xs
xsm
sm
md
lg

ครป.-คุ้มครองผู้บริโภค ร้อง กมธ.ไอซีที วุฒิฯ เปิดผลสอบคุณสมบัติ “นพ.สรณ” ชี้ขัดมาตรา 8 กม.คลื่นความถี่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ครป.- คุ้มครองผู้บริโภค ร้อง กมธ.ไอซีที วุฒิสภา เปิดผลสอบคุณสมบัติ “นพ.สรณ” รักษาการประธาน กสทช.หลังพบหลักฐานเป็นหมอรับจ้างรายชั่วโมง รพ.รามาฯ ถือว่าขาดคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามตาม ม.8 กม.คลื่นความถี่ ด้าน “อนันตพร” ยัน กมธ.ไม่เคยชี้ผลสอบว่าขาดคุณสมบัติ เร่งเคาะผลสอบ ก่อนสรุปส่งรายงาน “พรเพชร” วันนี้




เมื่อเวลา 10.30 น. วันนี้ (28 พ.ค.) ที่รัฐสภา เครือข่ายคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) และสภาผู้บริโภค นำโดยนางลัดดาวัลย์ ตันติวิทยาพิทักษ์ ประธาน ครป. และ น.ส.สารี อ๋องสมหวัง : เลขาธิการสำนักงานสภาองค์กรของผู้บริโภค และคณะได้ร่วมกันยื่นหนังสือต่อ พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ ส.ว.ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การเทคโนโลยีสารสนเทศ การสื่อสาร และการโทรคมนาคม วุฒิสภา เพื่อขอให้เปิดเผยรายกงานผลการตรวจสอบคุณสมบัติ และลักษณะต้องห้ามของ นพ.สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ รักษาการประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง และกิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช.

โดย นางลัดดาวัลย์ กล่าวว่า ตามที่ กมธ.ได้มีมติตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้าม นพ.สรณ เพราะพบว่า นพ.สรณ มีสถานะเป็นพนักงานและลูกจ้างทำหน้าที่ตรวจสอบและรักษาคนไข้ของคณะแพทย์ศาสตร์รพ.รามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ซึ่งมีสถานะเป็นหน่วยงานของรัฐ ถือว่ามีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 8 แห่ง พ.ร.บ.จัดสรรคลื่นความถี่ และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม ปี 2553 และแก้ไขเพิ่มเติม ซึ่งเมื่อนพ.สรณได้รับความเห็นชอบจากวุฒิสภาเมื่อวันที่ 20 ธ.ค. 2564 แล้ว นพ.สรณ ยังมีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 8 พรบ.จัดสรรคลื่นความถี่ ดังนั้น ต้องดำเนินการให้เป็นไปตามมาตรา 18 พ.ร.บ.จัดสรรคลื่นความถี่ฯ ซึ่งต้องกำหนดหลักฐานว่าได้ลาออก หรือเลิกประกอบอาชีพ และวิชาชีพดังกล่าวต่อประธานวุฒิสภา ภายในวันที่ 10 ม.ค.2565 ก่อนที่นายกฯจะนำชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นกรรมการกสทช. หรือไม่

นางลัดดาวัลย์ กล่าวต่อว่า โดยพบว่ามีสถานะเป็นพนักงานลูกจ้าง ยังได้รักษาและตรวจคนไข้ของโรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ได้รับค่าตอบแทนในฐานะแพทย์เป็นรายชั่วโมง ตั้งแต่วันที่ 8-12 เม.ย.2565 โดยไม่พบหลักฐานว่าพ้นจากการเป็นพนักงานลูกจ้างแล้ว แม้ นพ.สรณ ได้ยื่นใบลาออกจากรองอธิการบดีแล้ว แต่ยังคงปฏิบัติงานในฐานะลูกจ้างรายชั่วโมง ที่ได้รับค่าตอบแทนจากมหาวิทยาลัยมหิดล ซึ่งจากหลักฐานที่ปรากฏจำเป็นที่จะต้องตรวจสอบว่านพ.สรณ ได้มีการแสดงหลักฐานการลาออกจากการเป็นลูกจ้างดังกล่าวต่อประธานวุฒิสภาหรือไม่ หากไม่มีการแสดงหลักฐานถือว่า นพ.สรณ ได้สละสิทธิ์การเป็นกสทช.ไปแล้ว และการที่นพ.สรณ ยังดำรงตำแหน่งเป็นประธานกสทช.จนถึงปัจจุบันถือว่าฝ่าฝืนมาตรา 8 และต้องพ้นจากตำแหน่งกรรมการกสทช.และหยุดปฏิบัติหน้าที่ทันที เพื่อความสง่างาม

ด้าน น.ส.สารี กล่าวว่า กรณีนี้เป็นเรื่องที่อาจส่งผลต่อการพิจารณาที่ผ่านมา หากเกิดเหตุว่าประธาน กสทช. ขาดคุณสมบัติจริง ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจ และผู้ประกอบการ หากไม่มีความชัดเจน จึงต้องการเห็นข้อสรุปของกรรมาธิการฯที่จะส่งผลต่อกสทช. ซึ่งข้อเท็จจริงทางกสทช.สามารถดำเนินการได้ เนื่องจากเคยเกิดขึ้นในอดีต โดย กสทช.ขอให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ในกรณีที่พบว่าขาดคุณสมบัติจริง จึงคิดว่าการตรวจสอบตรงนี้และข้อมูลที่ทาง กมธ.มีก็จะทำให้มติต่างๆ ของ กสทช.ที่มีการประชุมทุกสัปดาห์อยู่แล้วที่ต้องไปเกี่ยวข้องกับการพิจารณาในเรื่องต่างๆ ทั้งการคุ้มครองผู้บริโภค ใบอนุญาตและการกำกับติดตาม อาจเกิดผลกระทบได้ หาก นพ.สรณ ขาดคุณสมบัติและอาจทำให้เป็นปัญหาในทางปฏิบัติได้ จึงอยากให้มีการดำเนินการเรื่องนี้อย่างตรงไปตรงมา

ขณะที่ พล.อ.อนันตพร กล่าวว่า วันนี้จะเป็นวันสุดท้ายที่ กมธ.พิจารณาเสร็จสิ้นก่อนที่จะนำเสนอให้ประธานวุฒิสภาพิจารณาต่อไป ว่าจะเห็นชอบหรือไม่ หรือจะดำเนินการอย่างไร ส่วนจะมีการเปิดเผยรายงานของ กมธ.ในตรวจสอบหรือไม่ก็เป็นไปตามกฎหมาย และสิ่งใดที่เป็นไปตามกฎหมาย กมธ.ยินดีปฏิบัติตามในจังหวะเวลาที่เหมาะสม ซึ่งที่ผ่านมา มีคนเข้าใจผิดกันเยอะว่า กมธ.มีมติออกมาแล้ว ยืนยันว่าไม่เคยมีมติว่าประธาน กสทช. มีความผิดอันใดอันหนึ่งตามที่เป็นข่าว ทั้งนี้ คิดว่า กสทช.เป็นองค์กรหนึ่งที่มีความสำคัญและเป็นองค์กรหนึ่งของประเทศไทย มีความเป็นอิสระในการบริหารงานภายใต้กฎหมาย แต่ กสทช.ได้คนดีมาเป็นกรรมการก็จะทำให้องค์กรมีความโปร่งใส ดังนั้น ทาง กมธ.ยินดีที่จะรับเรื่องดังกล่าวไว้พิจารณา


กำลังโหลดความคิดเห็น