กสม.เสนอ ครม.-ศธ. กำหนดระเบียบทรงผมนักเรียนต้องรับฟังความเห็นและเน้นการมีส่วนร่วมของเด็ก การกำหนดแบบทรงผม และการลงโทษนักเรียนเรื่องผม ถือเป็นการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล
วันนี้ ( 31 พ.ค.) นายบุญเกื้อ สมนึก ที่ปรึกษาประจำคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เปิดเผยว่า คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ได้รับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการบังคับให้นักเรียนตัดทรงผมตามข้อบังคับของโรงเรียน ตลอดจนการทำโทษนักเรียนที่ฝ่าฝืนเกินสมควรแก่เหตุ โดยในปี 2566 กระทรวงศึกษาธิการได้หารือไปยังคณะกรรมการกฤษฎีกาและต่อมาได้ยกเลิกระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการไว้ทรงผมของนักเรียน พ.ศ. 2563 และให้สถานศึกษาแต่ละแห่งกำหนดข้อบังคับเกี่ยวกับการไว้ทรงผมนักเรียนได้เอง กสม. เห็นว่าการกำหนดแบบทรงผมนักเรียนและการลงโทษนักเรียนที่ฝ่าฝืนข้อบังคับเกี่ยวกับการไว้ทรงผมนักเรียนเป็นประเด็นเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชน จึงเห็นสมควรให้มีการศึกษาเรื่องการไว้ทรงผมของนักเรียนเพื่อจัดทำข้อเสนอแนะในการคุ้มครองสิทธิของเด็ก แม้ปัจจุบันสถานศึกษาแต่ละแห่งจะมีอำนาจกำหนดข้อบังคับเกี่ยวกับการไว้ทรงผมของนักเรียนได้เอง ตามแนวนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ แต่การกำหนดแบบทรงผมของนักเรียนถือเป็นการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล เป็นการก้าวล่วงเข้าไปยังแดนแห่งสิทธิและเสรีภาพในการตัดสินใจอย่างหนึ่งอย่างใดเกี่ยวกับเส้นผม การกำหนดแบบทรงผมของนักเรียน จึงต้องมีกฎหมายระดับพระราชบัญญัติให้อำนาจไว้เสียก่อน และไม่อาจนำบทบัญญัติแห่งกฎหมายที่ให้อำนาจทั่วไปในการบริหารงานภายในหน่วยงานด้านการศึกษามาใช้ได้
ในการประชุมด้านการคุ้มครองและส่งเสริมสิทธิมนุษยชน เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2567 จึงมีมติให้มีข้อเสนอแนะไปยังคณะรัฐมนตรี เพื่อให้กระทรวงศึกษาธิการแจ้งให้สถานศึกษาในสังกัด ถือปฏิบัติว่ากระทรวงศึกษาธิการและสถานศึกษาไม่มีอำนาจกำหนดแบบทรงผมของนักเรียน ไม่ว่าด้วยเหตุผลใด ทั้งต้องมีมาตรการ ว่าหากมีความจำเป็นต้องสั่งการให้นักเรียนตัดผมหรือไว้ทรงผมในกรณีใดจะต้องปรากฏความจำเป็นเพื่อการรักษาสุขอนามัย หรือเพื่อคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของตนเองหรือผู้อื่นเท่านั้น ระเบียบเกี่ยวกับการไว้ทรงผมของนักเรียนของสถานศึกษาจะต้องเกิดจากการรับฟังความเห็นของนักเรียน โดยมุ่งเน้นกระบวนการมีส่วนร่วมของนักเรียนเป็นสำคัญ เพื่อให้สอดคล้องกับแนวทางการคุ้มครองสิทธิของเด็ก
และให้คณะรัฐมนตรี โดยกระทรวงศึกษาธิการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 หมวด 7 การส่งเสริมความประพฤตินักเรียนและนักศึกษา ให้มีบทบัญญัติเกี่ยวกับการแต่งกายโดยเฉพาะเรื่องทรงผมของนักเรียน ว่าจะต้องมีขึ้นได้ แต่โดยเหตุผลอันสมควรเท่านั้น และให้กระทรวงศึกษาธิการดำเนินการตรากฎกระทรวงฉบับใหม่ที่เป็นมาตรฐานกลางในการออกระเบียบ หรือข้อกำหนดของสถานศึกษาเกี่ยวกับการไว้ทรงผมของนักเรียน กฎกระทรวงเกี่ยวกับมาตรการบังคับให้เป็นไปตามระเบียบหรือกฎว่าด้วยทรงผมนักเรียนของแต่ละสถานศึกษา และกฎกระทรวงว่าด้วยวิธีการรับฟังความเห็นของนักเรียนและนักศึกษา โดยมุ่งเน้นการมีส่วนร่วมของนักเรียนและผู้ปกครองเป็นสำคัญ