เมืองไทย 360 องศา
การพิจารณาเรื่องนิรโทษกรรมกำลังจะมาถึงบทสรุปแล้วว่าจะเอาอย่างไร จะมีการครอบคลุมการนิรโทษความผิด มาตรา 112 หรือไม่ โดยคาดว่าจะมีผลสรุปออกมาอีกไม่เกิน 2 สัปดาห์
ก่อนหน้านี้ นายนิกร จำนง เลขานุการคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตราพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) นิรโทษกรรม สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า ผลการประชุมในวันนี้ มีมติ 2 เรื่อง คือ การนิรโทษกรรมโดยใช้รูปแบบผสมผสาน จะมีการดำเนินการนิรโทษกรรมโดยใช้กลไก 2 ส่วน คือ กลไกที่ให้ผู้ได้รับสิทธินิรโทษกรรมตามกฎหมาย และประสงค์ใช้สิทธิให้ยื่นคำร้องต่อหน่วยราชการในกระบวนการยุติธรรมที่คดีอยู่ในอำนาจพิจารณาของหน่วยราชการนั้น ให้หน่วยราชการที่รับคำร้อง มีอำนาจรับคำร้องและพิจารณาหรือวินิจฉัยให้สิทธินิรโทษกรรมคดีที่เข้าองค์ประกอบที่จะได้รับการนิรโทษกรรมตามบัญชีฐานความผิดแนบท้ายพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม ให้แล้วเสร็จภายในเวลาที่กฎหมายกำหนด
เมื่อถามถึงวาระการพิจารณาความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 นายนิกร กล่าวว่า คดีนี้จะมีการพิจารณาทีหลัง เพราะเดิมจากที่ศึกษามาใน 17 ฐานความผิดนั้นไม่มี แต่จากที่ทางศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนเสนอมา เราก็นำมารวมอยู่ด้วย และจะต้องมีการตัดสินใจอีกครั้งว่าจะรวมหรือไม่รวม แต่ขณะนี้ข้อมูลครบหมดแล้ว เข้าใจว่า สัปดาห์หน้าก็จะมีการพิจารณาเรื่องนี้ แต่หากไม่ได้พิจารณาในสัปดาห์หน้าก็จะเป็นอีกสัปดาห์หนึ่ง
เมื่อถามว่า น่าจะเคาะได้เลยใช่หรือไม่ นายนิกร กล่าวว่า น่าจะเคาะได้ ตอนนี้ตนเริ่มทำรายงานในส่วนของอนุกรรมาธิการและสั่งพิมพ์แล้ว เหลือเพียงแค่ชุดใหญ่ ตั้งใจไว้ว่าสิ้นเดือน ก.ค.จะสามารถเสนอเข้าสู่ที่ประชุมของสภา ได้ แต่หากไม่ทันก็อาจจะขยับไปไม่เกิน 2 สัปดาห์
อย่างไรก็ดี หากพิจารณาจากแบ็กกราวด์และโฟกัสกันเฉพาะ มาตรา 112 นั้น ที่ผ่านมามีเพียงพรรคก้าวไกลเท่านั้นที่มีท่าทีชัดเจนว่า สนับสนุนให้มีการนิรโทษกรรมครอบคลุมไปถึงผู้กระทำผิด มาตราดังกล่าว ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะนอกจากกรณีที่มีกำหนดเป็นนโยบายในการหาเสียงของพรรคเกี่ยวกับการแก้ไข และนำไปสู่การยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญและศาลฯได้วินิจฉัยมาแล้วว่า มีความผิดเข้าข่ายการล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระรมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ลัดมายังนำไปสู่คำร้องให้ยุบพรรคในเวลานี้
และที่ผ่านมาได้มี สมาชิกพรรคก้าวไกลหลายคนกำลังถูกดำเนินคดีความผิดตาม มาตรา 112 บางคนก็เริ่มทยอยตัดสินคดีให้จำคุกไปแล้ว รวมไปถึงกลุ่ม “ม็อบสามนิ้ว” สารพัดชื่อ ต่างก็ทยอยถูกดำเนินคดีและถูกจำคุกหลายคนชิงหลบหนีไปต่างประเทศ ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจที่พวกเขาจะหาเหตุผลมาต้องให้นิรโทษกรรมลบล้างความผิดเหล่านี้
ขณะเดียวกันที่น่าจับตาก็คือ ท่าทีของพรรคเพื่อไทย ที่เป็นแกนนำรัฐบาล ที่ก่อนหน้านี้ยังกั๊ก สงวนท่าที เกี่ยวกับการนิรโทษ มาตรา 112 แต่ระยะหลัง หลังจากที่ นายทักษิณ ชินวัตร ที่ถูกระบุว่าเป็นเจ้าของพรรคถูกฟ้องเป็นจำเลยคดีดังกล่าว พวกเขาก็มีท่าทีโน้มเอียงให้นิรโทษกรรมครอบคลุมมาถึงด้วย โดยข้ออ้างที่มักนำกล่าวก็คือ “แรงจูงใจ” ทางการเมือง หรือเป็นเพราะมีต้นตอ จากความขัดแย้งทางการเมือง รวมไปถึงผลพวงมาจากการรัฐประหาร อะไรประมาณนี้
