ข่าวปนคน คนปนข่าว
** "บีทีเอส" ยังคิดขวางสายสีส้มต่อ ถามเสียหาย1.3แสนล้าน ใครรับผิดชอบ!? เชิญเช็กบิลที่ "คีรี-พวก" ได้เลย
กรณีคดีประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้ม ที่ศาลปกครองสูงสุดพิพากษาว่า ชอบด้วยกฎหมายแล้ว ทำให้โครงการที่ล่าช้ามากว่า 4 ปี กำลังจะะเดินหน้าในขั้นตอนทำสัญญากัน ระหว่าง รฟม.หน่วยงานผู้รับผิดชอบ กับ บมจ.ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ หรือ “บีอีเอ็ม” ผู้ชนะประมูลต่อไป
ต้องบอกว่า เรื่องนี้เป็นประเด็นดรามากันมาตลอด ทั้งก่อน และหลังประมูล
โดยเฉพาะ กลุ่มบริษัทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ “บีทีเอสซี” เจ้าของสัมปทานรถไฟฟ้า บีทีเอส และ รถไฟฟ้าโมโนเรลสายสีเหลือง สายสีชมพู โดย “เจ้าสัวคีรี” คีรี กาญจนพาสน์ ที่ออกตัวแรง ขวางประมูลในทุกรูปแบบ!!
เนื่องเพราะ รถไฟฟ้าสายสีส้ม เป็นอภิมหาเมกะโปรเจกต์ระบบขนส่งทางรางสายสำคัญ วิ่งผ่ากลางกรุง ผ่านโบราณสถาน สถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ ถือว่ามีมูลค่าสูง
โครงการแบ่งเป็น 2 ส่วน โดยส่วนตะวันออก จาก ศูนย์วัฒนธรรมฯ-มีนบุรี ระยะทาง 22.5 กม. รวม 17 สถานี มีทั้งยกระดับและใต้ดินที่สร้างเสร็จแล้ว เหลือติดตั้งอาณัติสัญญาณ และหาขบวนรถ คาดว่าจะเดินรถในปี 70-71 และ ส่วนตะวันตก จากศูนย์วัฒนธรรมฯ-บางขุนนนท์ มีเฉพาะใต้ดิน ระยะทาง13.4 กม. 11 สถานี จะเซ็นสัญญาและเริ่มก่อสร้างปีนี้ คาดว่า เดินรถได้ในปี 72-73
ว่ากันว่า ใครที่ชนะประมูล จะกลายเป็นเจ้าแห่งระบบขนส่งมวลชนในกรุงเทพฯ อย่างแท้จริง ต่อ"จิ๊กซอว์" สัมปทานเดิมที่มีอยู่ได้ครบลูป
แต่ “กลุ่มบีทีเอส” อยากได้ อยากเป็น แต่ไม่อยากแข่งขันในกติกาของ รฟม. ทั้งที่ การประมูลที่ผ่านมาเปิดกว้างให้ผู้ประกอบการสามารถเข้าแข่งขันกันได้อย่างเท่าเทียม พอมีผู้ชนะประมูล จึงกวนน้ำให้ขุ่น ตีฆ้องร้องป่าว ไม่ได้รับความเป็นธรรม
ที่ผ่านมา “เจ้าสัวคีรี” ทุ่มสุดตัว สกัด BEM สั่งเดินหน้า “หาเหตุ” ร้องเรียนทุกช่องทาง ฟ้องศาล จัดทัพพิสดาร ไอโอ อินฟูเอนเซอร์ นักวิชาการ สื่อในมือ เช่น “เนชั่นกรุ๊ป” ที่ตัวเองถือหุ้นอยู่
รวมไปถึงว่าจ้างนักแฉ อย่าง “ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์” ออกมาเล่นละครลิง ปูพรมถล่มฟาดการประมูลว่า ไม่ชอบด้วยกฎหมาย นู่น นี่ นั่น
ละเลงประเคนประเด็นต่างๆให้ถึงที่สุด มโนไปไกลถึงขั้นมี "เงินทอน" ส่อทุจริต คอร์รัปชัน เพื่อมุ่งหวังให้ล้มประมูล หรือ เปิดประมูลใหม่ให้ได้ นั่นเอง
แว่วว่า ก่อนศาลปกครองสูงสุดจะมีคำตัดสินออกมา "เครือข่าย" ของเจ้าสัว ก็ยังอุตสาห์เคลื่อนไหว ปล่อยข่าวว่า คมนาคม จะเปิดประมูลใหม่
จริงไม่จริงไม่รู้... แต่ก็ทำให้วงการถามไถ่กันให้วุ่น
เพราะ น้ำหนักของข่าวโคมลอย อยู่บนพื้นฐานที่รับรู้กันว่า "คีรี" สนิทสนม และให้การสนับสนุนจน "สุรพงษ์ ปิยะโชติ" ส.ส.เพื่อไทย ลอยมานั่ง รมช.คมนาคม คุมระบบรางสมใจ เจ้าสัว
ยังไม่รวมที่ "คีรี"ตามติดเป็นเงา "ทักษิณ ชินวัตร" กลายเป็นเจ้าสัว ที่เอาตัวเองลงไปเล่นการเมือง พอๆ กับนักการเมือง!
