xs
xsm
sm
md
lg

“วราวุธ” ลุยโคราช ประเดิมตอกเข็มเอกบ้านมั่นคงริมรางเมืองย่าโม แก้ปัญหาชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากการสร้างรถไฟความเร็วสูงภาคอีสาน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ประกาศ พร้อมดูแลชาวชุมชนให้มีบ้านมั่นคงคุณภาพชีวิตที่ดีทุกด้าน เปรยจ่อรายงานผล ครม.แจ้งคืบหน้างานบ้านริมราง เชื่อมือ พอช.ขับเคลื่อนงานพัฒนาที่อยู่อาศัยตอบโจทย์ชุมชนตรงตามนโบบายรัฐบาล

วันนี้ (2 ก.ค.) ที่สหกรณ์เครือข่ายริมรางเมืองย่าโม ตำบลหัวทะเล อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์และคณะ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยผู้มีรายได้น้อยในชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากการพัฒนาระบบราง (บ้านมั่นคงเครือข่ายริมรางย่าโม) โดยมี นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา นายกฤษดา สมประสงค์ ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) คณะผู้บริหาร พอช. เจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง ผู้แทนขบวนองค์กรชุมชนจังหวัดนครราชสีมา และชาวชุมชนในพื้นที่มารอให้การต้อนรับ โดยทันทีที่มาถึง ได้มีตัวแทนชาวบ้านขบวนองค์กรชุมชนนำผ้าขาวม้ามาผูกเอว จากนั้นได้เดินชมบริเวณก่อสร้างโครงการบ้านมั่นคงเครือข่ายริมรางเมืองย่าโม และเข้ารับฟังความเป็นมาของโครงการ สถานการณ์ผลกระทบ นโยบาย สภาพปัญหาของชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากการพัฒนาระบบราง แนวทางการแก้ไขปัญหา โดย นายกฤษดา ผอ.พอช. ได้รายงานสิ่งที่สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) ได้ขับเคลื่อนงานดังกล่าวภายใต้โครงการบ้านมั่นคง และผู้แทนสหกรณ์เครือข่ายริมรางเมืองย่าโมนำรายงานผลการพัฒนาโครงการบ้านมั่นคงชุมชนริมราง

นายกฤษดา สมประสงค์ ผู้อำนวยการสถาบันฯ นำรายงานสำหรับโครงการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยผู้มีรายได้น้อยในชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากการพัฒนาระบบราง เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2567 ในการประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการ ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โดย สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) เสนอในการแก้ไขปัญหาและพัฒนาที่อยู่อาศัยผู้มีรายได้น้อยที่ได้รับผลกระทบจากการพัฒนาระบบราง ให้มีความมั่นคงในการอยู่อาศัย มีโครงสร้างพื้นฐาน ระบบสาธารณูปโภค สาธารณูปการและสิ่งแวดล้อมที่ดี มีรูปแบบการพัฒนาที่สอดคล้องกับวิธีชีวิต โดยมีแผนดำเนินการปี 2566-2570 วงเงินทั้งสิ้น 7718.49 ล้านบาท เป้าหมายดำเนินการใน 35 จังหวัด 300 ชุมชน จำนวน 27,084 ครัวเรือน ซึ่งมีแนวทางและกระบวนการขั้นตอนในการพัฒนาที่อยู่อาศัยชุมชน มีความสอดคล้องกับนโยบาย ยุทธศาสตร์ชาติ ระยะ 20 ปี (2561-2580) ยุทธศาสตร์ที่ 4 ด้านการสร้างโอกาสและความเสมอภาคด้านสังคม (1) การลดความเหลื่อมล้ำ สร้างความเป็นธรรมในทุกมิติ (2) การเพิ่มขีดความสามารถของชุมชนท้องถิ่นในการพัฒนา การพึ่งพาตนเองและการจัดการตนเอง ถือเป็นพื้นฐานความเข้มแข็งจากฐานราก แก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัย ที่ดินทำกิน สร้างชุมชนที่น่าอยู่มุ่งเน้นการจัดการที่อยู่อาศัยการพัฒนาพื้นที่เมืองแบบองค์รวมเพื่อพัฒนาชุมชนเข้มแข็งสามารถพึ่งพาตนเองได้ร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หน่วยงานและภาคีที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ในชุมชนแออัด ชุมชนบุกรุกที่ไม่มีกรรมสิทธิ์ในที่อยู่อาศัย ทั้งในพื้นที่เมืองและชนบท จากการประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการนั้น

สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) ได้ดำเนินโครงการพัฒนาโครงการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยผู้มีรายได้น้อยในชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากการพัฒนาระบบราง โดยมีเป้าหมายโครงการรวม 35 จังหวัด 300 ชุมชน 27,084 ครัวเรือน ปัจจุบัน พอช. ลงพื้นที่เปิดเวทีสร้างความเข้าใจโครงการทั้ง 5 ภูมิภาคแล้ว โดยสำรวจข้อมูลและสรุปรายชื่อผู้ได้รับผลกระทบ จำนวน 13,190 ครัวเรือน และอยู่ระหว่างดำเนินการสำรวจข้อมูลผู้ได้รับผลกระทบทั่วประเทศอีกจำนวน 13,894 ครัวเรือนให้แล้วเสร็จภายในเดือนธันวาคม 2567 นี้ ส่วนผลการดำเนินงานที่ผ่านมามีชุมชนที่ได้รับอนุมัติงบประมาณจาก พอช. แล้ว 15 โครงการ จำนวน 1,006 ครัวเรือน งบประมาณรวมกว่า 130,489,824 บาท และจะขยายผลการดำเนินงานครอบคลุมทั้ง 35 จังหวัด ทั่วประเทศ นายกฤษดา กล่าว

การพัฒนาเมืองที่เติบโตขึ้นโดยเฉพาะการพัฒนาระบบคมนาคมขนส่งทางรางที่คาดว่าจะก่อให้เกิดประโยชน์
อย่างมากทางเศรษฐกิจของประเทศ เป็นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ของประเทศ โดยการรถไฟแห่งประเทศไทยมีแผนการพัฒนารถไฟความเร็วสูง พาดผ่านสายตะวันออกเฉียงเหนือ กรุงเทพฯ-นครราชสีมา-หนองคาย ระยะทางรวม 609 กิโลเมตร โดยมีสถานีรถไฟความเร็วสูง จำนวน 11 สถานี (คาดว่าจะเปิดใช้ปี 2568) โดยแบ่งการพัฒนาออกเป็น 2 ระยะ โดยระยะที่ 1 เริ่มจากกรุงเทพฯ-นครราชสีมา คาดเปิดใช้ปี 2568 และระยะที่ 2 เริ่มจากกรุงเทพฯ-หนองคาย คาดเปิดใช้ปี 2573 การพัฒนาระบบคมนาคมดังกล่าวเพื่อการขนส่งที่สะดวกและรวดเร็วขึ้น นั้น แต่ขณะเดียวกันก็มีผลกระทบต่อประชาชนที่อยู่อาศัยในพื้นที่การพัฒนาในทุกๆ ด้าน ทั้งสังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม หนึ่งในนี้ก็ คือ ชุมชนที่อาศัยอยู่ในที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทยซึ่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีผู้ได้รับผลกระทบจากการพัฒนาระบบราง รวม 5 จังหวัด ได้แก่ ขอนแก่น นครราชสีมาอุดรธานี อุบลราชธานี ศรีสะเกษ 60 ชุมชน 3,510 ครัวเรือน

ปัจจุบัน พอช. โดยสำนักพัฒนาที่อยู่อาศัยชุมชนริมราง ได้มีการลงพื้นที่สร้างความเข้าใจโครงการฯครบทุก
จังหวัดแล้ว และสหกรณ์เครือข่ายริมรางเมืองย่าโม จำกัด ซึ่งเป็นพื้นที่นำร่องในการพัฒนาที่อยู่อาศัยบ้านมั่นคงชุมชนริมราง ได้ดำเนินการจดแจ้งจัดตั้งสหกรณ์ภายใต้ชื่อ “สหกรณ์เครือข่ายริมรางเมืองย่าโม จำกัด” เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2565 และได้รับสัญญาเช่าที่ดินจากการรถไฟแห่งประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยมีระยะสัญญาการเช่า 30 ปี (1 สิงหาคม 2565 - กรกฎาคม 2595) ขนาดพื้นที่เช่ารวม 7 ไร่ 1 งาน 61 ตารางวา รองรับสมาชิกจำนวน 166 ครัวเรือน และได้รับงบประมาณสนับสนุนจากรัฐบาลเพื่อพัฒนาที่อยู่อาศัย “โครงการบ้านมั่นคง” จากสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน จำนวน 166 ครัวเรือน งบประมาณรวม 19,403,500 บาท