แม้ว่าที่ผ่านมา หลายคนมองว่า โอกาสที่ ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ที่เดิมมีเป้าหมายเพื่อนิรโทษกรรมให้กับทุกคนทุกกลุ่ม ที่กระทำความผิดที่เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวทางการเมือง หรืออาจครอบคลุมไปถึงความผิด มาตรา 112 ด้วย ภายใต้เงื่อนไขการสำนึกความผิด ไม่กระทำผิดซ้ำ อะไรประมาณนี้ อย่างไรก็ดี ภายหลังจากที่มีความพยายามนิรโทษกรรม เพื่อลบล้างความผิดให้กับนายทักษิณ ชินวัตร ทำให้การนิรโทษกรรมทำได้ยากขึ้น เนื่องจากความชอบธรรมลดน้อยลง โดยเฉพาะความพยายามในการนิรโทษฯ มาตรา 112
อย่างไรก็ดีถึงอย่างไรมันก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะท่าทีล่าสุดของบรรดาพรรคร่วมรัฐบาล รวมไปถึงพรรคฝ่ายค้านบางพรรคต่างส่งเสียงคัดค้านอย่างเต็มที่ โดย นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตรา พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ที่คาดจะมีเคาะในสิ้นเดือน ก.ค.ว่า จะนิรโทษกรรมครอบคลุมคดี มาตรา 112 อย่างไร ว่า ได้ทราบความคืบหน้าว่าทาง กมธ.จะให้ทาง รมว.ยุติธรรม เป็นประธาน ส่วนขั้นตอนพิจารณาจะเป็นอย่างไร ต้องลงรายละเอียดอีกครั้งหนึ่ง
“ในส่วนของพรรคชาติไทยพัฒนา ยืนยันว่าคดีที่มีความอ่อนไหว โดยเฉพาะคดีที่เกี่ยวกับ มาตรา 112 หรืออาชญากรรมที่ทำให้เสียชีวิต การทุจริต คอร์รัปชัน ไม่ควรจะนำเข้ามาอยู่ในการพิจารณา พ.ร.บ.นิรโทษกรรม เป็นจุดยืนที่เราย้ำมาตั้งแต่เริ่มตั้งรัฐบาล และเป็นหัวใจสำคัญในการร่างกฎหมายฉบับนี้”
ถามว่า หากแกนนำรัฐบาลอย่างพรรคเพื่อไทย ต้องการให้นิรโทษกรรมคดีมาตรา 112 จะยังยึดจุดยืนเดิมอยู่หรือไม่ นายวราวุธ กล่าวว่า พรรคชาติไทยพัฒนา ยังยืนในจุดยืนเดิม 3 เรื่อง ได้แก่ มาตรา 112 คดีอาญาร้ายแรง และคดีทุจริต
เมื่อถามย้ำว่า จะไม่มีปัญหาใช่หรือไม่ หากพรรคแกนนำเห็นด้วยกับการนิรโทษกรรมคดีมาตรา 112 นายวราวุธ กล่าวว่า ให้ถึงเวลานั้นค่อยมาพิจารณาอีกที แต่ย้ำว่าจุดยืนเราไม่เปลี่ยนแปลง อย่าเพิ่งตั้งสถานการณ์คาดเผื่อ เพราะไม่แน่ใจว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร แต่เชื่อว่าท้ายที่สุดก็จะไปในทิศทางเดียวกัน
สอดคล้องกับท่าทีของพรรคร่วมรัฐบาลอื่น เช่น พรรครวมไทยสร้างชาติ พรรคพลังประชารัฐ พรรคฝ่ายค้านอย่างพรรคประชาธิปัตย์ที่ชัดเจนว่าไม่เอาด้วย และแม้ว่า หากพรรคเพื่อไทย จะจับมือกับพรรคก้าวไกล เพื่อโหวตผ่าน แต่ก็ต้องรับรู้ถึงปฏิกิริยาจากสังคมประกอบด้วย เพราะพิจารณาจากผลสำรวจ โดยเฉพาะการเปิดรับฟังความคิดเห็นจากเว็บไซต์ของรัฐสภา เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมประชาชน พ.ศ.…. ที่ขึ้นเว็บไซต์รัฐสภา ที่นิรโทษกรรมรวมคดี 112 ด้วยนั้น และเมื่อ วันที่ 13 มิ.ย. ได้ปิดรับฟังความเห็นแล้ว พบว่ามีผู้ร่วมแสดงความคิดเห็นทั้งสิ้น 90,503 คน โดยไม่เห็นด้วยกับ ร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว 64.66% เห็นด้วย 35.34 %
ดังนั้นเมื่อพิจารณาจากความเคลื่อนไหวและท่าทีทั้งจากสังคม และบรรดาพรรคการเมืองส่วนใหญ่ โดยเฉพาะพรรคร่วมรัฐบาล ที่ชัดเจนว่าไม่เอาด้วยกับการนิรโทษกรรมให้ครอบคลุมความผิดตามมาตรา 112 ขณะเดียวกันทำให้โอกาสที่ นายทักษิณ ชินวัตร หลุดพ้นจากคดีดังกล่าวทำได้ยาก หรือเป็นไปไม่ได้เลย และที่สำคัญกรณีของเขายังทำให้คนอื่นพลอยลำบากไปด้วย !!