“ทนายอั๋น” ร้องกกต.สอบรวมกลุ่มใช้บ่อนไก่นักการเมืองท้องถิ่นบุรีรัมย์เป็นที่สมัคร สว. ส่อฝ่ายการเมืองจ้างมาฮั้ว เรียกร้อง กกต.บุรีรัมย์เปิด 51 ชื่อ ถูกตัดสิทธิ์เป็นสมาชิกพรรคไหนบ้าง พร้อมขอทำหน้าที่อย่ารับใช้บ้านใหญ่
วันนี้ (31พ.ค.) นายภัทรพงศ์ ศุภักษร หรือ ทนายอั๋น บุรีรัมย์ ยื่นคำร้องขอให้ กกต. ตรวจสอบกรณีมีการรวมกลุ่มกรอกใบสมัคร สว.ที่บ่อนไก่ของนักการเมืองท้องถิ่นในจังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งปกติแล้วเขารับสมัคร สว.ที่ที่ว่าการอำเภอ แต่ที่จังหวัดบุรีรัมย์แปลกมาก ไปสมัคร สว.ที่บ่อนไก่ ซึ่งเป็นบ่อนไก่ของ สจ.บางคน โดยมีนายก อบต.เกณฑ์ชาวบ้านไปสมัคร น่าสังเวชที่สุดมีชาวบ้านบางคนเขียนคำว่าวุฒิสภายังไม่ออก แล้วจะมาสมัครอะไร สว. และยังมีปลัดใหญ่อาวุโสอำนวยความสะดวกเอาแบบใบสมัครมากรอกข้อมูลให้อย่างเรียบร้อย ตนมาวันนี้เพื่อจะมาให้ กกต.กลางไปตรวจสอบดู อยากถามอีกว่านายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. ที่เป็นคนบุรีรัมย์ จะถามย้ำว่าเมื่อมีการเลือกตั้งคนพูดถึงจังหวัดบุรีรัมย์ในลักษณะที่ดูถูกดูแคลน ว่าอยู่ภายใต้อาณัติของพวกบ้านใหญ่ เลือกตั้งทุกครั้งสกปรกทุกครั้งในจังหวัดบุรีรัมย์ นายแสวงเป็นคนที่มีอำนาจหน้าที่โดยตรงเกี่ยวกับการจัดการเลือกตั้ง ให้เที่ยงธรรม แต่ไม่เห็นทำอะไร
นายภัทรพงศ์ กล่าวว่า กกต.ได้อะไรจากการออกระเบียบการแนะนำตัวของผู้สมัคร สว. ที่มีการจำกัดสิทธิบุคคล ในการสร้างกฎระเบียบ ในการเลือก สว. หรือพวกคุณมีวัตถุประสงค์อะไรแอบแฝง เป็นที่ทราบกันดีว่าการเลือก สว.ครั้งนี้ ประชาชนไม่ได้มีส่วนร่วมเลย แต่ กกต.ดันไปสร้างเงื่อนไขเพื่อไม่อยากให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม หรือรับรู้อะไร และท้ายที่สุดก็จะเกิดการฮั้วกัน แล้วมีการจ้างกลุ่มกันฝ่ายการเมือง สส.ทั้งหลาย นักการเมืองในแต่ละจังหวัด หรือที่เรียกกันว่าบ้านใหญ่ก็ส่งลูกกระจ๊อกของตัวเองมาลงสมัคร จึงพูดเป็นอื่นไม่ได้ นอกจากคิดว่า กกต.ต้องการให้การเลือก สว.ครั้งนี้เป็นเรื่องสกปรก โสโครกแบบนั้นหรือ
นายภัทรพงศ์ กล่าวอีกว่า คนอย่างเลขาธิการ กกต. มิหน่าไม่ได้เป็นเดือดเป็นร้อนเลย การเลือกตั้ง สส. ปี 2562 สกปรก มีบัตรเขย่งเกิดขึ้น และการเลือกตั้งปี2566 มีความไม่โปร่งใสหลายประการ แล้วการเลือก สว.ยังไม่เกิดขึ้นเลย แต่มีท่าทีว่าการเลือกครั้งนี้จะสกปรก โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ กกต.คือผู้ที่ออกแบบการเลือกตั้งครั้งนี้ สุ่มเสี่ยงว่าจะสกปรกด้วยการฮั้วกัน และการรวมกลุ่มกันของคนที่เป็นบ้านใหญ่ในแต่ละจังหวัด สุดท้าย กกต.รู้หน้าที่ของตัวเองหรือไม่ ว่าต้องจัดการเลือกตั้งให้บริสุทธิ์ ให้ประชาชนรู้สึกอุ่นใจเมื่อมีพวกคุณ แต่หลายครั้งตนเชื่อว่าพวกคุณ คือ คนที่ทำลาย ที่มาจากเจตจำนงบริสุทธิ์ของประชาชน ดังนั้นการเลือก สว.เขาอยากเห็นคนที่มีความรู้ความสามารถ ไม่ได้อยากเห็น สว.ที่ตกอยู่ภายใต้อาณัติของนักการเมืองหรือไม่เป็นขี้ข้าของนักการเมือง แต่ไม่เป็นไร ตนมาประกาศอีกรอบ
“ผมกับนายแสวง และ กกต.เราต้องวัดกันถึงที่สุด สัปดาห์หน้าผมจะไปตามต่อที่กองบังคับการปราบปราม เรื่องที่แจ้งความจับนายแสวง” นายภัทรพงศ์ กล่าว และว่าวันนี้ตนนำชื่อ นามสกุลของบางคนที่เกี่ยวข้องมาให้กับ กกต. ไปตรวจสอบ และฝากถึง กกต.บุรีรัมย์ สำหรับเจ้าหน้าที่ที่รับใช้บ้านใหญ่ ทำอย่างกับได้เงินมาจากบ้านใหญ่หรือเปล่าไม่รู้ แต่ทำตัวรับใช้เป็นขี้ข้าบ้านใหญ่ สำหรับกกต.ที่บุรีรัมย์บางคน และทราบมาว่ากกต.บุรีรัมย์ไปตัดสิทธิ์สมัครเขา 51 คนเนื่องจากไปสังกัดพรรคการเมือง แต่ไม่ได้บอกว่าเป็นพรรคไหนบ้าง ตนอยากรู้ว่า 51 คนนี้ มีคนของพรรคภูมิใจไทยบ้างหรือเปล่า กล้าตัดคนของพรรคภูมิใจไทยไหม กกต.บุรีรัมย์กล้าไปยุ่งกับคนของภูมิใจไทยไหม ตนจะดูน้ำหน้า กกต.ที่บุรีรัมย์ด้วย"