xs
xsm
sm
md
lg

จบนะครับนะ "โจ๊ก"!! ก.ตร. เอกฉันท์ 12 ต่อ 0 เห็นชอบคำสั่งให้ออกจากราชการถูกต้อง! ** เลือก สว. คนดังตกรอบอื้อ คาด กกต.รับรองก่อนสอยทีหลัง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล - พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล - นิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล - สมชาย วงศ์สวัสดิ์
ข่าวปนคน คนปนข่าว

** จบนะครับนะ "โจ๊ก"!! ก.ตร. เอกฉันท์ 12 ต่อ 0 เห็นชอบคำสั่งให้ออกจากราชการถูกต้อง!

ก.ตร.มีมติเป็นเอกฉันท์ 12 ต่อ 0

เห็นชอบด้วยกับคำสั่งของ "บิ๊กต่าย" พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. รักษาการ ผบ.ตร.ในขณะนั้น ให้ "โจ๊ก"พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ออกราชการถูกต้อง

ถ้าเป็นภาษาฟุตบอล ก็ต้องบอกว่าสกอร์ขาดลอย

ก่อนจะถึงนัดชี้ชะตาเมื่อวาน (26มิ.ย.) "โจ๊ก" พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ และพวก เครือข่ายทั้งหลาย สื่อที่เลี้ยงดูปูเสื่อไว้ อุตส่าห์ตีปี๊บว่า พลิกสถานการณ์ได้

วินาทีสุดท้ายก่อนที่ ก.ตร. จะมีมติ ก็ยังอุตส่าห์ปล่อยข่าวไปตามโซเชียลฯ "โจ๊ก" โชคหนุนบุญช่วย ได้วนกลับ สตช.
เล่นเอาต้องเช็กข่าวกันวุ่น ว่า จริงหรือ!?

อันที่จริง "โจ๊ก" และ เครือข่าย ถ้าได้เห็นบรรยากาศ "ภาษากาย" ของผู้ที่เข้าร่วมประชุม ก็น่าจะทำใจไว้ล่วงหน้าจะดีกว่า

ว่ากันว่า ตามเวลานัดหมาย 15:00 น. ตรง ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ "เศรษฐา ทวีสิน" นายกรัฐมนตรี ประธานการประชุมมาถึง ทั้ง "บิ๊กต่อ" พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. พร้อมด้วย รอง ผบ.ตร. มารอต้อนรับบริเวณประตูทางเข้า

เห็นว่า ทุกคนมีสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส และทักทายสื่อมวลชนอย่างอารมณ์ดี โดยเฉพาะ "บิ๊กต่าย" พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. ได้พูดคุยกับสื่ออย่างอารมณ์ดี แถมส่งมินิฮาร์ทให้ด้วย

จากนั้นได้สอบถามสื่อฯ ถึงอากาศบริเวณห้องโถงเย็นดีแล้วหรือไม่? ตัวเองมาเช็กให้สื่อทุกวัน พร้อมกับทิ้งประโยคแบบมีนัยยะ ว่า ...อากาศตรงนี้เย็นแล้ว แต่ข้างบนร้อน !

ทันทีที่นายกรัฐมนตรี เดินทางถึง ได้รับไหว้และทักทายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ที่มารอต้อนรับ โดยเฉพาะเมื่อเดินผ่าน "บิ๊กต่าย" พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ นายกรัฐมนตรี ได้เอามือแตะไหล่คล้ายๆ ให้กำลังใจ!

พร้อมกับคำถามของสื่อที่ถามนายกฯว่า ไหวหรือไม่? แทนคำตอบ นายกรัฐมนตรี หันมายิ้มพร้อมชู 2 นิ้วให้ ก่อนเดินขึ้นห้องประชุม...

สุดท้ายก็อย่างที่ทราบกัน ก.ตร.ที่มี 13คน ที่เข้าประชุม ใช้เวลาประชุมกันอยู่พักใหญ่ ก่อนจะลงมติ 12 ต่อ 0 !! โดยที่อีก1เสียง คือ ผู้ลงนามในคำสั่ง "บิ๊กต่าย" นั้น เดินออกจากห้องประชุมเพราะเป็นผู้มีส่วนได้ ส่วนเสีย

เรียกว่า ทั้งหมดเห็นชอบตามอนุฯก.ตร. ที่อนุฯก.ตร. วินัย เสนอว่า การดำเนินการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นไปตามหลักเกณฑ์ตามพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2565 กำหนดแล้ว

นั่นหมายถึงว่า “โจ๊ก” ต้องรอคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ (ก.พ.ค.ตร.) ว่าจะพิจารณายกเลิก หรือเพิกถอนคำสั่งตามที่ “โจ๊ก” ร้องหรือไม่ต่อไป

แต่งานนี้ ผู้สันทัดกรณี เห็นว่ายากยิ่งกว่าเข็นครกขึ้นภูเขา ที่จะพลิก

เพลงที่อุตสาห์ให้ลงทุนจ้างแต่ง ทำคลิปมิวสิกวีดีโอเอาไว้เชียร์ โจ๊ก ที่ว่า "เขานี่แหละ บิ๊กโจ๊ก เป็นตำรวจน้ำดี โชคหนุนบุญช่วยจะได้กลับสตช." เห็นที่ต้องลบคลิปทิ้ง! ซะละมั้ง.. จบนะครับนะ!!

