xs
xsm
sm
md
lg

ถุงขนม2พันล้านขยับ 18มิ.ย.“ทักษิณ”ระทึก!?

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ทักษิณ ชินวัตร
เมืองไทย 360 องศา

กลายเป็นเรื่องน่าจับตาทีเดียวสำหรับข่าวคราวเรื่อง “ถุงขนม” ภาคสอง ที่ว่ากันว่ามีวงเงินถึง 2 พันล้าน สำหรับเป็นค่าใช้จ่ายในการวิ่งเต้นในกระบวนการยุติธรรม เพื่อหวังช่วยเหลือ “ขาใหญ่” บางคนให้รอดพ้นจากคดีสำคัญ โดยมีเดิมพันวันที่ 18 มิถุนายน ที่ทุกสายตาต้องจับจ้องเป็นจุดเดียวแน่นอน

เรื่องราว “ถุงขนม” กลับมาฮือฮาอีกรอบ หลังจาก นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี โพสต์ข้อความผ่านสื่อโซเชียล ถึงกรณีถุงขนมภาคสอง โดยระบุว่า ปัญหาการติดสินบน 2,000 ล้าน ผ่านบริษัทกาสิโนในฮ่องกง ของประเทศสารขัณฑ์ ยังคงได้รับความสนใจ เพราะเรื่องนี้หมายถึงความน่าเชื่อถือ ของกระบวนการยุติธรรมที่ถูกทำลาย

ล่าสุด สายลับได้รายงานเพิ่มเติมว่า ระดับอธิบดีของกระบวนการยุติธรรม ได้มีการเดินทางไปฮ่องกง เพื่อไปประสานงานเรื่องนี้เรียบร้อยแล้ว โดยมีรายละเอียดดังนี้

ในระหว่างวันที่ 23 พฤษภาคม 2567 เวลา 11.20 นาฬิกา ได้มีผู้บริหารระดับอธิบดีของกระบวนการยุติธรรม เดินทางไปฮ่องกง ที่สำคัญสายลับยังรายงานด้วยว่า การเดินทางของบุคคลระดับอธิบดี ได้นำภรรยาอีกคนเดินทางไปด้วย

สายลับยังได้ให้รายละเอียดว่า เขาเดินทางออกจากสนามบินนานาชาติสารขัณฑ์ ด้วยสายการบินเอมิเรตส์ (EK) เที่ยวบิน EK 384 มีจุดหมายปลายทางที่ฮ่องกง ผ่านออกทางตรวจคนเข้าเมืองระบบ Fast track Zone 3 เวลา 11.21 นาฬิกา

และกลุ่มบุคคลดังกล่าว ได้เดินทางกลับประเทศสารขัณฑ์ ด้วยสายการบินเอมิเรตส์ (EK) เที่ยวบินที่ EK 385 กลับถึงประเทศสารขัณฑ์ ที่ท่าอากาศยานนานาชาติสารขัณฑ์ เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2567 เวลา 00.30 นาฬิกา แล้วเดินมาขึ้นรถที่ประตู 9 ชั้น 4 ของสนามบิน

เดินทางออกจากสนามบินด้วยรถยนต์นั่งแวน ยี่ห้อ Benz ทะเบียนกรุงสารขัณฑ์ มีผู้ร่วมโดยสารในรถยนต์ดังกล่าวจำนวน 6 คน ซึ่งรถยนต์นั่งแวนยี่ห้อ Benz ทะเบียนกรุงสารขัณฑ์ ได้มีผู้แจ้งมาว่า รถยนต์ดังกล่าว มีผู้ครอบครองเป็นบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ซึ่งประกอบธุรกิจเกี่ยวกับการอำนวยความสะดวกเกี่ยวกับเช่าพื้นที่จัดงานแสดงสินค้า

นี่คือข้อมูลเพิ่มเติม ที่ทางสายลับได้รายงานผ่านตะแล็ปแก็ป เพื่อแจ้งให้ประชาชนชาวสารขัณฑ์ได้รับทราบ เพื่อร่วมกันปกป้องกระบวนการยุติธรรม อย่าให้ใครเอาเงินมาซื้อได้ทุกอย่าง (เพื่อไม่ให้ตนเองติดคุก) เพราะกระบวนการยุติธรรม คือที่พึ่งสุดท้ายของประชาชน

ท้ายสุด สายลับยังได้บอกอีกว่า ภรรยาอีกคนที่ร่วมเดินทาง เป็นหลานสาวของอดีตประมุขตุลาการ ที่ไม่ใช่สองคนที่ประสานเรื่องนี้ ที่สำคัญยังมีบทบาทสำคัญ เป็นถึงเลขาฯ ของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญคนหนึ่ง ของประเทศสารขัณฑ์

ขณะที่นายไพศาล พืชมงคล นักกฎหมาย และอดีตกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ) โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก เปิดเผยในเรื่องเดียวกัน และสอดคล้องกันว่า

