไม่ทราบ
เมื่อถามว่า ที่ดินทับซ้อนประมาณ 1.5 แสนไร่ มีทั้งกลุ่มนายทุนและชาวบ้าน ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า เราต้องแยกก่อน เชื่อว่า กระทรวงทรัพย์ โดยกรมอุทยานฯ ที่เขาก็มีคณะกรรมการด้วย รวมทั้งหมด 1-2 กว่าแสนไร่ ต้องจำแนกให้ชัดเจนว่าตรงไหนเป็นพื้นที่ของประชาชน ที่ร้องเรียนมา สู่การประชุมของ คทช.
เมื่อถามว่า แสดงว่า เห็นด้วยกับการให้จำแนกพื้นที่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ถูกต้อง มันต้องให้ชัดเจนในแนวเขต ตรงไหนเขตอนุรักษ์เป็นป่า และพื้นที่ชาวบ้านอยู่ๆ แล้ว หลายท่านที่นำเสนอล้วนแล้วแต่เป็นข้อมูลที่ถูกต้อง แต่ต้องเข้าใจว่า ตรงนี้เป็นการแก้ปัญหาข้อพิพาทระหว่างรัฐกับประชาชน ซึ่งมีมาตรการและขั้นตอนอยู่ ซึ่งต้องใจเย็นๆ ณ เวลานี้อยู่ในขั้นตอนที่ กรมอุทยานฯ กำลังทำประชาพิจารณ์รับฟังความคิดเห็น
เมื่อถามว่า ขั้นตอนตรงนี้จะใช้แผนที่ของหน่วยงานใด จึงจะได้ข้อยุติ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ต้องยอมรับว่า เราบริหารราชการแผ่นดิน ภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับนี้ ระบุชัดเจนว่า หน่วยงานที่จะไปปฏิบัติ หรือกรมอุทยานฯ จะไปปฏิบัติอะไร ก็ต้องนำมติ คทช.ที่ผ่านมา และผ่าน ครม.แล้วมาปฏิบัติ ส่วนผลจะเป็นอย่างไรต้องรอฟัง
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า พื้นที่ ส.ป.ก.กับพื้นที่กรมอุทยานฯ ยังมีอีกหลายพื้นที่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ต้องยืนยันว่า หน่วยงานภายใต้การดูแลกระทรวงเกษตรฯ เป็นหน่วยงานปฏิบัติตามมติ ครม.และ ครม.ได้เห็นชอบตามที่ คทช.เสนอ ถ้าเราไม่ปฏิบัติก็จะโดนมาตรา 157 เหมือนกัน ฉะนั้น ยังไม่ถึงกระบวนการของ ส.ป.ก.
เมื่อถามว่า ถ้าตามกระบวนการแล้ว เห็นชอบใช้แนวเขตปี 2543 ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ต้องฟังผลจากการรับฟังเสียงของประชาชนก่อน ตอนนี้ ส.ป.ก.ยังไม่ต้องทำอะไร เป็นเรื่องของกระทรวงทรัพย์ ที่ดำเนินการอยู่ ซึ่งจากการฟังบทสัมภาษณ์ของอธิบดีกรมอุทยานฯ ท่านก็บอกมาถูกต้องแล้ว หากกระทรวงทรัพย์เห็นชอบมาอย่างไร หน่วยงานไหนได้ถูกมอบหมายให้ไปดำเนินการก็จะต้องมีการแก้ไขปัญหาให้ชัดเจน อันไหนที่กลุ่มนายทุนบุกรุกอย่างที่ตนทำ ซึ่งกำลังจะออกหมายจับกลุ่มทุนอีกหลายคน โดยการดำเนินการของ ส.ป.ก. ที่ต้องแยกแยะระหว่างผู้กระทำผิดกฎหมาย กับปัญหาประชาชน ไม่เช่นนั้น ภาครัฐ คงไม่กล้าทำงาน เพราะทำอะไรก็โดนหมด
เมื่อถามว่า หากตามกระบวนการแล้ว มีการนิรโทษกรรมนายทุนทั้งหมด ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ไม่หรอก มันต้องจำแนกให้ชัดเจน กลุ่มไหนคือเกษตรกร กลุ่มไหนคือกลุ่มทุน
เมื่อถามว่า กลายเป็นว่า กระทรวงเกษตรฯ และกระทรวงทรัพย์ งัดข้อกันเองหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ไม่หรอก เรื่องนี้เรามีการพูดคุยกันตลอด แล้วเมื่อวานก็ได้มีการหารือกับ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.ทรัพย์ และปลัดกระทรวงทรัพย์ ไม่มีประเด็นอะไร เพราะยังไม่ถึงกระบวนการของ ส.ป.ก.ที่จะต้องทำอะไร
เมื่อถามว่า ที่ผ่านมา มีปัญหาที่ไม่ตรงกันของทั้งสองกระทรวงหลายครั้ง ร.อ.ธรรมนัส กล่าวยืนยันว่า “ไม่ครับ ตอนนี้เรามีคณะกรรมการทำงานร่วมกันอยู่”