แต่เมื่อ "ความจริงมีหนึ่งเดียว" ในที่สุดข้อร้องเรียน และประเด็นที่กลุ่มคีรี ฟ้องต่างๆ ก็ถูกยกฟ้อง ข้อสงสัยจบทุกข้อครหา
หลังศาลตัดสิน “กลุ่ม BTS” เคลื่อนไหวออกมาน้อมรับคำพิพากษา แต่ก็มิวายสั่งทนายหาช่องว่า จะทำอะไรได้อีกบ้าง
เรียกง่ายๆว่า ยังไม่ยอมแพ้!!
ขณะเดียวกันเครือข่ายเจ้าสัว ก็ออกมาตีประเด็นผ่านสื่อโซเชียลฯ ถามหาความเสียหายที่โครงการล่าช้า ใครจะรับผิดชอบ
ตามสมทบด้วย "สามารถ ราชพลสิทธิ์ " อดีต รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่วิพากษ์สายสีส้มมาตลอด โพสต์บทความวิชาการตามสไตล์ ทำนอง สายสีส้ม "บทเรียนที่ต้องเรียน”
เนื้อหาสรุปรวมค่าสูญเสีย-เสียโอกาส นู่น นี่ นั่น สะระตะรวมแล้วโครงการที่ช้านานทำให้มีตัวเลขเสียหายไปถึง 1.3 แสนล้าน!
แล้วก็ตั้งคำถาม “ความสูญเสียอันใหญ่หลวงนี้ ใครจะรับผิดชอบ?”
จากนั้นโพสต์ลอยๆ ตามมาอีกว่า "แล้วเงินก้อนใหญ่ 6.8 หมื่นล้าน หายไปไหน!?"
นี่ก็เป็นไปตามคาด แม้ “สามารถ” จะพูดลอยๆ แต่ถ้าใครติดตาม “ละครลิงชูวิทย์” เล่นมาก่อนก็จะรู้ว่า เป็น "แมสเสจ"เดียวกัน ตัวเลขมโนเอาจากของบีทีเอส ที่อ้างว่ายื่นเสนอในการประมูลครั้งแรก มาเทียบกับ BEM มีส่วนต่างกันอยู่ราวๆ 6.8 หมื่นล้าน
ทั้งๆ ที่ก็ไม่มีใครรู้ว่า ความจริงเป็นเช่นนี้หรือ? BTS ยื่นเท่าไหร่กันแน่ และประมูลครั้งที่สอง “คีรี” ไม่เข้าร่วม กลับมั่วมาเทียบกันซะงั้น
“สามารถ” ยังดีกว่า “ชูวิทย์” นิดหน่อย ตรงที่ไม่ได้มโนว่ารู้บัญชีที่สิงคโปร์ ว่าโอนเงินเกือบๆ 7หมื่นล้าน กันอย่างไร ?
จริงๆ แล้วกับคำถามว่า ความเสียหายที่เครือข่ายคีรี ระบุ 1.3 แสนล้าน ใครรับผิดชอบ ?
ถ้าพิจารณาอย่างใจเป็นธรรมก็ต้องมองในแง่ ผู้ประกอบการ ที่เข้าแข่งขันแล้วชนะประมูลต้องอดทนรออยู่กว่า 4 ปี แต่ถูกกลุ่มบีทีเอส และเครือข่าย ร้องและฟ้อง จนต้องรอเคลียร์ทุกอย่างด้วยกฎหมาย
ถามว่า ความเสียหาย เสียโอกาสของเอกชน เงินที่เตรียมลงทุนที่จะต้องมีภาระจ่ายหนี้สินและดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น “คีรีและพวก” จะรับผิดชอบหรือไม่ ?
ถามว่า รัฐที่เสียประโยชน์ ประชาชนได้รับผลกระทบเสียโอกาสได้รับบริการขนส่งมวลชน “คีรีและพวก” จะรับผิดชอบหรือไม่ !?
ฉันใดก็ฉันนั้น คำถามของ “สามารถ” ก็ย้อนกลับมาที่ตัวเองและ คีรี
ถ้าจะมีใครเช็คบิลความเสียหายอันใหญ่หลวง 1.3 แสนล้านบาท ก็ต้องเป็น “คีรีและเครือข่าย” ที่สกัดขัดขวางการประมูลที่ "ชอบด้วยกฎหมาย" จนโครงการล่าช้ามากว่า 4 ปี ต้องรับผิดชอบ ใช่หรือไม่ !?
** อย่างฮา!! “ทักษิณ”ลั่นจะล้างบางสีส้ม กวาด สส.นนทบุรีคืนมา แต่ “สรวงศ์” เลขาฯเพื่อไทย บอกนั่นไม่เกี่ยวกับพรรค
ช่วงนี้ “ทักษิณ ชินวัตร”ออกงานบ่อย แต่ถ้าให้ไปศาล จะอ้างว่าป่วย!
