xs
xsm
sm
md
lg

“สภาพัฒน์” กังวล! เยียวยาธุรกิจโรงแรม จมพิษโควิด เข้าปีที่ 5 แนะ มท.ยกเว้นค่าธรรมเนียมฯ อัตราไม่เท่ากัน เน้นประโยชน์หลากประเภท

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“สภาพัฒน์” กังวล! แผนมหาดไทย เยียวยายกเว้นค่าธรรมเนียมธุรกิจโรงแรม ห้องพักละ 40 บาท ที่จมพิษโควิดระยะยาว หลังจ่อยกเว้นต่อเนื่องถึงปี 69 ชี้ควรพิจารณายกเว้น “ในอัตราที่ไม่เท่ากัน” หลักเสมอภาค แทนยกเว้นเท่ากันทุกราย แนะภาครัฐ นำค่าธรรมเนียมส่วนหนึ่ง ใช้พัฒนาท่องเที่ยว บริการภาพรวม แนะปรับแนวทางชูเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม จูงใจผู้ประกอบการนอกระบบเข้ามาอยู่ในระบบมากขึ้น

วันนี้ (27 มิ.ย.) มีรายงานจากกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า ในเร็วๆ นี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมประกาศใช้ กฎกระทรวงยกเว้นค่าธรรมเนียมสำหรับการประกอบธุรกิจโรงแรม พ.ศ. 2567 (ฉบับใหม่)

ทดแทนกฎกระทรวงฯ ฉบับ พ.ศ. 2565 ที่จะสิ้นผลใช้บังคับในวันที่ 30 มิ.ย. 2567 นี้ หลังคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบเมื่อ 25 มิ.ย.ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ เพื่อเป็นมาตรการในการช่วยเหลือเยียวยา “ผู้ประกอบธุรกิจโรงแรม” ที่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการแพร่ระบาดโควิด-19 เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรี (17 มี.ค.2563) ให้มีความต่อเนื่อง

“เห็นควรยกเว้นค่าธรรมเนียมสำหรับการประกอบธุรกิจโรงแรม ปีละ 40 บาทต่อห้องพัก ต่อไปอีกเป็นเวลา 2 ปี ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. 2567 - 30 มิ.ย. 2569”

ซึ่งคาดว่าจะสามารถช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของผู้ประกอบธุรกิจโรงแรม พ.ศ. 2567 ได้ประมาณ 44,199,440 บาท (ปีละ 27,099,720 บาท)

ทั้งนี้ เพื่อขับเคลื่อนการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวผ่านมาตรการ ทั้งในเชิงกระตุ้นจำนวนนักท่องเที่ยว และลดภาระผู้ประกอบการ
.
ซึ่งมาตรการขยายเวลาฯ ดังกล่าว จะทำให้ภาครัฐสูญเสียรายได้เฉลี่ยประมาณ 27,099,720 บาทต่อปี (คำนวณจากห้องพักของโรงแรมประจำปี 67 จำนวน 677,493 ห้อง)

แต่สามารถช่วยบรรเทาความเดือดร้อนและลดภาระค่าใช้จ่ายของผู้ประกอบธุรกิจโรงแรมที่ได้รับผลกระทบและยังไม่อาจฟื้นตัวจากสถานการณ์โควิด-19 ให้ดำเนินธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง

ที่ผ่านมา กระทรวงมหาดไทย ได้มีมาตรการในการช่วยเหลือเยียวยาผู้ประกอบธุรกิจโรงแรม เป็นกฎกระทรวงฉบับแรก พ.ศ. 2563 ยกเว้นค่าธรรมเนียมดังกล่าว ปีละ 40 บาทต่อห้องพัก เป็นเวลา 2 ปี ตั้งแต่ 1 ก.ค. 2563 - 30 มิ.ย. 2565

ซึ่งได้ลดภาระค่าใช้จ่ายของผู้ประกอบธุรกิจโรงแรม ที่จะต้องชำระค่าธรรมเนียมประกอบธุรกิจโรงแรม คิดเป็นเงินจำนวน 47,354,200 บาท

ขณะที่ กฎกระทรวงยกเว้นค่าธรรมเนียมฯ พ.ศ. 2565 ยกเว้นค่าธรรมเนียม ตั้งแต่ 1 ก.ค. 2565 - 30 มิ.ย. 2567

สามารถลดภาระค่าใช้จ่ายของผู้ประกอบธุรกิจโรงแรมฯ เป็นเงินจำนวน 49,786,160 บาท

ขณะที่ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือ สภาพัฒน์ มีความเห็นต่อกฎกระทรวงฉบับนี้ ว่า

“เห็นควรพิจารณามาตรการส่งเสริมให้ธุรกิจโรงแรม สามารถปรับแนวทางการประกอบธุรกิจให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยมุ่งเน้นการจูงใจให้ผู้ประกอบธุรกิจโรงแรม ที่อยู่นอกระบบให้เข้ามาอยู่ในระบบมากขึ้น”

ทั้งนี้ การให้สิทธิประโยชน์ หรือสิ่งจูงใจ (Incentive) แก่ธุรกิจโรงแรม จะส่งผลต่อการพัฒนาต่อยอด ในการปรับปรุงสถานประกอบการ ที่จะเป็นการผลักดันให้การประกอบธุรกิจโรงแรมในไทยมีความเข้มแข็ง และยั่งยืนมากขึ้นกว่าอดีตที่ผ่านมา

โดยเฉพาะมาตรฐานความมิตรต่อสิ่งแวดล้อม หรือ “คาร์บอนเป็นศูนย์ (Net Zero Carbon)” เพื่อรองรับความท้าทายต้านสิ่งแวดล้อมและมาตรฐานต้านความปลอดภัยในการให้บริการด้านที่พักในอนาคต

สภาพัฒน์ ยังเห็นว่า อย่างไรก็ตาม ควรพิจารณายกเว้นค่าธรรมเนียมประกอบธุรกิจโรงแรม “ในอัตราที่ไม่เท่ากัน” โดยยึดหลักความเสมอภาค (Equity) ของผลประโยชน์ที่จะได้รับในธุรกิจโรงแรมแต่ละประเภท

เพื่อให้ภาครัฐสามารถนำค่าธรรมเนียมธุรกิจโรงแรมที่ได้มาเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาภาคการท่องเที่ยว และบริการในภาพรวม

ให้มีคุณภาพและมาตรฐานที่สูงขึ้น แทนการยกเว้นค่าธรรมเนียมเท่ากันทั้งหมดให้กับธุรกิจโรงแรมทุกราย

ด้าน สำนักงบประมาณ มีความเห็นว่า กระทรวงมหาดไทย ควรจัดทำรายงานเปรียบเทียบประโยชน์ที่ได้รับ กับการสูญเสียรายได้ ที่เกิดขึ้นจริงกับประมาณการที่จัดทำ เสนอคณะรัฐมนตรีเพี่อทราบเป็นประจำ ทุกสิ้นปีงบประมาณ


กำลังโหลดความคิดเห็น