สำนักเลขาธิการวุฒิสภา เตรียมสถานที่พร้อม รับรายงานตัว 200 สว. ชุดที่ 13 จับตาข้อห้าม ม.113 ของ รธน.ห้ามฝักใฝ่หรืออยู่ใต้อาณัติพรรคการเมืองใด
วันนี้(5 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พิจารณาคำร้องของผู้สมัคร สว. ในการเลือกสว.ที่ผ่านมา ก่อนการประกาศรับรองผู้ได้รับเลือกทั้ง 200 คน ในช่วงสัปดาห์หน้า และประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว ขั้นตอนต่อไป คือ 200 สว. ต้องมารายงานตัวต่อสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา เพื่อรับบัตรประจำตัวของการเป็น สว. รวมถึงเอกสารและคู่มือการปฏิบัติหน้าที่เป็นสว. โดยทางสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ได้จัดเตรียมสถานที่ไว้รองรับการเข้ารายงานตัวของ 200 สว.ชุดใหม่แล้ว ที่ห้องริมน้ำ ชั้น 1 อาคารวุฒิสภา โดยสมาชิกสามารถมารายงานตัวในวันถัดไปหลังจากที่ กกต. ประกาศรับรอง
อย่างไรก็ดีวันนี้( 5 ก.ค. )สำนักงานเลขาธิการ ได้นำป้าย “ห้ามเข้า” ติดไว้ที่ประตูทางเข้าเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปในพื้นที่
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่าสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา จะเปิดรับรายงานตัว ประมาณ 1 สัปดาห์ หรือจนกว่าที่สว.จะเข้ารายงานตัวจนครบ 200 คน จากนั้นจะนัดประชุมวุฒิสภานัดแรก เพื่อให้สมาชิกกล่าวคำปฏิญาณตนต่อที่ประชุมก่อนเข้าปฏิบัติหน้าที่ และจะเป็นวาระการเลือกประธานวุฒิสภา และรองประธานวุฒิสภา ซึ่งมีผู้ที่คาดว่าจะเป็นแคนดิเดตประธานวุฒิสภา คือ นายมงคล สุระสัจจะ ว่าที่สว.กลุ่มการบริหารราชการแผ่นดินและความมั่นคง
นอกจากนี้ อาจมีประเด็นที่เป็นข้อหารือที่สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภารายงานเป็นวาระสำคัญ เช่น การตั้งกรรมาธิการเพื่อตรวจสอบประวัติ ความประพฤติ และพฤติกรรมทางจริยธรรม ที่สว.ชุดที่ผ่านมาได้ ตั้งคณะทำงานไว้แล้ว เพื่อให้เกิดการทำงานที่สานต่อและต่อเนื่อง รวมถึงการตั้งกรรมการเพื่อศึกษาร่างกฎหมายที่เป็นคู่ขนานกับ สภาฯ เช่น ร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 เป็นต้น
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่าสำหรับ สว.ชุดใหม่ 200 คนนั้นนับเป็นสว.ชุดที่ 13 ของการเมืองไทย มีวาระดำรงตำแหน่ง 5 ปีนับตั้งแต่วันที่ กกต. ประกาศผลการเลือกในราชกิจจานุเบกษา ทั้งนี้ต้องจับตาการทำงานของ สว.ชุดใหม่ ที่ถูกมองว่ามาจากสายบ้านใหญ่ ที่เป็นเครือข่ายนักการเมือง อย่างไรก็ดีในมาตรา 113 ของรัฐธรรมนูญกำหนดไว้ด้วยว่า สว.ต้องไม่ฝักใฝ่หรือยอมตนอยู่ใต้อาณัติของพรรคการเมืองใดๆ