กกต.แจงเปลี่ยนรูปแบบบัตรเลือก ส.ว.ป้องกันผู้สมัครพลาดเลือกคนไม่มีสิทธิทำเสียทั้งฉบับ มั่นใจสกัดฮั้ว อัดผู้สมัครถูกตัดสิทธิ เหตุเป็นสมาชิกพรรค อย่าโทษหน่วยงาน ย้ำ สื่อสารตลอด แถมอนุโลมแค่มีหลักฐานลาออกก็ให้แล้ว
วันนี้ (30 พ.ค ) นายแสวง บุญมี เลขาธิการ (กกต.) แถลงกรณีมีผู้สมัครสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) มีลักษณะต้องห้าม เป็น ส.ว. 2,020 คน และพบว่า ส่วนใหญ่เป็นสมาชิกพรรคการเมือง ว่า ขณะนี้มีผู้สมัคร ส.ว.ที่มีลักษณะดังกล่าวมายื่นร้องต่อ กกต. ซึ่งในข้อเท็จจริงจะต้องไปร้องต่อศาลฎีกา ภายใน 3 วัน เรื่องลักษณะต้องห้ามการเป็นสมาชิกพรรคการเมือง กกต.ได้ประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่องก่อนการสมัคร ว่า ผู้ที่เป็นผู้บริหารพรรคการเมืองต้องพ้นจากตำแหน่งไม่น้อยกว่า 5 ปี ส่วนคนที่เป็นสมาชิกพรรคหากมีหลักฐานว่าได้ยื่นลาออกแล้ว กระทั่งยื่นลาออกวันเดียวกับวันสมัคร ผอ.การเลือก ส.ว.ก็จะรับสมัครให้อยู่แล้ว
“การพ้นจากการเป็นสมาชิก หากมายื่นลาออกต่อนายทะเบียนพรรคการเมืองที่สำนักงาน กกต.จะมีผลทันที ที่ผ่านมา เราอนุโลมให้ยื่นลาออกที่สำนักงาน กกต.จังหวัดด้วย แต่ถ้าไปยื่นลาออกกับนายทะเบียนสมาชิกพรรค คือ การยื่นที่พรรคการเมือง ทางพรรคจะต้องกรอกข้อมูลเข้าระบบฐานข้อมูล และแจ้งให้ กกต.ทราบภายใน 15 วัน .ซึ่งการส่งข้อมูลอาจจะล่าช้า แต่กกต.จะยึดหลักฐานใบลาออก ถ้าผู้สมัครมีหลักฐานดังกล่าวก็จะมีการรับสมัครทุกราย ดังนั้น จะมาโทษ กกต.ไม่ได้ เพราะการเป็นสมาชิกพรรค พรรคเป็นผู้กรอกข้อมูลเข้าไปในระบบ สามารถตรวจสอบได้ ตอนนี้ก็ต้องไปสู้ในชั้นศาลฎีกาเอา” นายแสวง กล่าว และว่า ในส่วนของ 2,020 คน ถูกตัดสิทธิจะกระทบกับจำนวนกลุ่มภายในอำเภอ และจะกระทบกับการเลือกไขว้หรือไม่ ตรงนี้ยังต้องตรวจสอบเพิ่มเติม
นายแสวง กล่าวชี้แจงกรณี กกต. ออกระเบียบ กกต.ว่าด้วยการเลือก ส.ว.ฉบับที่ 2 พ.ศ. 2567 ซึ่งมีการแก้ไขเกี่ยวกับบัตรเลือกส.ว.ว่า ส่วนหนึ่งเกิดจากสำนักงาน ซึ่งทุกการเลือกตั้ง สิ่งที่สำนักงานฯตระหนัก คือ ทำอย่างไรให้ทุกคะแนนเสียงมีค่า และจะรักษาเจตจำนงของผู้ลงคะแนนได้อย่างไร การเลือก ส.ว.ครั้งนี้มีลักษณะเฉพาะ ทุกคนเป็นผู้มีสิทธิเลือก และเป็นผู้มีสิทธิได้รับเลือก ในการเลือกไขว้ระดับประเทศ ผู้เลือกจะมีคะแนนเสียง 5-10 คะแนน และในมาตรา 56(6) ของ พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่งส.ว.ได้กำหนดรูปแบบบัตรเสียไว้ว่า ถ้าเขียนหลายเลขประจำตัวของผู้ไม่มีสิทธิได้รับเลือก จะกลายเป็นบัตรเสียทั้งฉบับ ทั้งๆ ที่ช่องอื่นๆ ในบัตรเดียวกันนี้อาจจะเป็นหมายเลขประจำตัวของผู้สมัครคนอื่นซึ่งถูกทั้งหมด
