โฆษกกมธ.งบ 68 ติงงบสลน.ควรเปลี่ยนเนื้องานให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ หลังพบเน้นแต่จัดอบรมสัมมนา แนะก.พ.เพิ่มบุคลากรด้านสธ. รองรับโอนถ่ายรพ.สต.ให้ท้องถิ่น จ่อตั้งอนุกมธ.ปรับลดงบคู่ขนานกมธ.ชุดใหญ่
วันนี้ (28มิ.ย.) นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ในฐานะโฆษกกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2568 แถลงผลการประชุมกมธ.ว่า ที่ประชุมได้พิจารณามาตรา 7 สำนักนายกรัฐมนตรีรวม 21 หน่วยงาน 3 กองทุน โดยพิจารณาไปแล้ว 14 หน่วยงาน 1 กองทุน โดยกมธ.ได้ให้ข้อสังเกตเกี่ยวกับงบสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี (สลน.) ซึ่งมีโครงการติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลและข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีในระดับพื้นที่ด้านสิ่งแวดล้อม แต่เนื้องานตามที่ขอรับจัดสรรงบประมาณกลับให้ความสำคัญกับการจัดอบรมสัมมนาในโรงแรม จึงควรเปลี่ยนเนื้องานให้มีความสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของโครงการ
ส่วนสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน(ก.พ.) ควรพิจารณาเพิ่มจำนวนบุคลากรสายวิชาชีพให้มากขึ้นเพื่มเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานโดยเฉพาะองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ทยอยรับกิจการของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล(รพ.สต.) แต่ไม่มีการถ่ายโอนบุคลากรเข้าไปทำงาน ดังนั้นก.พ.ควรหาแนวทางการสร้างตำแหน่งใหม่เพื่อลดการขาดแคลนด้านบุคลากรในพื้นที่
โฆษกกมธ.กล่าวต่อว่าในการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบปี68 ในครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่เทศบาลตำบลจำนวน 2,247 หน่วยจะทำหน้าที่เป็นหน่วยรับงบประมาณโดยตรง ดังนั้นที่ประชุมจึงได้มอบหมายให้สำนักงบฯ และฝ่ายเลขานุการกมธ.ฯ ร่วมกันกำหนดแนวทางการพิจารณาให้มีประสิทธิภาพโดยจะใช้การประชุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์หรือซูม เพื่อไม่ให้เกิดความแออัดและสะดวกในการประชุมร่วมกัน หากให้ทั้งหมดมาเข้าร่วมประชุมในห้องก็อาจจะเกิดความล่าช้าและไม่มีประสิทธิภาพ
นายอนุสรณ์กล่าวว่าจากการพิจารณาของที่ประชุมขณะนี้ยังไม่มีการปรับลดงบประมาณเพราะเป็นการพิจารณาภาพรวม ส่วนการปรับลดจะเป็นหน้าที่ของอนุกมธ.ที่จะมีการตั้งขึ้นต่อไป ซึ่งคงต้องพิจารณาไประยะหนึ่งจากนั้นจะกำหนดกลุ่มว่าจะมีการตั้งอนุกมธ.อย่างไรและมีกี่อนุกมธ. เพื่อให้ครอบคลุม และมีประสิทธิภาพ คู่ขนานไปกับการประชุมในห้องใหญ่