วันนี้(3 ก.ค.)นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ที่ปรึกษากรรมาธิการการแรงงาน กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. จะต้องประกาศผลรับรองการเลือกสมาชิกวุฒิสภา หรือ สว.ในวันนี้นั้น แต่ก็ไม่สามารถประกาศได้ ตนขอฝากไปยังนายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต.อย่าลุยไฟหมายความว่า อย่าดันทุรังประกาศรับรองไปก่อน อย่างนี้ไม่ได้ การเลือกตั้ง สว.รอบนี้ไม่เหมือนกับการเลือกตั้ง สส.ที่ท่านรับรองไปก่อน และค่อยไปสอยทีหลัง เพราะกระบวนการสอย สส.กับ สว.แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
นายสามารถ สส.นั้นชาวบ้านเลือกเข้าไป ถ้าเขาขาดคุณสมบัติ โกหกตัวเอง รับรองคุณสมบัติที่ไม่ครบถ้วน หรือมีเรื่องร้องเรียนของ กกต.ให้ใบเหลือง ใบส้ม ใบดำ ถือเป็นเรื่องเฉพาะตัว คนที่เป็น สส.หากทุจริตก็ต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งทั้งหมด แล้วก็มีโทษอาญา แต่การเลือกตั้งวุฒิสภารอบนี้คือผู้สมัคร สว.เลือกกันเอง มันมีการทุจริตมาตั้งแต่ระดับอำเภอ ถ้ามีผู้สมัครที่คุณสมบัติไม่ครบถ้วน และรับรองตัวเองมา แล้วปรากฏว่าไปเลือกคนอื่น มันไม่ใช่แค่นายไก่ไปเลือกนายไข่แล้วจบ เพราะนายไข่ยังไปเลือกไขว้อีก มันถึงได้ลามไปกันหมด วันนี้ถ้าจับทุจริตได้แค่คนเดียวก็หายไปทั้งยวง เพราะจากอำเภอไปเลือกจังหวัด จังหวัดไปเลือกกลุ่มอาชีพระดับประเทศจากกลุ่มที่หนึ่งไปเลือกกลุ่มอื่นอีก
”ผมไม่ได้รังเกียจคนที่จบน้อย เรียนน้อย แต่วันนี้มันมีข้อกังขามากมายจากประชาชน ฉะนั้นหน้าที่ กกต.คือแสวงหาข้อเท็จจริงให้ยุติ หมายความว่า ตรวจสอบแล้วโปร่งใส แล้วท่านก็รับรอง แต่อย่างที่ผมพูดมันผิดคนเดียวมันถึงโดนไปทั้งยวง มันไม่ได้เป็นความผิดเฉพาะตัวเหมือน ส.ส.อย่างน้อยระดับประเทศ คนหนึ่งเลือกได้ 5 เบอร์ แล้วลองคิดสภาพ ถ้ามีเบอร์หนึ่งโมฆะจะลามไปกี่เบอร์“นายสามารถ กล่าว
นายสามารถ กล่าวต่อว่า การที่ กกต.บอกว่าส่งศาลฎีกาตีความเรื่องกลุ่มอาชีพแล้ว แสดงเจตจำนงว่า ตัวเป็นอาชีพอะไรนั้น มันคนละเรื่องกับรัฐธรรมนูญ ตนฝากไปยังผู้สมัคร ส.ว.ทุกท่าน ที่คิดว่าเรื่องนี้ไม่เป็นธรรมต้องไปร้องศาลรัฐธรรมนูญ ว่า 20 กลุ่มอาชีพ ต้องประกอบอาชีพจริงหรือไม่ ไม่เช่นนั้นก็เป็นการแย่งสายงานของเขา อย่าลืมว่า บางกลุ่มอาชีพ คนสมัครพันกว่า บางกลุ่มอาชีพมีหลักร้อย ฉะนั้นการแข่งขันครั้งนี้มันไม่แฟร์เกม ยกตัวอย่างเช่นสมมุติ คนที่เป็นดารานักแสดงมา 50 ปี แต่อีกหนึ่คนหนึ่งที่บอกว่า ทำอาชีพรำอยู่หน้าโลงศพ แบบนีัก็เรียกศิลปินเหมือนกัน แบบนี้ก็ไม่ยุติธรรม หรือคนที่เป็นสื่อมวลชนมา 40 ปี แต่อีกคนนึงบอกว่าทำงานเสียงตามสายมาปีเดียว จึงสมัครกลุ่มสื่อมวชน แบบนี้มันยุติธรรม เท่าเทียม หรือไม่ แล้วถ้าเป็นแบบนี้ท่านยังกล้ารับรองแบบลุยไฟแบบนี้หรือไม่”