แบ่งเป็นงบพัฒนาระบบสาธารณูปโภค (โครงสร้างพื้นฐาน) จำนวน 7,470,000 บาท งบอุดหนุนการพัฒนาที่อยู่อาศัย 4,980,000 บาท งบบริหารจัดการชุมชนภาคีเครือข่าย 373,500 บาท และงบช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบ เป็นเงิน 6,580,000 บาท ทางสหกรณ์มีการก่อสร้างบ้านระยะแรก จำนวน 27 ครัวเรือน ราคาค่าก่อสร้างบ้านแถวชั้นเดียวขนาด 4x7 เมตร รวมต่อหลังประมาณ 100,000 บาท (ไม่รวมฉาบผ้ากระเบื้อง) โดยสมาชิกใช้งบประมาณที่รัฐบาลสนับสนุนผ่านพอช. ในการก่อสร้างเพื่อแบ่งเบาภาระของครอบครัว และกำลังดำเนินการต่อเนื่องในระยะที่ 2 จำนวน 27 หลังซึ่งจะทยอยสร้างให้ครบ 166 หลังตามแผนงาน ทั้งนี้ในแผนการดำเนินงานเพื่อให้บรรลุเป้าหมายนั้น พอช.ร่วมกับหน่วยงานภาคีที่เกี่ยวข้อง บูรณาการขับเคลื่อนงานร่วมกัน เพื่อผลักดันโครงการพัฒนาโครงการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยผู้มีรายได้น้อยในชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากการพัฒนาระบบราง ถึงเป้าหมายที่กำหนดร่วมกัน

นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.พม. กล่าวว่า ตนมีความยินดีที่ได้ลงพื้นที่พบปะและเยี่ยมพี่น้องโครงการบ้านมั่นคงชุมชนริมราง และขอแสดงความยินดีในความสำเร็จของพี่น้องประชาชน ตลอดจนความร่วมมือของผู้แทนหน่วยงานภาคีเครือข่าย ที่มีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยผู้มีรายได้น้อยในชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากการพัฒนาระบบราง ซึ่งเล็งเห็นความสำคัญและมีนโยบายการลดความเหลื่อมล้ำในสังคมไทย สร้างความมั่นคงและการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน การจัดกิจกรรมในวันนี้แสดงถึงความสำเร็จพื้นที่รูปธรรมของสหกรณ์

จากนั้นได้มอบนโยบายการสร้างความมั่นคงในที่ดินที่อยู่อาศัยและคุณภาพชีวิตของประชาชน โดยประกาศเป็นวาระสำคัญเนื่องในโอกาสที่รัฐบาลเตรียมจัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 72 พรรษาในวันที่ 28 กรกฎาคม เดินหน้า โครงการเฉลิมพระเกียรติฯ 10 โครงการในโครงการที่ 7 โครงการพัฒนาคุณภาพชีวิต ที่ดินทำกิน และที่อยู่อาศัย เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 72 พรรษา ในวันที่ 28 กรกฎาคม 2567เพื่อเป็นการพัฒนาคุณภาพชีวิต ช่วยเหลือและให้โอกาสแก่ประชาชนผู้ด้อยโอกาสรวมถึงผู้พิการหรือทุพพลภาพในการที่จะได้รับสิทธิขั้นพื้นฐาน อันได้แก่ ที่พักอาศัย หรือที่ดินทำกิน สำหรับการประกอบอาชีพเพื่อให้สามารถพึ่งพาตนเองได้ โดยสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) หรือ พอช. มีแผนการพัฒนาที่อยู่อาศัยผู้มีรายได้น้อยในเขตเมืองและชนบท ในปี พ.ศ.2567 รวม จำนวน 5,172 ครัวเรือน (บ้านมั่นคง 3,900 ครัวเรือน/ริมราง 1,272 ครัวเรือน)

จากนั้น นายวราวุธ ได้ร่วมเปิดป้ายริมรางพะไล (Land Sharing) ตอกเข็มเอกเสาเข็มต้นแรกของบ้านนางสาววาริสษา แย้มทอง และมอบพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี มอบเครื่องอุปโภคบริโภค รถโยก ให้แก่ นางสมจิตร ไพรงาม (ผู้พิการ) และเงินสนับสนุนด้านอาชีพให้กับผู้มีรายได้น้อยและผู้ไร้ที่พึ่ง ที่เป็นสมาชิกในสหกรณ์อีกจำนวน 25 ราย และเชื่อว่า สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน สามารถขับเคลื่อนงานการพัฒนาที่อยู่อาศัยภายใต้โครงการบ้านมั่นคงได้อย่างมีประสิทธิภาพตรงตามความต้องการของชุมชนและตามแนวทางนโบบายที่รัฐบาลมอบหมาย พร้อมกันนี้ ขอยืนยันว่าจะเดินหน้าโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยให้มีความสอดคล้องกับนโยบายยุทธศาสตร์และแผนงานของรัฐบาล (ยุทธศาสตร์ชาติ ระยะ 20 ปี) โดยในการประชุมร่วมคณะรัฐมนตรีวันที่ 2 ก.ค.นี้ ตนจะนำเรียนแนวทางการดำเนินงานโครงการบ้านมั่นคงริมราง และในฐานะ รมว.พม.จะดูแลชุมชนให้ชุมชนให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีในทุกด้าน








กำลังโหลดความคิดเห็น