xs
xsm
sm
md
lg

“ทนายอั๋น” จี้ กกต.สั่งเลือก ส.ว.เป็นโมฆะ ชี้ กระบวนการไม่ชอบมาพากล จ่อฟ้อง “บุรีรัมย์โมเดล” ผู้สมัครเขียนใบ สว.3 เท็จ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ขาประจำ! “ทนายอั๋น” ร้อง กกต.สั่งเลือก ส.ว.เป็นโมฆะ อ้างกระบวนการเลือกไม่ชอบมาพากล เตรียมฟ้องผู้สมัคร ส.ว.บุรีรัมย์ เขียนข้อมูล สว.3 ไม่ตรงข้อเท็จจริง ให้เป็น “บุรีรัมย์โมเดล”

วันนี้ (5 ก.ค.) นายภัทรพงศ์ ศุภักษา หรือ ทนายอั๋น บุรีรัมย์ เข้ายื่นคำร้องต่อ กกต. เพื่อขอให้มีคำสั่งให้การเลือกสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ครั้งนี้ เป็นโมฆะ และจัดการเลือก ส.ว.ใหม่ นายภัทรพงศ์ กล่าวว่า กระบวนการเลือก ส.ว.ครั้งนี้ มีการทุจริตคอร์รัปชัน มีการโกงมโหฬาร ช่วงเช้าที่ผ่านมา ตนได้ยื่นคำร้องต่อศาลฎีกา กรณีที่ นายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. อ้างว่า คำพิพากษาของศาล 185/2567 ที่ระบุว่า ใครจะมีอาชีพอะไรก็แล้วแต่ สามารถสมัครกลุ่มใดก็ได้ในจำนวน 20 กลุ่ม หากผู้พิพากษาตอบกลับมาว่า ไม่ได้เป็นในทำนองเดียวกันกับที่นายแสวง ได้ชี้แจงผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ก็ถือว่างานนี้สนุกแน่นอน การเลือก ส.ว.ครั้งนี้ มีสารพัดปัญหาเกี่ยวกับกระบวนการเลือก ส.ว. ที่เข้าข่ายการทุจริต ไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญมาตรา 107 ที่ประสงค์อยากให้คนที่มีความรู้ความสามารถในหลากหลายอาชีพ เข้ามาช่วยกันพัฒนาประเทศในฐานะที่เป็น ส.ว.

”มีหลายเหตุผลที่ทำให้การเลือกตั้งครั้งนี้ไม่บริสุทธิ์และเที่ยงธรรม ทั้งกรณีเรื่องบ้านใหญ่ การฮั้วกัน การลงคะแนนของผู้สมัครที่ไม่ลงให้ตัวเอง หรือเรื่องคุณสมบัติผู้สมัคร ส.ว. วันนี้จึงอยากให้ทบทวนการเลือก ส.ว. โดยประกาศให้เป็นโมฆะ และเลือกตั้งใหม่โดยเร็ว อย่าให้ ส.ว. 250 คน ต้องยิ้มหวาน“ นายภัทรพงศ์ กล่าว

นายภัทรพงศ์ กล่ายอีกว่า กระบวนการเลือกที่ จ.บุรีรัมย์ นั้น มีเหตุการณ์ที่มีพิรุธหลายคน เช่น คนขับรถให้ตระกูลดัง จ.บุรีรัมย์ ได้เป็น ส.ว. หรือแม้ผู้สมัครอายุ 51 ปี รับทำพิธีศาสนาทั่วไป ประวัติการศึกษาจบ ป.6 ประวัติการทำงานเป็นมัคทายก ซึ่งคนระดับนี้ผ่านการเลือกแต่ละระดับได้รับเลือกเป็น ส.ว. บุรีรัมย์ รวมถึงคนอื่นๆ ที่มีประวัติการทำงานและประวัติการศึกษาที่ไม่สอดรับกับความเหมาะสม จึงทำให้ จ.บุรีรัมย์ กลายเป็น “บุรีรัมย์โมเดล” ที่มี ส.ว. จำนวนมากที่สุดถึง 14 คน ทั้งนี้ โดยจะแจ้งความดำเนินคดีกับทุกคนที่เป็นผู้สมัคร ส.ว.ของ จ.บุรีรัมย์ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 267 ว่า มีการจดแจ้งข้อความในเอกสารราชการใบ สว. ซึ่งเป็นเอกสารราชการในข้อความที่เป็นเท็จไม่ตรงกับความเป็นจริง ให้กลายเป็น “บุรีรัมย์โมเดล”

นายภัทรพงศ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากนี้ ตนอยากให้การรับรองคุณวุฒิของผู้สมัคร ส.ว. มีมาตรฐาน เช่น ตนเป็นทนายความ ผู้ที่จะต้องรับรองตน คือ ประธานสภาทนายความประจำจังหวัดนั้นๆ หรือนายกสภาทนายความ แต่การเลือก ส.ว.ครั้งนี้ เพียงแค่รู้จักกันก็สามารถรับรองให้กันได้ มันง่ายเกินไปหรือไม่ และปัจจุบันยังไม่มีการพิจารณาตัดคุณสมบัติของผู้สมัครที่ไม่ตรงกลุ่มเลย เห็นได้ชัดกรณีคนขับรถให้ตระกูลดัง จ.บุรีรัมย์ ดูคุณวุฒิก็ไม่เข้ากับคุณสมบัติ คุณอาชีพรับจ้าง แต่บอกว่าเป็นนักฟุตบอลอาวุโส แค่นี้ก็ไม่เข้าคุณสมบัติแล้ว ทั้งนี้ อาชีพหมายถึงคนที่ทำงานต่อเนื่องในลักษณะที่ก่อให้เกิดรายได้ คนที่เป็นจิตอาสา อสม. จะเข้าข่ายเป็นที่มาของรายได้อย่างไร


กำลังโหลดความคิดเห็น