xs
xsm
sm
md
lg

“โจ๊ก” อ้างพระบรมราโชวาทแบบผิดๆ แล้วไม่สำนึก “อาเรวัช” ทำไมยังเป็นจ่าเฉย **"วิชัย ช่างเหล็ก" คนขับรถในตำนาน "คดีซุกหุ้น" ของทักษิณ ผู้บกพร่องโดยสุจริต

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล -พล.ต.ท.เรวัช กลิ่นเกษร - ทักษิณ ชินวัตร - วิชัย ช่างเหล็ก
ข่าวปนคน คนปนข่าว

** “โจ๊ก” อ้างพระบรมราโชวาทแบบผิดๆ แล้วไม่สำนึก “อาเรวัช” ทำไมยังเป็นจ่าเฉย

ผ่านมาหลายวันแล้ว หลังจาก “โจ๊ก” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ไปพูดถึงพระบรมราโชวาทของในหลวงรัชกาลที่ 9 แบบผิดๆ ระหว่างจัดงานล่าชื่อประชาชน เพื่อยื่นถอดถอนกรรมการ ป.ป.ช.บางคนที่อยู่ฝั่งตรงข้ามตัวเอง ที่โรงแรมเจเอ พัทยาเหนือ เมื่อวันที่ 22 พ.ค.ที่ผ่านมา

มีหลักฐานปรากฏในคลิปชัดเจนว่า ในวันนั้น “โจ๊ก” สุรเชษฐ์ พูดชัดถ้อยชัดคำว่า “ในหลวงรัชกาลที่ 9 ท่านรับสั่งไว้ว่า เราต้องไม่ให้คนดี มามีอำนาจในการปกครองบ้านเมือง”

ทั้งๆ ที่พระบรมราโชวาทที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 พระราชทานไว้ ในพิธีเปิดงานชุมนุมลูกเสือแห่งชาติ ครั้งที่ 6 ณ ค่ายลูกเสือวชิราวุธ อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2512 คือ “....ในบ้านเมืองนั้น มีทั้งคนดีและคนไม่ดี ไม่มีใครจะทำให้คนทุกคนเป็นคนดีได้ทั้งหมด การทำให้บ้านเมืองมีความปกติสุขเรียบร้อย จึงมิใช่การทำให้ทุกคนเป็นคนดี หากแต่อยู่ที่การส่งเสริมคนดี ให้คนดีได้ปกครองบ้านเมือง และควบคุมคนไม่ดี ไม่ให้มีอำนาจ ไม่ให้ก่อความเดือดร้อนวุ่นวายได้”

ถึงจะพูดผิดอย่างร้ายแรง ชนิดกลับขาวเป็นดำ กลับดำเป็นขาว แต่จนถึงวันนี้ “โจ๊ก” สุรเชษฐ์ ยังคงทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ไม่มีการแสดงตัวเป็นสุภาพบุรุษลูกผู้ชาย ให้สมกับที่เป็นนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ระดับ รอง ผบ.ตร.มาก่อน ด้วยการออกมายืดอกขอโทษสังคม รวมถึงขอพระราชทานอภัยโทษ

ซึ่งหากยอมรับความผิดพลาดแล้วออกมาแก้ไข ก็คงไม่มีใครติดใจในคำพูดของ “โจ๊ก” ในวันนั้น ที่สักแต่จะพูดเพื่ออวดศักดาว่า ตนเองกำลังกวาดบ้านให้ป.ป.ช. ขับไล่คนไม่ดีออกไป จึงยกเอาพระบรมราโชวาทในหลวงรัชกาลที่ 9 มาอธิบาย แต่ด้วยสภาพของที่จิตใจกำลังร้อนรน สติแตก จึงเกิดอาการพูดผิดพูดถูก อย่างที่เห็น

การนิ่งเฉยเพื่อให้เรื่องผ่านไปแบบเงียบๆ ถือเป็นการกระทำที่ไม่บังควร เพราะมีโอกาสที่บรรดาติ่ง หรือแฟนคลับของ “โจ๊ก” สุรเชษฐ์ รุ่นหลังๆ จะเข้าใจผิดตามที่พูดวันนั้นได้ เนื่องจากพระราชดำรัสดังกล่าวของในหลวงรัชกาลที่ 9 มีมานานหลายสิบปีแล้ว

อย่าลืมว่า “โจ๊ก” ก็เพาะศัตรูไว้มากมาย ต้องระวังศัตรูเหล่านั้นอาจใช้กรณีการอ้างถึงพระบรมราโชวาทอย่างไม่ถูกต้อง เป็นเงื่อนไขดำเนินคดีเอาผิดตาม มาตรา 112 ก็ได้ ถ้า“โจ๊ก” ไม่รีบชิงสารภาพผิดเสียก่อน

เมื่อพูดถึงการอ้างพระบรมราโชวาทของในหลวงแบบผิดๆ ก็ทำให้นึกถึง “อินฟลูเอนเซอร์สายตำรวจ” อย่าง “อาเรวัช” พล.ต.ท.เรวัช กลิ่นเกษร ที่มิมีรีแอกชั่นต่อกรณี “โจ๊ก” สุรเชษฐ์ ต่างกันอย่างสิ้นเชิง กับกรณีของ “โน้ส” อุดม แต้พานิช

“โน้ส” อุดม พูดในรายการทอล์กโชว์ เดี่ยวไมโครโฟน เอาคำว่า “พอเพียง” ไปแซะเซเลบบางคน ที่พยายามสร้างภาพว่าตัวเองพอเพียง แต่จริงๆ ก็ไม่รู้จักพอ โดยไม่ได้สื่อความหมายไปในทางลบหลู่ในหลวงรัชกาลที่ 9 แต่อย่างใด
แต่พอ “อาเรวัช” ได้ดูแค่คลิปตัวอย่าง ก็ออกอาการโกรธกริ้ว ถึงขั้นบอกว่า ถ้าไปดูเอง จะขึ้นไปถีบให้พูดไม่จบ และกล่าวหาออกสื่อว่า คำพูดของ “โน้ส” เข้าข่ายหมิ่นสถาบัน ตามม.112

เท่านั้นไม่พอ ยังไปเที่ยวยุคนอื่นให้ไปดักทำร้าย “โน้ส” อีกต่างหาก จนโดนทัวร์ลงกระหน่ำ เพราะไปหาเรื่องชาวบ้านเกินเบอร์ กว่าจะฟื้นคืนสติได้ ก็หลังจากได้ดูคลิปเต็มๆ ค่อยออกมายอมรับเสียงอ่อยว่า “โน้ส” ไม่ได้พูดอะไรผิด
กลายเป็นตราบาปประทับในใจตำรวจแก่ๆ เพราะฟังไม่ได้ศัพท์ จับเอาไปกระเดียด เจอเรื่องอะไรก็รีบตะครุบ เพราะความหิวแสง

ก็มีคำถามว่า ทำไมแค่ “โน้ส” อุดม พูดคำว่า “พอเพียง” โดยไม่ได้พาดพิงไปถึงในหลวงรัชกาลที่ 9 “อาเรวัช” ได้ฟังแค่เผินๆ ก็ของขึ้น ออกอาการเกรี้ยวกราดใส่ทันที

แต่พอ “โจ๊ก” สุรเชษฐ์ ที่พูดแบบผีเจาะปาก ทำให้คนเข้าใจผิดต่อพระบรมราโชวาทในหลวงรัชกาลที่ 9 แบบตรงกันข้าม ต่อมรักสถาบันฯของ พล.ต.ท.เรวัช กลิ่นเกษร กลับฝ่อหาย กลายเป็น “จ่าเฉย” ขึ้นมาดื้อๆ


** "วิชัย ช่างเหล็ก" คนขับรถในตำนาน "คดีซุกหุ้น" ของทักษิณ ผู้บกพร่องโดยสุจริต

ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา “ทักษิณ ชินวัตร” นักโทษเด็ดขาด ที่อยู่ระหว่างการพักโทษ นั่งเครื่องบินเจ็ตส่วนตัว พร้อม “โอ๊ค”พานทองแท้ ชินวัตร และ “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร ลูกชาย และลูกสาว ไปปฏิบัติภารกิจ ที่ จ.นครราชสีมา
มีรัฐมนตรี ส.ส.ในพื้นที่ รวมทั้งผู้ว่าราชการจังหวัด และมวลชนคนเสื้อแดงมารอต้อนรับกันอย่างคึกคัก และเรื่องที่ “ทักษิณ”พูดคุย ให้สัมภาษณ์สื่อ ส่วนใหญ่เป็นเรื่องสถานการณ์การเมืองในปัจจุบัน
ทั้งที่เป็นการไปงานฌาปนกิจศพ “ลุงป๊อก” วิชัย ช่างเหล็ก คนขับรถในตำนาน ที่อยู่รับใช้ “ทักษิณ” มาประมาณ 40 ปี

“ลุงป๊อก” เสียชีวิตเมื่ออายุ 73 ปี มีพิธีรดน้ำศพเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 20 ก.ค.66 พิธีสวดพระอภิธรรมระหว่างวันที่ 21-24 ก.ค.66 จากนั้นก็ได้มีพิธีบรรจุศพ โดยยังไม่ทำการฌาปนกิจ

เนื่องเพราะ “ทักษิณ” ที่ช่วงนั้นได้ไฟเขียว เตรียมกลับมาประเทศไทย ได้แจ้งมายังครอบครัวของ “ลุงป๊อก” ว่าอย่าเพิ่งทำพิธีฌาปนกิจ ขอให้ทำพิธีบรรจุศพไว้ก่อน เพื่อรอให้ตนเองกลับมาร่วมฌาปนกิจด้วย
นับเป็นการแสดงออกถึงความสัมพันธ์ และความสำคัญ ที่มีต่อกันระหว่าง “ทักษิณ”กับ“ลุงป๊อก”

