วันนี้(6 ก.ค.)นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงกรณีที่ คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต.จะต้องรับรองสมาชิกวุฒิสภา หรือ สว.ชุดใหม่ว่า ล่าสุดมีการจัดเสวนาโดย สว.ที่กำลังจะได้มาดำรงตำแหน่ง หมายความว่า คนที่กระเหี้ยนกระหือรืออยากจะเป็น สว.ทั้ง ๆ ที่ วันนี้คนไทยทั้งประเทศหรือแม้แต่ผู้สมัคร สว.บางรายก็ไปร้องหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็น ศาลปกครอง ศาลรัฐธรรมนูญ หรือ ศาลฎีกา จริง ๆ ในบรรดา สว.200 คนชุดนี้ ตนสนิทอยู่ประมาณ 10 กว่าคน ที่มีคุณสมบัติครบถ้วน
ก็ได้รับคัดเลือกให้เป็นสมาชิกวุฒิสภาชุดนี้ด้วย
นายสามารถ กล่าวต่อว่า ก่อนหน้านี้เขาก็เคยชวนตนมาลงสมัคร สว.ด้วยกัน ตนก็บอกว่า ดูแล้วน่าจะมีปัญหาเพราะกระบวนการในการเลือก สว.มันมีการทุจริตทุกขั้นตอนได้เลย ตนถึงกลัวว่า กกต.จะไม่รับรอง ตนก็เลยไม่สมัคร แล้วมันก็เป็นอย่างที่ตนว่า สุดท้ายมีกระบวนการจัดตั้ง มีการฮั้วกันเข้ามา มีการเลือกตั้งที่ไม่บริสุทธิ์ ยุติธรรม มีการโกงคุณสมบัติตัวเอง มีการรับรองคุณสมบัติตัวเองแบบโกหก แถมยังมีผู้หญิงคนหนึ่ง ออกมาพูดว่า สว.ชุดเก่าที่เป็นอยู่ ออกไปได้แล้วจะมาเรียกประชุมอะไร ตนคิดว่า ไม่ควรออกมาพูดแบบนี้ ควรทำตัวให้เป็นผู้ใหญ่ มีวุฒิภาวะ
“คุณรีบร้อนจะให้ กกต.รับรอง เหมือนตัวเองอยากจะได้ประโยชน์ กระเหี้ยนกระหือรืออยากเป็น สว.คนที่ได้รับการคัดเลือกเพียงนิ้วมือนับได้ คนเลือกกันมาไม่เกิน 22 คน แล้วคุณก็ได้มาเป็น สว.คุณกลัวว่าหากมีการเลือกตั้งครั้งใหม่แล้วจะแพ้หรืออย่างไร หรือกลัวว่าจะไม่มีโอกาสได้กลับมาเป็นแบบนี้อีก แบบนี้ไม่ใช่ กระบวนการเหล่านี้ควรจะรอให้เรื่องนี้มันพิสูจน์ความจริงก่อน”นายสามารถ กล่าว
นายสามารถ กล่าวต่อว่า การเลือกตั้ง สว. รอบนี้ประชาชนไม่ได้เลือกโดยตรง แต่เป็นการให้ผู้สมัคร สว.เลือกและรับรองคุณสมบัติกันเอง ปรากฏว่า การรับรองคุณสมบัติมีการโกหกเกิดขึ้น รับรองกลุ่มอาชีพที่ไม่ถูกต้อง ตนเชื่อว่า กกต.ไม่ได้ผิด แต่กระบวนการมันเกิดการทุจริตโดยตัวผู้สมัครเอง การที่ กกต. บอกจะรับรอง ไปก่อนนั้น ตนคิดว่ามันทำไม เนื่องจากมันเป็นผลไม้ ที่มีรากเป็นพิษ ฉะนั้นกระบวนการสรรหามาตั้งแต่ต้น ถ้ามีการโกงคุณสมบัติหรือฮั้วกัน มีการทำโพยเพื่อลงคะแนน มีการให้อามิสสินจ้างในการสมัคร ฉะนั้นกระบวนการเลือกตั้งทั้งหมดจะต้องเป็นโมฆะ ดังนั้นการเลือกตั้งครั้งนี้ก็ต้องยกเลิก เหมือนการประกาศสอบโรงเรียนนายร้อย หากมีการทุจริตเกิดขึ้น เขาก็ยกเลิกการสมัครสอบรอบนั้น ๆ
“ไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาดอะไร เพราะหากมีการทุจริตเกิดขึ้น ก็ต้องเป็นโมฆะ วันนี้ กกต.ไม่ได้ผิด กระบวนการทุจริตมันเกิดจากตัวผู้สมัครด้วยกัน จึงขอเตือน กกต.ว่าอย่าลุยไฟ รวมถึงบรรดาผู้สมัคร สว.ที่กระเหี้ยนกระหือรือ อยากจะรีบเป็น ขอให้นั่งนิ่งเฉย ๆ อย่าอวดรู้”