แสวง บุญมี - ดิเรก ถึงฝั่ง - พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล
** เลือก สว. คนดังตกรอบอื้อ คาด กกต.รับรองก่อนสอยทีหลัง

การเลือกสว.ระดับประเทศ จากผู้ผ่านการเลือกระดับจังหวัด ทั้ง 77 จังหวัด ใน 20 กลุ่มอาชีพ รวม 2,995 คน จะมีผู้ได้เป็นสว.200 คน และขึ้นบัญชีสำรอง100 คน ผ่านไปแล้วอย่างทุลักทุเล

ตามขั้นตอน ผู้สมัคร สว.ต้องเข้ารายงานตัวในช่วง 08.00-09.00 น. จากนั้นเข้าสู่การเลือกที่แบ่งเป็น 2 รอบ

โดยรอบแรก ผู้สมัคร สว.แต่ละกลุ่ม จะลงคะแนนเลือกบุคคลในกลุ่มเดียวกันได้ไม่เกิน 10 คน โดยจะลงคะแนนเลือกตนเองก็ได้ แต่จะลงคะแนนให้บุคคลใดเกิน 1 คะแนนมิได้ ซึ่งผู้ได้รับคะแนนสูงสุด 40 ลำดับแรก ของแต่ละกลุ่มเพื่อเข้าสู่การเลือกรอบ 2 หรือ รอบไขว้ต่อไป กรณีมีผู้ได้รับคะแนนเท่ากัน จนทำให้มีผู้ได้คะแนนสูงสุดเกิน 40 คน ให้ใช้วิธีจับสลาก

รอบแรกนี้ มีผู้สมัคร สว. ผ่านเข้าไปสู่การเลือกรอบ 2 จำนวน 800 คน แต่กว่าจะรู้ว่าใครผ่านใครไม่ผ่าน ก็กินเวลาไปถึง 16.00 น.

มีคนเด่น คนดังที่ตกรอบแรก หลายคน อาทิ “นิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล” อดีตรองนายกรัฐมนตรี “ดิเรก ถึงฝั่ง” อดีต สว.นนทบุรี , “พิชิต ลิขิตกิจสมบูรณ์” อดีตอาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์, ฐานุพงศ์ ศักดิ์ธนาวัฒน์ หรือ “กล้วย เชิญยิ้ม” ดาราตลกชื่อดัง, ศักดินารักษ์ อุดมการณ์ หรือ “ป๋าแหงม” , น.ส.อัจฉรา อัชฌายกชาติ อดีตผู้สื่อข่าวเป็นต้น

คนที่ตกรอบบางคนก็ออกมาแฉว่า มีการีฮั้ว มีการโทรติดต่อ เสนอผลประโยชน์ให้เป็นเงินหลักแสนบาทให้ลงคะแนนตามโพย แต่บางคนก็ยอมรับว่าการแข่งขันมีแพ้ มีชนะ เป็นเรื่องปกติ ไม่ยากพะพูดอะไรมาก

ส่วนคนที่ได้เข้ารอบ และมีโอกาสที่จะได้เข้าไปเป็น สว.ตัวจริง อาทิ “พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์” อดีตแม่ทัพภาค 4 “วิสิทธิ์ พวงเพชร” อดีต รองผู้ว่าฯชลบุรี , “วีรศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี” อดีตผู้ว่าฯจ.อ่างทอง “มงคล สุรสัจจะ” อดีตอธิบดีกรมการปกครอง “สมชาย วงศ์สวัสดิ์” อดีตนายกรัฐมนตรี “พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล” อดีต รอง ผบ.ตร. “พล.ต.ท. บุญจันทร์ นวลสาย” อดีต รอง ผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 3

