นายกฯ โยน รมว.คลังตอบปมเลือกประธานบอร์ดแบงก์ชาติคนใหม่ ยัน “กิตติรัตน์” หมดสิทธิ์ เหตุนั่งที่ปรึกษาของนายกฯ ต้องปลอดจากตำแหน่ง 1 ปี ย้ำรัฐบาลเดินหน้าแก้เศรษฐกิจทุกภาคส่วนมีจิตวิญญาณเดียวกัน ปชช.เป็นที่ตั้ง
เมื่อเวลา 09.35 น. วันที่ 12 มิ.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี นายปรเมธี วิมลศิริ ประธานคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ใกล้หมดวาระ รัฐบาลได้เตรียมบุคคลที่จะเข้าไปดำรงตำแหน่งแทนหรือยัง ว่า ไม่ทราบ ต้องถาม นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ตนยังไม่มีการคุยเรื่องนี้ ทุกอย่างเป็นไปตามกลไกของการจัดตั้ง
เมื่อถามถึงกระแสข่าว นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ประธานที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี จะมานั่งเก้าอี้ดังกล่าวแทน นายกฯ กล่าวว่า เป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว ตนเคยทวิตข้อความไปแล้วว่าเป็นไม่ได้ เพราะนายกิตติรัตน์ เป็นประธานที่ปรึกษาของนายกฯ อยู่ ถ้าเกิดจะมาเป็นก็ต้องปลอดจากตำแหน่งไป 1 ปี
เมื่อถามอีกว่าคนใหม่ที่จะมานั่งแทนจะต้องมีแนวนโยบายเดียวกับรัฐบาลหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ไม่ทราบ ต้องถาม นายพิชัย
เมื่อถามว่าเรื่องเศรษฐกิจตอนนี้ถือเป็นหนึ่งเดียวกันหรือยังกับหน่วยงานต่างๆ นายกฯกล่าวว่า จิตวิญญาณของรัฐบาลนี้เราเป็นหนึ่งเดียวกันตลอด และทุกภาคส่วนไม่ว่าจะเป็นสภาหอการค้าไทย สภาอุตสาหกรรม สภาการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ซึ่งมีการพูดคุยกันตลอด ภาษาวงสนทนาที่ใช้ก็เป็นคำพูดที่ตนคิดว่าผู้หลักผู้ใหญ่เข้าใจกันได้ คุยกันรู้เรื่อง
เมื่อถามว่าแม้ว่าไม่ลดดอกเบี้ย เรายังคงมีการเดินหน้าในการสร้างเศรษฐกิจใช่หรือไม่ นายกฯกล่าวว่า ตนเดินหน้าตลอดเวลาอยู่แล้ว ตนพยายามที่จะทำทุกอย่าง หากติดขัดตรงไหนเราก็พยายามอ้อมไปอีกทางหนึ่ง เรายึดข้อกฎหมายเป็นที่ตั้ง และยึดความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนเป็นที่ตั้ง ถ้าไม่ได้ทางนี้เราก็ไปอีกทางหนึ่งให้ได้ ไม่เอามาเป็นข้ออ้างหรือคำอธิบายว่าทำไมถึงไม่ได้ ก็ต้องทำงานกันต่อไป
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงการเตรียมการอภิปรายร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2568 ซึ่งล่าสุด กระทรวงกลาโหม ได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปซักซ้อมทำความเข้าใจตอบคำถามกับ สส.พรรคเพื่อไทย นั้น ส่วนตัวมองว่า การเตรียมความพร้อมถือเป็นเรื่องที่ดี และให้เกียรติซึ่งกันและกัน
ส่วนการเลือก สว.ที่ยังมีความสับสนจนมีหลายฝ่ายออกมาวิพากษ์วิจารณ์ นายเศรษฐากล่าวว่า ตนไม่ได้ติดตามตรงนี้ ขอให้เป็นขั้นตอนของฝ่ายนิติบัญญัติไป