วันนี้(1 มิ.ย.)นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้ให้สัมภาษณ์ในทีวีมีประเด็นน่าสนใจที่กล่าวถึงกรณีที่นายวิษณุ เครืองาม ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรีด้านกฎหมาย เข้ามาช่วยงานรัฐบาลเศรษฐาว่า พอจะเอานายวิษณุเข้ามาในพรรคเพื่อไทยเขาขย่มกันเลย เพราะคนที่เคยแยกบ้านไป 9 ปีแล้ว ถ้ายังจำกันได้สมัยรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา นายวิษณุได้เปรียบตัวเองว่าเป็นพิเภกในเรื่องรามเกียรติ์ ส่วน พล.อ.ประยุทธ์ คือ พระราม เพื่อไทยก็บอกตัวเองคือทศกัณฐ์ แล้ววันนี้พิเภกจะกลับไปอยู่กับทศกัณฐ์หรือ การกลับไปอยู่จะไปเอาหัวใจของทศกัณฐ์มาให้พระรามยิงง่าย ๆ หรือไม่ การเขียนคำชี้แจงให้กับนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี จะไปเข้าทางศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่
นายสามารถ กล่าวต่อว่า หลายคนมองว่านายเศรษฐาเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ จึงน่าจะเป็นนายกรัฐมนตรีที่ทำให้ประเทศเจริญได้ แต่ปรากฏว่าผ่านมา 10 เดือนมันไม่ได้ดีขึ้นเลย วันนี้ผลโพลของสถาบันพระปกเกล้าจึงออกมาว่า พรรคก้าวไกลที่จะถูกยุบพรรคอยู่แล้ว งานการไม่ทำ แต่คะแนนมา ชี้เห็นว่าการบริหารงานของรัฐบาลย่ำแย่ วันนี้พรรคการเมืองที่อยู่ในตลาดประชาชนเขาไม่โอเค ซึ่งผลงานของรัฐบาลมันไม่ออกฉะนั้นคะแนนมันไม่ได้ไปโตให้พรรคร่วมรัฐบาล จึงกลับไปหาฝ่ายค้าน
นายสามารถ ยังกล่าวต่อถึงกรณีของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีที่ถูกอัยการสูงสุดสั่งฟ้องในความผิดมาตรา 112 ว่า คงต้องดูกันว่านายทักษิณจะมีหลักฐานไปสู้ในศาลที่จะหักล้างได้เพียงพอหรือไม่ ตนมองว่า ทางที่ดีที่สุดคนที่เป็นฝ่ายกฎหมายให้นายทักษิณต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม อย่าเลื่อนอีก ในเมื่อเป็นคนกล้าและมีความสามารถก็ควรเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมไป ถ้าคิดว่าไม่ผิดก็สู้ที่ศาล ตนไม่รู้ว่านายทักษิณจะขอเลื่อนไปเรื่อย ๆ เพื่อรอให้อัยการสูงสุดคนนี้เกษียณ แล้วรอคนใหม่มาหรือไม่ อยู่ที่นายทักษิณเลือกว่า จะเอาทางไหน
เมื่อถามถึงกระแสข่าวการล็อบบี้เลือก สว.นายสามารถ กล่าวว่า เมื่อเลือกกันเองมันล็อบบี้อยู่แล้ว การเลือกด้วยวิธีแบบนี้สุดท้ายมันจะประกาศผลไม่ได้ มันจะมีคนร้องเรียนกันเต็มไปหมด วันนี้ สว.อย่างไรก็ต้องเลือก เพราะกฎหมายบังคับแบบนั้น แต่กฎหมายไม่ได้บังคับให้ประกาศผล ว่าจะต้องประกาศรับรองภายในกี่วัน ถ้ายังมีคนร้องเรียนอยู่ กกต.จะกล้าประกาศหรือเพราะถ้าประกาศก็ติดคุก ดังนั้น สว.ชุดปัจจุบันก็ต้องรักษาการไปเรื่อย ๆ
“ตัวเลขผู้สมัคร สว.น้อยมาก ซึ่งในจังหวัดพวกผู้สมัครเขารู้จักกันหมด บางคนเป็นหัวคะแนนของ สส. แค่คิดก็วุ่นวายแล้ว จะมีคนมาร้องเรียนกันระนาว ขนาด สส.เลือกกับประชาชน แต่เลือก สว.ครั้งนี้หนักกว่าอีก เพราะประชาชนไม่ได้เลือกเขาเข้ามา แต่เป็นระบบเลือกกันเองของผู้สมัคร ก็คงต้องปล่อยให้ทดลองระบบไปก่อน แต่ผมเห็นว่าทางเดินข้างหน้ามันเหมือนเขาที่ทั้งชันและมีเหว และอาจจะมีหลุมด้วย บางคนอาจจะตกหลุมไป ถ้าเป็นผมคงไม่เลือกเดิน ผมขอดูอยู่ห่างๆแบบห่วงๆดีกว่า“นายสามารถ กล่าว