“สมมติว่า ในวันเลือก มีผู้ไม่มารายงานตัว หรือตกรอบในช่วงเช้า ช่วงบ่ายหากมีผู้สมัครไปเขียนหมายเลขประจำตัวของผู้ตกรอบลงในบัตร บัตรนั้นจะเสียทั้งฉบับ กฎหมายออกแบบมาเช่นนี้ก็เพื่อป้องกันการฮั้ว สำนักงาน กกต.ก็เห็นว่า ถ้ายังคงรูปแบบการออกเสียงในบัตรใบเดียว อาจจะทำให้ผู้สมัครเสียประโยชน์ จึงได้ออกแบบบัตรใหม่ โดยคิดว่า ทำอย่างไรให้เสียหายน้อยที่สุด เพื่อให้ทุกคะแนนมีความหมาย และไม่ต้องมีใครเสียคะแนนจากปัญหาที่ไม่ใช่ความผิดเขา ขณะเดียวกัน ก็เกิดประโยชน์ต่อผู้ที่มาสังเกตการณ์
ส่วนที่ มีผู้กังวลว่า การออกแบบบัตรเลือก ส.ว.ใหม่นี้ จะเป็นการเปิดช่องให้เกิดการฮั้วกันง่ายขึ้น นายแสวง ถามกลับว่า จะทำให้เกิดการฮั้วตรงไหน ไม่ใช่พูดลอยๆ ต้องยกตัวอย่างว่า จะทำให้เกิดการฮั้วอย่างไร สำหรับบัตรใหม่นี้ถ้าถามตน ตนมองว่า จะยิ่งทำให้เกิดการฮั้วยาก ส่วนโอกาสที่จะสลับบัตรกัน แล้วหย่อนลงผิดหีบนั้น ก็ไม่มี เพราะจะมีการตั้งแถวแยกเป็นกลุ่มๆ ดังนั้น จะไม่มีโอกาสสลับ การแสดงตัวครั้งแรก คือ การตรวจสอบว่า บัตรกับคนตรงกันหรือไม่ จำนวนเท่ากันหรือไม่แล้วค่อยนับ นั่นแสดงถึงความโปร่งใสมากขึ้น ประชาชน หรือผู้สมัครที่อยู่ในนั้น สามารถสังเกตการณ์ได้อย่างละเอียด
เมื่อถามถึงกรณีกรรมาธิการการเมือง หรือ ไอลอว์ ที่ขอเข้าไปสังเกตการณ์ ทาง กกต.อนุญาตหรือไม่ นายแสวง กล่าวว่า ในที่เลือกไม่มีคนเข้าไปได้ ส่วนนอกพื้นที่เลือก ส.ว.ประชาชนทุกคนสามารถสังเกตการณ์ได้ กรรมาธิการ และไอลอว์ ก็สิทธิเท่ากัน
ส่วน 7 อำเภอที่ผู้สมัครจะเสียสิทธิการเลือก เพราะมีการสมัครกลุ่มอาชีพเดียวนั้น กกต.ไม่ได้ไปตัดสิทธิ แต่เป็นผลตามกฎหมายที่ต้องตกไป ซึ่งเราก็เห็นใจ แต่จะทำอย่างไรได้ เมื่อกฎหมายเขียนอย่างนี้ส่วนในเรื่องของค่าสมัคร 2,500 บาทกฎหมายเขียนให้ตกเป็นของแผ่นดินไม่สามารถคืนได้
เมื่อถามถึงกรณีมีการโพสต์เฟซบุ๊กกรณีผู้สูงอายุไปสมัครจำนวนมาก เสี่ยงเกิดการฮั้ว มีการตรวจสอบตรงนี้หรือไม่ นายแสวง กล่าวว่า ทางพื้นที่มีการเข้าไปดูและสอบถามเบื้องต้น หลังจากเห็นว่าผิดสังเกต ซึ่งก็ทำให้ผู้สมัครเกิดความน้อยใจ ตกใจว่า ตัวเขาตั้งใจมาสมัคร แต่กลับถูกสอบแล้วหรือ ดังนั้น ในส่วนของพื้นที่มีการหาข้อมูลอยู่ แต่อีกมุมหนึ่งก็ถือว่า เขาอยากมีส่วนร่วม อยากเข้ามาเป็น ส.ว. เมื่อผิดสังเกตพนักงานของเราก็ไปบันทึกเหตุการณ์ และสอบถามข้อมูลไว้ก่อน ทั้งนี้ พบในหลายพื้นที่.