บานแล้ว ข่าวซุบซิบทางโซเชียลฯ ที่ลามยิ่งกว่าไฟลามทุ่ง เรื่องติดสินบนเพื่อประกันตัวผู้ต้องหาสำคัญ คดี112 กำลังบานเป็นกระด้ง และอาจนำไปสู่การไต่สวนเรื่อง “ถุงขนม” รอบที่ 2 ข่าวว่าจากการตรวจสอบของผู้ใหญ่ ล่าสุดเมื่อวานนี้ มีการยอมรับว่าระดับบิ๊ก ควงเมียบินไปฮ่องกงจริง แต่จะได้พบกับบิ๊กบ่อนการพนันมาเก๊าหรือไม่ ไม่แน่ชัด เรื่องนี้อาจทำให้ แผนพลิกก็ได้นะจ๊ะ อย่าลืมว่า บ้านเมืองนี้ศักดิ์สิทธิ์ พระสยามเทวาธิราชมีจริง

ขณะเดียวกัน ที่ต้องจับตากันก็คือ การเคลื่อนไหวล่าสุดของ ฝ่ายตุลาการ โดยคณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม(ก.ต.) เสนอประธานศาลฎีกาให้ตั้งคณะกรรมการ สดับตรับฟังข้อเท็จจริง หลังปรากฏข่าว “ถุงขนม 2 พันล้านบาท”

โดยวันที่ 17 มิถุนายน นายสรวิศ ลิมปรังษี โฆษกศาลยุติธรรม กล่าวว่า ตามที่ปรากฏเป็นข่าวตามสื่อต่างๆ และข้อมูลเผยแพร่บนโซเชียลมีเดีย ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาทำนองว่า มีการแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม และพยายามวิ่งเต้นเรื่องการประกันตัวผู้ต้องหาบางรายนั้น ปัจจุบันยังไม่มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงในชั้นต้นในเรื่องดังกล่าวแต่อย่างใด

อย่างไรก็ตาม วันนี้ในการประชุมคณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม (ก.ต.) สำนักงานศาลยุติธรรมได้รายงานให้ ก.ต. ทราบเกี่ยวกับข่าวดังกล่าวแล้ว โดยที่ประชุม ก.ต. เสนอให้ประธานศาลฎีกาพิจารณาแต่งตั้งคณะกรรมการสดับตรับฟังข้อเท็จจริงเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้นตามขั้นตอน โดยหากมีความคืบหน้าในการดำเนินการจะแจ้งให้ทราบอีกครั้งหนึ่ง

อย่างไรก็ดี เรื่องราวที่ต้องสนใจกันก็คือในวันที่ 18 มิถุนายน มีคดีสำคัญประดังเข้ามาพร้อมๆ กันถึง 4 คดี คดีแรกที่ต้องจับตาก็คือ คดีความผิดตาม มาตรา 112 และความผิดตามพระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์ ที่อัยการสูงสุดนัดสั่งฟ้องนายทักษิณ ชินวัตร โดยก่อนหน้านั้น นายทักษิณ ได้ยื่นเรื่องขอความเป็นธรรมไปแล้ว ซึ่งก็ต้องรอลุ้นว่า อัยการจะพิจารณาหรือไม่ หากรับไว้ ก็อาจทอดเวลาได้อีก แต่หากไม่รับ ก็ต้องมาลุ้นว่าจะได้รับการประกันตัวหรือไม่ เพราะสังคมกำลังเฝ้ามองว่า จะออกมาแบบไหน จะได้ประกันตัวกลับบ้าน หรือต้องไปนอนคุก แต่หากชั่งน้ำหนักแล้ว น่าจะออกมาในโทนได้ประกันมากกว่า หากเขาไม่หนีไปเสียก่อน

อีกคดี ก็เป็นคำร้องถอดถอน นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กรณีแต่งตั้ง นายพิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรี เนื่องจากมีการระบุว่า ขาดคุณสมบัติ โดยศาลรัฐธรรมนูญนัดพิจารณาในวันที่ 18 มิถุนายน เช่นเดียวกัน ซึ่งก็ต้องมาลุ้นกันว่าออกมาอย่างไร จะมีการไต่สวนหรือไม่ หลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งให้ผู้ร้องและผู้ถูกร้อง ต้องยื่นพยานหลักฐานเพิ่มเติมไปแล้ว

ส่วนอีกคดีที่ต้องระทึกใจมากเป็นพิเศษเหมือนกัน คือ คดีคำร้องยุบพรรคก้าวไกล ที่ศาลรัฐธรรมนูญ กำหนดวันพิจารณาในวันเดียวกัน ซึ่งก็ต้องลุ้นว่า จะมีการไต่ส่วนหรือไม่ หรือว่าจะนัดวันพิจารณาชี้ขาดกันหรือไม่ ก็ต้องรอติดตาม อย่างไรก็ดี มีอีกคดีที่ศาลรัฐธรรมนูญน่าจะมีการตัดสินก็คือ คดีที่ร้องว่า การเลือกสว. ขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ หากขัดก็ต้องเลือกใหม่ หากไม่ขัด ก็ไปต่อให้จบ

ดังนั้น วันที่18 มิถุนายน ถือว่าเหมือนกับ “วันหยุดโลก” สำหรับใครบางคน หรือหลายคนเพราะมันเหมือนกับวันชี้ชะตาอนาคตของตัวเอง ทุกอย่างเหมือนกับการ “มัดรวม” ในวันเดียวกัน แต่สำหรับนายทักษิณ ชินวัตร เชื่อว่าต้องลุ้นหนักกว่าใคร เพราะมีทั้งหน้าตา เครดิต เป็นเดิมพัน !!


กำลังโหลดความคิดเห็น