เครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทย ออกแถลงการณ์ หยุดชุมนุมหน้าทำเนียบฯ ชั่วคราว ก่อนกลับมาใหม่ 8 ก.ค.พร้อมระดมเครือข่ายกัญชาทั่วประเทศ ปักหลักทวงสิทธิกัญชาคืนสู่ประชาชน หลังเข้าพบ “สมศักดิ์” ยังยืนกรานนำกลับไปเป็นยาเสพติด แถมปฏิเสธตั้ง กก.ร่วมแสวงหาข้อเท็จจริง แฉนักธุรกิจนั่งข้างรัฐมนตรี ล็อบบี้นายใหญ่ผูกขาดกัญชาให้กลุ่มทุน เห็นชัดความเลวร้ายของพรรคแกนนำรัฐบาล
วันนี้(13 มิ.ย.) เครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทย ได้อ่านแถลงการณ์ มีเนื้อหาดังนี้ จากการเจรจากับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขกรณีการนำกัญชากลับสู่บัญชียาเสพติดประเภท 5 เครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทยได้รับคำตอบจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขว่า กระทรวงสาธารณสุขยืนยันที่จะเอากัญชาเข้าสู่บัญชียาเสพติดและปฏิเสธการตั้งกรรมการร่วมเพื่อแสวงหาข้อเท็จจริงร่วมกัน
การที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขปฏิเสธการควบคุมกัญชาด้วยกฎหมายเฉพาะคือพระราชบัญญัติกัญชา ยังเข้าใจได้เนื่องจากมีการประกาศนโยบายเช่นนี้ตั้งแต่สมศักดิ์ เทพสุทิน เข้ารับตำแหน่ง แต่การปฏิเสธข้อเสนอว่าด้วยการตั้งกรรมการร่วมเพื่อแสวงหาข้อเท็จจริงร่วมกันในท่ามกลางความขัดแย้งอันเป็นหลักการสากลกลับถูกปฏิเสธด้วย ทำให้เกิดข้อสงสัยว่าประเทศนี้ไม่จำเป็นต้องใช้ข้อเท็จจริงในการกำหนดนโยบาย
จากปรากฎการณ์ที่พบเห็นและบทวิเคราะห์ปัจจัยที่เกี่ยวข้องทำให้ค้นพบสาเหตุที่แท้จริงในการนำกัญชากลับสู่บัญชียาเสพติดของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขนั่นคือเกิดการรวมตัวของกลุ่มทุนกลุ่มหนึ่งเพื่อกระทำการล็อบบี้กับนายใหญ่ของพรรคแกนนำรัฐบาลเพื่อให้กลุ่มทุนใหญ่ควบคุมกัญชาแต่เพียงกลุ่มเดียว โดยมีเหตุผลดังนี้
1.หากจะผูกขาดกัญชาจะต้องนำกัญชาไปควบคุมในกฎหมายที่จำกัดสิทธิ มีเงื่อนไขเฉพาะเพื่อให้เกิดกติกาที่ยากและมีเพียงคนบางกลุ่มเท่านั้นที่สามารถปฏิบัติได้ กลุ่มทุนเหล่านี้จึงสนับสนุนให้นำกัญชากลับสู่บัญชียาเสพติดเพราะนี่คือช่องทางของการผูกขาด
2.จากเหตุการณ์การเจรจากับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขพบว่าก่อนการเจรจามีกลุ่มนักธุรกิจกลุ่มใหญ่จำนวนหลายสิบคนทั้งคนไทยและต่างชาติได้เข้าพบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขและที่น่าแปลกมากคือในการประชุมระหว่างเครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทยกับรัฐมนตรีสมศักดิ์ เทพสุทิน ซึ่งเป็นการคลี่คลายความขัดแย้งจากกรณีการชุมนุมหน้าทำเนียบรัฐบาลระหว่างรัฐกับประชาชน แต่กลับมีนักธุรกิจคนนั้นนั่งคู่กับรัฐมนตรี ชี้แจงแทนรัฐมนตรีว่าการนำกัญชากลับสู่ยาเสพติดนั้นดีอย่างไร
