xs
xsm
sm
md
lg

“นายกฯอร่าม”ประสาน “ธรรมนัส” อนุมัติขุดลอกบึงละหาน เร่งก่อสร้างโครงการผันน้ำออกนอกเมือง พร้อม จ่ายค่าเวรคืนชดเชยที่ดินอ่างเก็บน้ำลำชี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เมื่อวันที่ 8 มิ.ย.ที่ผ่านมา ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และนายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมคณะทำงาน ได้เดินทางลงพื้นที่จังหวัดชัยภูมิ ตามที่ได้รับการประสานจากนายอร่าม โล่ห์วีระ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยภูมิ

การลงพื้นที่ครั้งนี้ มีจุดประสงค์หลัก เพื่อรับฟังปัญหา และหาทางแก้ไขปัญหาน้ำท่วม และน้ำแล้งซ้ำซากในพื้นที่ โดยมีการเดินทางไปยังจุดสำคัญ 3 จุด ได้แก่ อำเภอหนองบัวละเหว อำเภอจัตุรัส และอำเภอเมือง

จุดที่ 1 โครงการอ่างเก็บน้ำลำน้ำชี อันเนื่องมาจากพระราชดำริ อำเภอระเหว นายอร่าม นำร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และนายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมข้าราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มาพบปะกับพี่น้องชาวชัยภูมิ ทั้งนี้นายอร่าม ได้กล่าวต้อนรับท่านรัฐมนตรีว่า จังหวัดชัยภูมิ ถือเป็นจังหวัดหนึ่งที่เจอแต่แล้งซ้ำซาก และน้ำท่วมซ้ำซาก ประชาชนต้องเผชิญมาอย่างยาวนาน

พร้อมขอความช่วยเหลือในการเร่งรัดการจ่ายค่าชดเชยที่ดินและการก่อสร้างอ่างลำน้ำชีให้แล้วเสร็จโดยไว เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน พร้อมรับฟังปัญหาและความต้องการของพี่น้องเกษตรกรในพื้นที่ ทั้งในเรื่องของการผลิต การตลาด และการพัฒนาพื้นที่ต่างๆ รวมถึงการมอบโฉนดที่ดินเพื่อการเกษตร ที่ท่านช่วยผลักดัน การมอบกรรมสิทธิ์สัตว์ในโครงการธนาคารโค - กระบือ เพื่อเกษตรกรตามพระราชดำริ มอบเวชภัณฑ์สำหรับสัตว์ เพื่อเพิ่มศักยภาพในการผลิต-ดูแลสัตว์เลี้ยง มอบเมล็ดพันธุ์พืชผัก-สารชีวภัณฑ์ รวบรวมปัญหา ข้อเสนอแนะต่างๆ ไปพิจารณาและดำเนินการแก้ไขอย่างเป็นระบบ

โดยร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วยรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และข้าราชการกระทรวง ได้ชี้แจงแนวทางการอนุมัติค่าชดเชยที่ยังค้างจ่ายประชาชนกว่าพันราย โดยได้ชงค่าชดเชยเข้าที่ประชุม ครม. แล้ว และเตรียมจ่ายในปี 67 และ 68 ต่อไป

จุดที่ 2 บึงละหาร อำเภอจัตุรัส ซึ่งเป็นหนองน้ำจืดขนาดใหญ่ แต่มีขนาดในการจุน้ำได้น้อย ทำให้ปลาที่อยู่ในบึงละหาน ช็อคตายเป็นจำนวนมากและเป็นแหล่งเพาะพันธุ์สัตว์น้ำจืดนานาชนิด นายอร่าม จึงได้เสนอให้กระทรวงเกษตรฯ เข้ามามีบทบาทในการบริหารจัดการน้ำในบึงละหานให้เพียงพอกับความต้องการของประชาชน รวมถึงการพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ และการเกษตร นอกจากนี้ ร้อยเอกธรรมนัส และนายอรรถกร ได้นำพันธุ์สัตว์น้ำมาปล่อยจำนวน 1,000,000 ตัว และมอบกรรมสิทธิ์สัตว์ในโครงการธนาคารโค - กระบือ เพื่อเกษตรกรตามพระราชดำริ มอบเวชภัณฑ์สำหรับสัตว์ เพื่อเพิ่มศักยภาพในการผลิต-ดูแลสัตว์เลี้ยง มอบเมล็ดพันธุ์พืชผัก-สารชีวภัณฑ์ รับเอกสารยื่นข้อเสนอจากหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนเพื่อหาแนวทางการแก้ปัญหา ให้พี่น้องชาวชัยภูมิ