เมื่อสัปดาห์ก่อน ไปงานบวชลูกชายนายกเทศมนตรีตำบลธัญบุรี จ.ปทุมธานี แล้วให้สัมภาษณ์ว่า ถูกยัดเยียดคดี 112 จากคสช. ที่ทำรัฐประหาร ก่อนจะทิ้งบอมบ์ใส่บรรดาลุงๆ ว่า ทุกวันนี้การเมืองวุ่นวาย เพราะ “คนอยู่บ้านป่าฯ”
ล่าสุดเมื่อวันที่ 12 มิ.ย. “ทักษิณ” ไปร่วมงานฉลองวันคล้ายวันเกิดครบรอบ 79 ปี ของ “สมนึก ธนเดชากุล” นายกเทศมนตรีนครนนทบุรี มีนักการการเมืองท้องถิ่น อดีตสส. อดีตรัฐมนตรี ไปร่วมแสดงความยินดีกันคับคั่ง
เมื่อได้จับไมค์ อวยพรวันเกิดเจ้าภาพเสร็จสรรพ “ทักษิณ”ก็วกเข้าเรื่องการเมือง โดยประกาศว่า การเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา มีคนกวาดที่นั่ง ส.ส.นนท์ ไปหมดทั้งจังหวัด แต่เดี๋ยวเราจะกวาดเอาคืนกลับมาให้หมด หวังว่าพี่น้องอย่าเพิ่งเบื่อกัน
...มีคนกวาดไป เดี๋ยวเราจะกวาดคืน!!
หากย้อนกลับไปดูผลการเลือกตั้ง สส.ครั้งล่าสุด เมื่อเดือน พ.ค.66 จะเห็นว่าพื้นที่จ.นนทบุรี ทั้ง 8 เขต ถูก “พรรคก้าวไกล” กวาดไปทั้งหมด ขณะที่พรรคเพื่อไทย ตามมาเป็นอันดับ 2 แค่ 3 เขต ส่วนอีก 5 เขต ถูกทิ้งห่าง ได้แค่อันดับ 3
สำหรับบทบาทของ “ทักษิณ” ในทางพฤตินัยแล้ว ใครๆก็รู้ว่า เขาเป็นผู้นำทางจิตวิญญาณ เป็นเจ้าของพรรคเพื่อไทยตัวจริง แต่ในทางนิตินัย กลับไม่ได้เป็นแม้กระทั่งสมาชิกพรรค เมื่อมาออกตัวแรงบ่อยๆ เช่นนี้ ทำเอาคนในพรรคหวาดผวา เรื่องผิดกฎหมายพรรคการเมืองอยู่เหมือนกัน
“สรวงศ์ เทียนทอง” เลขาธิการพรรคเพื่อไทย จึงอยู่เฉยไม่ได้ ต้องรีบออกมาชี้แจงว่า ยุทธศาสตร์ของพรรคเพื่อไทยนั้น พื้นที่ไหนเราเคยมี สส.แต่รอบนี้เราพลาด เราต้องพยายามเอากลับมาให้ได้ ตรงไหนที่เราเป็นแชมป์ เราต้องรักษาแชมป์เอาไว้ พื้นที่ไหนที่เรายังไม่เป็นแชมป์ ก็ต้องทำผลงานให้ปรากฏ อย่างพื้นที่ จ.นนทบุรี เรามั่นใจว่าจะได้ สส.กลับมา ก่อนที่ “ทักษิณ” จะพูดเสียอีก
เลขาฯพรรคเพื่อไทย ย้ำว่า “ทักษิณ”เป็นผู้ใหญ่ท่านหนึ่งที่ช่วยแนะนำวิธีการต่างๆ ที่เรานำมาปรับใช้เพื่อช่วยเหลือประชาชน และถือเป็นกำลังใจสำคัญของสมาชิกพรรค ส่วนการลงพื้นที่ของท่าน ถือเป็นเรื่องส่วนตัวของท่าน ไม่ใช่กิจกรรมของพรรคเพื่อไทย
คำพูดของ “สรวงศ์” ก็เลยเป็นที่ครื้นเครงในโลกเชียลฯ เพราะรู้ว่า เลขาฯพรรคเพื่อไทย หวาดระแวงในความผิด เรื่องให้คนนอกมา “ครอบงำพรรค” ซึ่งมีโทษถึงยุบพรรค จึงต้องออกมาตีหน้ามึน ตะแบงว่า การเคลื่อนไหวของ “ทักษิณ” ไม่เกี่ยวกับพรรคเพื่อไทย!!
ก็ต้องติดตามกันต่อไปว่า เพื่อเป้าหมายชนะการเลือกตั้งในครั้งหน้า “ทักษิณ” จะวางสถานะของตนเองอย่างไร ในเกมรุก ... แต่โดยบุคลิกของเขาแล้ว ชอบจะทำอะไรที่มันคาบเส้นในเรื่องของกฎหมายอยู่แล้ว
