xs
xsm
sm
md
lg

ก้าวไกลจี้สังคายานากม.ตลาดหลักทรัพย์ ทบทวนผจก.ใหม่ แถลงความมั่นใจนักลงทุนหวั่นซ้ำคดีหุ้น STARK

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ส.ส.ก้าวไกล จี้ รมว.คลัง สังคายานากม.ตลาดหลักทรัพย์ แถลงความมั่นใจต่อนักลงทุน หวั่น เกิดเหตุซ้ำคดีหุ้น STARK ทำประชาชนเสียหายหลายหมื่นล้าน ขอ ทบทวนตั้งผู้จัดการตลาดฯคนใหม่ เหตุเคยเป็นผู้บริหารตรวจสอบ บ.STARK
วันนี้ (28มิ.ย.) นายจุลพงศ์ อยู่เกษ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล แถลงถึงคดีหุ้น STARK ที่มีผู้เสียหายหลายพันคน และมีความเสียหายประมาณ 15,000 ล้านบาท และได้จับกลุ่มผู้ต้องหาคนสำคัญไปแล้วว่า ในฐานะที่กระทรวงการคลัง กำกับดูแลสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(กลต.) และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศ เคยออกมาแถลงว่าจะทบทวนและเสนอให้มีการแก้ไขกฎหมาย เกี่ยวกับตลาดทุนเพื่อให้มีการตรวจสอบ และกำกับกิจการในตลาดหลักทรัพย์ให้มากขึ้น ตนจึงอยากถามว่า ถึงตอนนี้ทางกระทรวงการคลังและกลต.ได้ทำอะไรไปบ้างแล้ว ตนไม่อยากให้เป็นไฟไหม้ฟางหรือวัวหายล้อมคอก เหมือนหน่วยงานอื่นๆ เพราะหน่วยงานของท่านมีความสำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศเป็นอย่างมาก

นายจุลพงศ์ กล่าวต่อว่า ประกอบกับเราได้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังที่เคยเป็น อดีตประธานคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์มาแล้วก็ขอให้แถลง ให้นักลงทุนในตลาดได้มั่นใจ ในการกำกับดูแลและตรวจสอบการบริหารและการทำบัญชีของบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ ดังนั้นถึงเวลาแล้วที่ทางกระทรวงการคลัง และกลต.จะต้องสังคายนากฎหมาย และระเบียบทั้งหมด ไม่เช่นนั้นจะเกิดกรณีอื้อฉาว ทำการตกแต่งบัญชี ทำธุรกรรมการเงินปลอม คล้ายกับกรณีหุ้นSTARK ที่อาจจะเกิดขึ้นในปลายปีนี้หรือปีหน้า แล้วจะสร้างความเสียหายให้กับประชาชนหลายหมื่นล้านบาท

นายจุลพงศ์ กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้อยากให้ทบทวนการตั้งผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยคนใหม่ ที่เคยเป็นผู้บริหารและผู้ถือหุ้นในกลุ่มเดียวกับบริษัทที่เคยเป็นบริษัทผู้ตรวจสอบบัญชีของSTARK ในช่วงที่เกิดเหตุ แม้การแต่งตั้งผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ จะเป็นอำนาจของคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ แต่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเป็นผู้รักษาการ ตามพ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ดังนั้นการเข้ารับตำแหน่งของผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์คนใหม่ ยังไม่เข้ารับตำแหน่งจนกว่า จะถึงเดือนสิงหาคมนี้ ซึ่งถ้าหากยังมีการดึงดัน ตนเกรงว่า จะเป็นการลดทอนความน่าเชื่อถือของตลาดหลักทรัพย์ในประเทศไทย และหมู่นักลงทุนทั้งคนไทยและต่างประเทศลงไปอีก


กำลังโหลดความคิดเห็น