"การพัฒนาบึงละหานต้องการงบประมาณสนับสนุนประมาณ เพื่อเพิ่มพื้นที่กักเก็บน้ำและลดความเสี่ยงน้ำท่วม" นายอร่ามกล่าว ทั้งนี้ร้อยเอกธรรมนัส ได้สั่งการให้กรมชลประทานเร่งทำแผนพัฒนาบึงละหานทั้งระบบ ซึ่งมีลักษณะใหญ่กว่ากว๊านพะเยา โดยตนได้ผลักดันงบกว่า 5,000 ล้านบาท ไปพัฒนากว๊านพะเยา และหวังจะพัฒนาบึงละหานในลักษณะคล้ายกัน

ในจุดที่ 3 สระเทวดา อำเภอเมือง นายอร่าม ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการทำงานร่วมกันระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กับหน่วยงานท้องถิ่น เพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วม และน้ำแล้ง อย่างเป็นระบบ พร้อมทั้งรับฟัง ข้อเสนอแนะ จากหน่วยงานทั้งภาครัฐ และเอกชน เพื่อนำมาพัฒนาปรับปรุงร่วมกัน ให้จังหวัดชัยภูมิเป็นเมืองที่จะไม่เกิดน้ำท่วมซ้ำซาก แล้งซ้ำซาก ยังสามารถกักเก็บน้ำไว้ใช้ในระยะยาว และเป็นการบริหารจัดการน้ำ ให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับพี่น้องชาวชัยภูมิ โดยนายอร่าม ที่ปรึกษาหอการค้า ประธานสภาอุตสาหกรรม ได้พากันยื่นข้อเสนอให้เร่งรัดการก่อสร้างโครงการผันน้ำออกนอกเทศบาลเมืองให้ไว พร้อมเร่งสร้างพื้นที่กักเก็บน้ำเพื่อแก้ภัยแล้ง

ร้อยเอกธรรมนัส ยืนยันถึงความตั้งใจในการแก้ปัญหาน้ำท่วมและน้ำแล้งให้แก่พี่น้องชาวชัยภูมิอย่างจริงจัง โดยระบุว่าจะดำเนินการอย่างเต็มที่และเร่งรัดการพัฒนาโครงการที่เกี่ยวข้อง

โดยนายอร่าม กล่าวชื่นชมการทำงานของรัฐมนตรี ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่าว่า “ช้างเหยียบนา พญาเหยียบเมือง” โดยระบุว่ารัฐมนตรี ร้อยธรรมนัส พรหมเผ่า เป็นผู้ที่ทำงานจริงจัง มีความตั้งใจและสามารถพึ่งพาได้ ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่ประชาชนต้องการ การลงพื้นที่จังหวัดชัยภูมิครั้งนี้ ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากประชาชน และพี่น้องในพื้นที่ ซึ่งมีความหวังว่าการมาลงพื้นที่ของรัฐมนตรี ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า และรัฐมนตรีช่วยอรรถกร ศิริลัทธยากร พร้อมทั้งคณะทำงาน ในครั้งนี้จะนำมาซึ่งการแก้ปัญหาที่เป็นรูปธรรม และยั่งยืน 










กำลังโหลดความคิดเห็น