3.หากควบคุมกัญชาด้วยกฎหมายยาเสพติดจะทำให้มีผู้ผลิตเพียงน้อยรายเท่านั้น และกลไกการใช้กัญชาจะถูกสั่งโดยแพทย์และการซื้อน้ำมันกัญชามารักษาจะต้องซื้อจากเภสัชกรเท่านั้นและน้ำมันกัญชาที่เภสัชกรจ่ายก็จะต้องเอามาจากบริษัทยาหรือกลุ่มทุนใหญ่ที่สามารถผลิตกัญชาภายใต้เงื่อนไขเฉพาะ ฉะนั้นโดยกลไกกฎหมายยาเสพติดจะส่งผลให้เกิดการผูกขาดการปลูก การใช้ การซื้อขาย ภายใต้มูลค่ากัญชานับแสนล้าน
4.เมื่อนักธุรกิจคนนั้นสามารถนั่งคู่กับรัฐมนตรีและสามารถชี้แจงประชาชนแทนรัฐมนตรีได้แสดงให้เห็นถึงอำนาจที่มี เพราะปกติแล้วนักธุรกิจไม่มีสิทธิอันใดที่จะทำหน้าที่คลี่คลายความขัดแย้งของการชุมนุมระหว่างรัฐและประชาชน คำถามที่สำคัญคืออำนาจของนักธุรกิจคนนี้มาจากไหน
5.นักธุรกิจซึ่งประกาศให้เอากัญชากลับสู่บัญชียาเสพติดแต่กลับไม่กล่าวอ้างเหตุผลของการคุ้มครองเยาวชนหรือกลัวว่ากัญชาจะเกิดผลกระทบในเชิงลบอย่างที่ปั่นข่าวกัญชาคลั่งในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ฉะนั้นเมื่อประมวลเหตุการณ์ทั้งหมด กระบวนการนำกัญชากลับสู่ยาเสพติดในครั้งนี้คือกระบวนการของกลุ่มทุนที่กระทำการล็อบบี้ยิสต์กับนายใหญ่ของพรรคแกนนำ เมื่อสมประโยชน์กันแล้วจึงหยิบยื่นเงื่อนไขนี้แก่ผู้ที่จะมาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขให้นำกัญชากลับสู่บัญชียาเสพติดเมื่อพวกเขาตกลงกันได้ จึงกระทำการครั้งนี้ขึ้น
6.การปั่นข่าวกัญชาคลั่ง การนำตัวเลขปลอมเรื่องผลกระทบจากกัญชาหรือการกระทำใดที่ผ่านมาล้วนเป็นกระบวนการสร้างความกลัวให้เกิดขึ้นแก่ประชาชน เพื่อนำกัญชาไปควบคุมโดยยาเสพติด เพราะหลายเหตุการณ์พิสูจน์ว่าไม่จริงและข้อมูลของรัฐที่กล่าวร้ายกัญชาก็ผิดพลาด ทั้งหมดนี้ไม่ใช่การเป็นห่วงเยาวชนแต่เอาเยาวชนมากล่าวอ้างเพื่อควบคุมกัญชาเท่านั้น
เครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทยขอประกาศว่า เราจะพักการชุมนุมไว้ชั่วคราวเพื่อเตรียมการครั้งสำคัญ โดยขอประกาศการชุมนุมใหม่ในวันที่ 8 กรกฎาคม 2567 เป็นต้นไป
หลังจากนี้เครือข่ายขอประสานความร่วมมือกับเครือข่ายกัญชาทั่วประเทศเพื่อปฏิบัติการครั้งสำคัญในการเอากัญชาคืนจากกลุ่มทุนสู่ประชาชน การเคลื่อนไหวครั้งใหม่นี้ไม่ใช่เพียงเพื่อกัญชาแต่เพื่อทำลายการผูกขาดของกลุ่มทุนที่มีมาตลอดในประวัติศาสตร์เศรษฐกิจไทยและปรากฎการณ์กัญชาทำให้เห็นความเลวร้ายของพรรคแกนนำรัฐบาลที่กระทำการผลิตนโยบายทุกอย่างเข้าสู่ประโยชน์ของกลุ่มทุน
จึงขอเรียนเชิญทุกท่านพร้อมกันวันที่ 8 กรกฎาคม 2567 เพื่อทวงสิทธิกัญชาคืนสู่ประชาชน
#ทวงสิทธิกัญชาคืนสู่ประชาชน
เครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทย