“เศรษฐา” ปาฐกถาหัวข้อ EARTH JUMP 2024 : The Edge ชี้พลังงานสะอาดเป็นเรื่องสำคัญต่อการดึงนักลงทุน
วันนี้(17 พ.ค.) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธี พร้อมกล่าวปาฐกถาพิเศษในงาน EARTH JUMP 2024 : The Edge of Action บางช่วงบนเวที นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่มีเวลาไหนที่เหมาะสมเท่าเวลานี้ที่จะมาพูดคุยเรื่องนี้ในวงกว้าง และจะมีอีกหลายวงในการพูดคุยเรื่องนี้ ตลอดระยะเวลาที่เข้ามาเป็นรัฐบาล ได้พูดเรื่องโลกร้อนมาตลอด การเดินทางไปต่างประเทศทั้งสิ้น 15 ครั้ง อยากมาแชร์ประสบการณ์การดึงดูดนักลงทุน คือ สิทธิประโยชน์ในการลงทุน หรือ บีโอไอ /ความเป็นกลางด้านการเมือง ที่ไม่ฝักใฝ่ใคร /และพลังงานสะอาด จากการเดินทางไปที่ประเทศฝรั่งเศส ก็มีการใช้พลังงานสะอาด แม้ในประเทศเพื่อนบ้านจะมีการผลิตพลังงานสะอาด เรามีความเป็นมิตรที่ดีต่อกัน แต่ในเรื่องนี้ก็ต้องมีการแข่งขันกัน โดยแต่ละประเทศมีจุดแข็งต่างกันซึ่งเชื่อว่าประเทศไทยก็มีจุดแข็งที่สามารถพัฒนาได้
นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า ตนเองไปทวิภาคีกับ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ซึ่งมีพลังงาน และเขื่อนเยอะ โดยมีพลังงานเหลือ ซึ่งไทยก็ต้องการพลังไฟฟ้าสะอาด รวมถึงประเทศอื่นด้วย เช่น สิงคโปร์ ที่มีระบบที่ดี ซึ่งในการพูดคุยกันจะขอขายพลังงานสะอาดผ่านขนส่งของไทย ตนเองคิดว่าเรื่องนี้คงให้พิจารณาขายไม่ได้ แต่ก็ต้องไม่ให้ สปป.ลาวเสียประโยชน์ จึงให้ สปป.ลาวขาย ให้เรา และครั้งถัดไป จะไปประชุมกับบริษัท ไมโครซอฟต์ เพื่อให้มาลงทุนในไทย
ส่วนตัวได้ดูหนังสือเศรษฐกิจ ที่มีการเปรียบเทียบประเทศที่ใช้พลังงานสะอาดมากน้อยเพียงใด ซึ่งในประเทศที่เจริญแล้ว ก็จะใช้มาก ประเทศฝรั่งเศสน่าสนใจ เพราะมีการใช้พลังงานสูง ใช้ 90% ของพลังงานทั้งหมด มีความจำเป็นที่จะต้องมองหาพลังงานอื่น เช่น พลังงานนิวเคลียร์ แต่ไม่ใช่แค่ในประเทศเพื่อนบ้าน ถ้าเราไม่ใช้ แต่เพื่อนบ้านใช้ ก็เหมือนกัน จึงคุยกับภาคเอกชนเพื่อดูเรื่องนี้ และทำอย่างไรให้ภาคประชาชนมีส่วนร่วมในการพิจารณาการใช้ด้วย เรามีการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ด้วย ซึ่งก็ยังใช้อยู่ แต่ในอนาคตก็ต้องมาพิจารณากันอีกที
ส่วนการลงพื้นที่แต่ละครั้ง ไม่ใช่ดูแค่ชีวิตความเป็นอยู่ แต่ดูเรื่องอากาศสะอาดด้วย จ.เชียงใหม่ ปริมาณฝน แม้จะติดอันดับโลกแต่ก็ลดลงจากปีที่ผ่านมา และเหนือสิ่งอื่นใดไม่ใช่แค่ราคาข้าว หรือพืชผล แต่ต้องให้ความรู้กับเกษตรไทยว่าวิธีไหนจะลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ เรื่องการเผาเป็นเรื่องเศรษฐกิจ การเผาไม้ขีดเดียว ก็เผาได้ แต่การไถกลบใช้เวลานาน โดยทางกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ก็ทำเรื่องนี้อยู่
ขณะที่เรื่องที่อยู่อาศัย ก็กำลังทำอยู่ เช่น การเลี้ยงสัตว์ การพบกับนายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ ที่กำลังพัฒนาสายพันธุ์วัว ให้มูลมีการปล่อยก๊าซน้อยกว่าปกติ ซึ่งต้องใช้เวลาในการพัฒนา
ส่วนการเงิน ได้พูดคุยกันว่าต้องให้ทุนกับผู้ที่ใช้พลังงานสะอาด ถือเป็นเรื่องที่ดีรัฐบาลพยายามสานต่อว่า ถ้าติดพลังงานแสงอาทิตย์แล้ว ยังเหลือพลังงานขายกลับไปเท่าไหร่ หากหักลบราคาขายและจ่ายส่วนต่างเลย ก็จะทำให้มีคนกระตือรือร้น ทำเรื่องนี้มากขึ้น
ซึ่งการปล่อยเงินกู้ ก็มีมากมาย รัฐบาลจะปล่อยแบบ sustainability link bond ได้พูดคุยตลาดหลักทรัพย์ ให้ทุนจดทะเบียนการสนับสนุน ให้เป็นเรื่องที่สำคัญอย่างมาก ยอมรับความเสี่ยงในการใช้พลังงานสะอาด เราก็มีความเสี่ยงพอสมควร ให้บริษัทเข้ามาจดทะเบียนได้ การทำลิสต์ความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เราก็รับได้ ถ้าเรามีแต่สินค้าแต่ไม่มีทุน ก็จะปล่อยสินค้าไม่ได้ ดังนั้น ตลาดทุนสำคัญอย่างยิ่งในการพัฒนาโลกสีเขียวต่อไป
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า อีก 15 ปี ตนเองมีความมั่นใจว่าเราให้ความสำคัญกับพลังงานสะอาดมาก และ 50% ของไทย จะใช้พลังงานสะอาด ตอนนี้ยังไม่พอ เมื่อย้อนไป 30 ปีที่แล้ว เรามีเขื่อนเยอะมาก แต่พลังงานที่ได้ใช้ไม่ถึง 5% ของทั้งหมด แต่สันเขื่อนสามารถติดโซลาร์เซลล์ได้ ขอให้มั่นใจว่าประเทศเรา แม้นิวเคลียร์ยังไม่เกิดในระะยเวลาอันใกล้ แต่มีแหล่งที่สามารถสร้างพลังงานสะอาดได้มากมาย
บริษัทในไทยก้าวหน้ากว่าอีกหลายบริษัทในเพื่อนบ้าน แต่ซัพพลายด์เชนของที่อื่น ถ้าไม่สามารถลากมาอยู่ในปรัชญาเดียวกัน จะส่งผลต่อให้เราส่งสินค้าไปขายในอนาคตถูกตีตก ย้อนไปการปล่อยสินเชื่อสีเขียว ให้บริษัทเล็ก ๆ สามารถเช่าถึงแหล่งเงินทุน และพัฒนาได้ เราจะต้องไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง นอกจากนี้ ยังต้องมีบุคลากรดี ๆ ด้วย คนที่มาสมัครงาน นอกจากเรื่องเงินเดือน หรือสวัสดิการแล้ว ยังต้องดูเรื่องพลังงานสะอาดด้วย ไม่เช่นนั้นเราจะประสบปัญหาที่มีมาจากทั่วโลก
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวทิ้งท้ายว่า ในฐานะที่ทุกท่านในที่นี้เป็นผู้ประกอบการ อย่าคิดแต่เรื่องเงิน แต่ให้คิดเรื่องพลังงานสะอาดด้วย และอยากให้องค์กรอื่น ๆ ทำเรื่องนี้ต่อไปได้จะดีมาก