“ลุงป๊อก” เคยเล่าเส้นทางชีวิตตัวเองก่อนที่จะได้มาเป็นคนขับรถของ “ทักษิณ” ว่า สมัยก่อนเป็นเด็กล้างรถ อยู่ที่ปั๊มน้ำมันที่ “ทักษิณ” ชอบเอารถมาล้าง เลยได้เจอกันบ่อย คล้ายจะถูกชะตา วันหนึ่งท่านเลยเอ่ยถามว่า ไปอยู่ด้วยกันไหม ผมตอบกลับไปแบบ ไม่ต้องคิดเลยว่า ไปครับ เพราะผมรู้สึกว่าท่านใจดี ตอนแรกท่านให้มาอยู่โรงหนังที่ราชวัตรของท่านก่อนทํางานเดินตั๋ว และดูแลส่วนต่างๆทั่วไป

“จากเด็กโรงหนัง วันหนึ่งก็ได้มาขับรถให้ท่านนั่ง และได้ทําหน้าที่นั้นมาตลอด เป็นงานที่ภูมิใจมากครับ ที่ท่านไว้ใจ”

ไม่เพียงให้ขับรถให้เท่านั้น “ทักษิณ” ยังไว้ใจถึงขั้นโอนหุ้นให้ถือแทน จนเป็นข่าวดังในคดี “ซุกหุ้นภาค 1”

นั่นคือ มีชื่อ “วิชัย ช่างเหล็ก” ปรากฏเป็นผู้ถือหุ้นในหลายบริษัทที่ตระกูลชินวัตรเป็นเจ้าของ อาทิ ถือกว่า 346,500 หุ้น ในบริษัท ชินวัตรคอมพิวเตอร์ แอนด์ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (มหาชน)

คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แจ้งข้อกล่าวหา “ทักษิณ ชินวัตร”และคู่สมรสคือ “คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์” จงใจยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินอันเป็นเท็จ จากกรณีซุกหุ้นไว้กับคนรับใช้ และคนขับรถ!!

ต่อมาป.ป.ช.ชี้มูลความผิด แล้วยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อวินิจฉัยชี้ขาด หากผิดจริง “ทักษิณ” ต้องหลุดจากเก้าอี้นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น

ในการพิจารณาคดี “ทักษิณ” ให้การว่า มิได้จงใจยื่นบัญชีทรัพย์สินหนี้สินอันเป็นเท็จ แต่ผู้ช่วย หรือเลขานุการของตนเอง เป็นผู้ดำเนินการแทน หากมีความผิดพลาดในการยื่นแสดงบัญชีทรัพย์สิน หนี้สิน ที่ไม่ถูกต้อง ก็เป็นเพียงความบกพร่องของตนเอง โดยมิได้มีเจตนาทุจริตแต่อย่างใด สาเหตุเกิดขึ้นจากการ “บกพร่องโดยสุจริต” ของตนเอง จึงไม่ควรต้องถูกลงโทษตามรัฐธรรมนูญ

ขณะที่ “วิชัย ช่างเหล็ก” ให้การว่า “…เมื่อข้าฯ เข้ามาทำงานเป็นคนขับรถ ที่บริษัท ชินวัตรนั้น คุณหญิงพจมาน ได้เรียกข้าฯ ไปพบ… และบอกกับข้าฯ ว่า จะขอใช้ชื่อข้าฯ ถือหุ้นแทน คุณหญิงพจมานฯ ตามบริษัทต่างๆ ข้าฯ ได้ตอบตกลงโดยข้าฯ ไม่ทราบเหตุผล…และต่อมาเลขานุการคุณหญิงพจมานฯ ชื่อ คุณแจง ชื่อจริง นางกาญจนาภาฯ ก็ได้นำเอกสารต่างๆ มาให้ ข้าฯลงลายมือชื่อ…”

คดีนี้ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ มีคำวินิจฉัย เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2544 ให้ “ทักษิณ ชินวัตร” พ้นผิดคดีซุกหุ้น ด้วยเสียง 8 ต่อ 7 ไม่มีความผิดเรื่องการซุกหุ้น ตามรัฐธรรมนูญ 2540 จนกลายเป็นวลีดังจากคดีนี้ คือ "บกพร่องโดยสุจริต"
ผลจากคำพิพากษาในครั้งนั้น ทำให้ “รัฐบาลทักษิณ” อยู่ครบเทอม 4 ปี และเมื่อมีการเลือกตั้งครั้งใหม่ พรรคของทักษิณ ก็ชนะเลือกตั้งพรรคเดียวถึง 377 เสียง เป็นประวัติศาสตร์ ก่อนจะเกิดวิกฤตนำไปสู่การรัฐประหารปี 2549

“ลุงป๊อก” วิชัย ช่างเหล็ก จึงเป็นคนขับรถในตำนานที่ “ทักษิณ”ให้ความสำคัญ ถึงขั้นเมื่อเสียชีวิตแล้ว ยังให้เก็บศพไว้ รอตนเองกลับจากต่างประเทศ เพื่อไปเป็นประธานในพิธีฌาปนกิจศพด้วยตัวเอง


กำลังโหลดความคิดเห็น