รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่อ่างเก็บน้ำหนองตะไก้ โคราช ติดตามการบริหารจัดการน้ำ รับเรื่องชาวบ้านร้องของบฯสนับสนุนดำเนินโครงการก่อสร้างระบบกระจายน้ำ ด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ เพื่อลดรายจ่าย
เมื่อเวลาประมาณ 17.00 น. วันจันทร์ที่ 1 กรกฎาคม 2567 นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ ตรวจราชการในเขตพื้นที่อำเภอหนองบุญมาก ณ อ่างเก็บน้ำบ้านหนองตะไก้ ตำบลหนองตะไก้ อำเภอหนองบุญมาก จังหวัดนครราชสีมา โดยมี นายพิชาญ ตราผักแว่น นายอำเภอหนองบุญมาก ตลอดจนเจ้าหน้าที่ส่วนราชการและประชาชน รวมถึงนายอาทิตย์ หวังศุภกิจโกศล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดนครราชสีมา เขต 11 และ นายอภิชา เลิศพชรกมล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดนครราชสีมา เขต 10 ร่วมให้การต้อนรับ
นางสาวจิราพร รับทราบรายงานสถานการณ์การบริหารจัดการน้ำเพื่อการทำเกษตรในพื้นที่จากนายพิชาญ ตราผักแว่น นายอำเภอหนองบุญมาก ที่ระบุว่า อำเภอหนองบุญมาก ห่างจากจังหวัดนครราชสีมา ประมาณ 54 กิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่ 369,000 ไร่ คิดเป็นร้อยละ 2.26 ของจังหวัด มีประชากรทั้งสิ้นกว่า 60,470 คน โดยอาชีพหลักของชาวอำเภอหนองบุญมาก คือ อาชีพด้านเกษตรกรรม อาทิ การปลูกมันสำปะหลัง การปลูกข้าว และการปลูกอ้อย
อย่างไรก็ดี อ่างเก็บน้ำหนองตะไก้ ที่มีพื้นที่กว่า 297 ไร่ โดยประมาณ ซึ่งต้องใช้รองรับน้ำเพื่อการเกษตรของประชาชนในพื้นที่องค์การบริหารส่วนตำบลหนองตะไก้ และพื้นที่ใกล้เคียง กำลังประสบปัญหาขาดแคลนน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคและการเกษตร ทั้งนี้ นายอำเภอหนองบุญมากได้แสดงความประสงค์ขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากกรมทรัพยากรน้ำในการดำเนินโครงการก่อสร้างระบบกระจายน้ำ ด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับการส่งน้ำตามระบบการกระจายน้ำไปยังพื้นที่เกษตรกรรมโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายในการสูบน้ำเข้าพื้นที่เหมือนในอดีตที่ผ่านมา
ด้าน นางสาวจิราพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุว่า รัฐบาลภายใต้การนำของนายเศรษฐา ทวีสิน ให้ความสำคัญกับการยกระดับคุณภาพชีวิตของพี่น้องเกษตรกร ภายใต้เป้าหมายด้านเกษตรที่ชัดเจนว่าจะจะทำให้เกษตรกรมีรายได้สุทธิมากขึ้น 3 เท่า ใน 4 ปีนี้ ซึ่งต้องสนับสนุนศักยภาพทั้งดิน น้ำ พันธุ์พืช พันธุ์สัตว์ ตลาด เงินทุน เทคโนโลยี และการแปรรูป ครบวงจร สำหรับจังหวัดนครราชสีมานั้นเป็นอีกหนึ่งพื้นที่ทำการเกษตรที่สำคัญของประเทศ โดยจะขอรับเรื่องนำส่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาจัดสรรงบประมาณด้านการบริหารจัดการน้ำตามความเหมาะสมต่อไป