วันนี้ (20 มิ.ย.) ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร (สมัยวิสามัญ) เป็นพิเศษ เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 วงเงิน 3.75 ล้านล้านบาท ในวาระแรก เป็นวันที่ 2
นายชัชวาล แพทยาไทย ส.ส.ร้อยเอ็ด เลขาธิการพรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) อภิปรายว่า ตั้งข้อสังเกตงบรายจ่ายปี 2568 ไว้ 3 ข้อ คือ 1. ตั้งงบประมาณสูงเกินจริง ยกตัวอย่างงบประมาณรายจ่ายปี 2567 ที่ตนเป็นอนุกรรมาธิการด้านความมั่นคง พบว่า การจัดซื้อยุทโธปกรณ์ กองทัพจะของบประมาณในกรอบกว้างๆ ไม่ลงรายละเอียดจะจัดซื้ออะไร อ้างเป็นความลับความมั่นคง เปิดช่องทุจริต มีไอ้โม่งแสวงหาผลประโยชน์เข้ากระเป๋าตัวเอง เช่น โครงการกองทัพอากาศเขียนหลักการกว้างๆ เป็นโครงการเพิ่มสมรรถนะกองทัพ แต่ไม่บอกรายละเอียดจัดซื้อ ภายหลังอนุมัติงบให้แล้ว ไปซื้อวิทยุสื่อสาร 40ตัว เสนอราคากลาง 38ล้านบาท ทั้งที่ราคาตลาดอยู่ที่ 15 ล้านบาท มีส่วนต่างถึง 23 ล้านบาท เรื่องนี้คณะกรรมการจัดซื้อกลัวติดคุก จึงส่งเรื่องมาให้ตนดู เกรงจะเกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้เช่นนี้เกิดขึ้นในงบฯปี 68 จึงขอให้กองทัพเขียนทีโออาร์โครงการต่างๆ ให้ชัด ไม่มาสอดไส้ภายหลัง 2. การตั้งงบประมาณไม่เหมาะสมสภาพปัญหาประเทศ เช่น ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์สร้างความเสียหายให้คนไทยนับหมื่นล้านบาท แต่งบฯปี 68 ให้งบแก้ปัญหาน้อยนิด 3. รัฐบาลไม่รักษาสัญญาที่ให้ไว้กับสภา ที่ผ่านมา นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม สั่งการกองทัพใช้ยุทธภัณฑ์ที่บริษัทคนไทยผลิต แต่ในทางปฏิบัติกองทัพไม่ให้ความร่วมมือทำตามนโยบาย รมว.กลาโหม แม้กระทั่งการเปิดโอกาสให้บริษัทคนไทยร่วมแข่งขันอย่างเป็นธรรมก็ไม่มี ไม่รู้กองทัพไม่ให้ความร่วมมือ หรือ รมว.กลาโหม สั่งการไม่ได้ ทั้งที่เป็นสัญญาที่รัฐบาลให้ไว้ต่อสภา แต่หน่วยงานไม่ทำตามสัญญา กองทัพไม่ให้ความสำคัญ รมว.กลาโหม เป็นการพิสูจน์นายสุทินคือของจริงหรือไม่