“กมล รอดคล้าย” อดีตเลขาฯ สพฐ. “สุทิน แก้วพนา” อดีตรองปลัด ศธ. “แล ดิลกวิทยรัตน์” อาจารณ์ด้านเศรษฐศาสตร์ แรงงาน “กัมพล สุภาแพ่ง” อดีต ส.ส.เพชรบุรี “พันธุ์เลิศ ใบหยก” ประธานกรรมการเครือตึกใบหยก “ษิทรา เบี้ยบังเกิด” หรือ “ทนายตั้ม” “บรรจง นะแส” ที่ปรึกษาสมาคมรักษ์ทะเลไทย “อังคณา นีละไพจิตร” อดีตกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ “เทวฤทธิ์ มณีฉาย” บก.บห.สำนักข่าวประชาไท “ขจรศักดิ์ ศรีวิราช” อดีตนายกเทศมนตรีเมืองดอกคำใต้ พ่อตาของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เป็นต้น
สำหรับการเลือกรอบ 2 หรือ รอบเลือกไขว้ จะมีการจับสลากแบ่งสายเป็น 4 สาย โดยสาย ก. จะประกอบด้วย กลุ่มอาชีพที่ 7,11,13,16,20 สาย ข. กลุ่มอาชีพที่ 1,4,6,17,18 สาย ค. กลุ่มอาชีพที่ 5,8,9,12,15 และสาย ง.กลุ่มอาชีพที่ 2,3,10,14,19
วิธีการเลือกคือ ผู้ได้รับเลือกในรอบแรกของแต่ละกลุ่ม มีสิทธิลงคะแนนเลือกผู้ได้รับเลือกรอบแรกของกลุ่มอื่น แต่ละกลุ่มในสายเดียวกัน ได้กลุ่มละไม่เกิน 5 คน โดยจะลงคะแนนให้แก่ผู้ได้รับเลือกขั้นต้นในกลุ่มเดียวกัน หรือเลือกตนเองไม่ได้
เมื่อนับคะแนน ผู้ได้คะแนนสูงสุด 10 ลำดับแรกของแต่ละกลุ่ม จะเป็นผู้ได้รับเลือกเป็น สว.ของกลุ่มนั้นๆ โดยผู้ที่ได้คะแนน ลำดับที่11- 15 ของแต่ละกลุ่ม ได้ขึ้นบัญชีสำรอง ของกลุ่ม

เป็นที่น่าสังเกตว่า การเลือกสว. ทั้งสองรอบนี้ เป็นไปด้วยความล่าช้า ผิดจากที่คาดหมายไว้มาก อย่างรอบแรก กว่าจะนับคะแนนเสร็จและรู้ว่าใครได้ผ่านเข้าไปเลือกรอบสองบ่าง ก็กินเวลาไปถึง 16.00 น. ส่วนการเลือกรอบสอง เวลาผ่านไปถึง 21.00น. ก็ยังไม่ได้เริ่มนับคะแนน

“แสวง บุญมี” เลขาธิการกกต. ในฐานะผู้อำนวยการการเลือกสว.ระดับประเทศ กล่าวถึง เรื่องที่ผู้สมัคร สว. บางกลุ่มแต่งกายเหมือนกัน พักโรงแรมเดียวกัน จนถูกตั้งข้อสังเกตว่า เรื่องการแต่งกายก็เหมือน เพราะอาจจะมาจากหมู่บ้านเดียวกัน บริษัทเดียวกัน เบื้องต้นถือว่ายังไม่ผิดกฎหมาย ส่วนจะผิดหรือไม่ต้องดูข้อเท็จจริงประกอบ เช่นเดียวกัน กรณีกลุ่มคนจองโรงแรมเพื่อพบกัน ที่มีประมาณ 20 โรงแรม ทางกกต. ก็ได้รวบรวมหลักฐานเอาไว้แล้ว ที่เราจะดูคือคนสั่งจองโรงแรม คนสั่งอาหารต่างๆ ซึ่งตามกฎหมาย การจัดเลี้ยงก็ผิดแล้ว การให้ประโยชน์ทรัพย์สินอื่นใด ก็ผิด แต่ต้องใช้เวลาในการรวบรวมพยานหลักฐาน หากรวบรวมเสร็จแล้วจึงจะบอกได้ว่าผิดกฎมหายข้อใด

ทั้งนี้ ตามมาตรา 60 ของ พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่ง สว. 2561 ใครทำให้การเลือกไม่สุจริตเที่ยงธรรม ก็ส่งศาลฎีกาพิจารณา และเมื่อศาลรับคำคัดค้านไว้ ถ้าได้เป็นสว. ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ ถ้าขึ้นบัญชีสำรองไว้ก็ลบชื่อออก

ต้องติดตามกันต่อไปว่า ถึงที่สุดแล้วการเลือกสว.ด้วยกติกาใหม่ ครั้งนี้เป็นครั้งแรก จะได้ สว.ออกมาหน้าตาเป็นอย่างไร และ กกต.จะจับได้ไล่ทันกับผู้ที่ทำผิดกฎหมายเลือกสว. หรือไม่


กำลังโหลดความคิดเห็น