xs
xsm
sm
md
lg

“เหล็กไทย” วิกฤตหนัก “เหล็กเถื่อนจีน” ทะลัก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ล่าสุดมีการขนเหล็กจากประเทศจีนจำนวน 6 ตู้คอนเทนเนอร์ผ่านมาทางท่าเรือแหลมฉบัง เพื่อมาก่อสร้างโกดังห้องเย็นที่ตลาดใหญ่แห่งหนึ่งใน จ.ปทุมธานี โดยมีการสำแดงเท็จจนไม่ต้องเสียภาษี รวมถึงภาษีมูลค่าเพิ่มใดๆ

ตลอดหลายปีที่ผ่านมาข่าวคราวว่า วงการอุตสาหกรรมเหล็กไทยที่มีมูลค่ากว่า 5 แสนล้านบาทต่อปีอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่สู้ดีนัก อันเนื่องมาจากสภาพเศรษฐกิจที่ซบเซา

กระทั่งช่วงกว่า 2 ปีมานี้ที่เศรษฐกิจของไทยเริ่มกระเตื้องขึ้น แต่ก็ดูเหมือนสถานการณ์ของอุตสาหกรรมเหล็กไทยก็ยังไม่ดีขึ้น

เมื่อตรวจสอบก็พบว่า ปัญหาสำคัญมาจากการที่กำลังผลิตเหล็กของผู้ประกอบการไทยที่ไม่เพียงพอต่อความต้องการใช้ในประเทศอยู่แล้วลดลง จนถูกเหล็กต่างชาติเข้ามาแย่งส่วนแบ่งตลาดเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง


โดยเฉพาะเหล็กที่มาจากประเทศจีนที่มีราคาต่ำกว่า จนเกิดภาวะการทุ่มตลาด ซึ่งในหลายประเทศ ทั้งสหรัฐอเมริกา และในทวีปยุโรป ที่ตกอยู่ในสถานการณ์คล้ายกัน ได้ออกมาตรการภาษีเพื่อตอบโต้ป้องกันการทุ่มตลาดที่เกิดขึ้น

ขณะที่มาตรการป้องกันการทุ่มตลาดของประเทศไทยยังเป็นไปอย่างล่าช้า ไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ทันท่วงที ซ้ำร้ายยังพบว่ามีการลักลอบนำเข้า “เหล็กจีน” โดยไม่เสียภาษีเข้ามาซ้ำเติมวงการเหล็กของไทยเข้าไปอีก

ซึ่งรูปแบบการลักลอบนำเข้า “เหล็กเถื่อน” ก็ไม่ได้สลับซับซ้อน มีการลักลอบนำเหล็กใส่ตู้คอนเทนเนอร์ขนส่งเข้าไทยโดยทางเรือ เมื่อถึงประเทศไทยก็แจ้งสำแดงเท็จเป็นสินค้าอื่นที่เสียภาษีถูกกว่า หรือเหล็กแบบอื่นเพื่อเลี่ยงพิกัดศุลกากร

ล่าสุดมีการขนเหล็กจากประเทศจีนจำนวน 6 ตู้คอนเทนเนอร์ผ่านมาทางท่าเรือแหลมฉบัง เพื่อมาก่อสร้างโกดังห้องเย็นที่ตลาดใหญ่แห่งหนึ่งใน จ.ปทุมธานี โดยมีการสำแดงเท็จจนไม่ต้องเสียภาษี รวมถึงภาษีมูลค่าเพิ่มใดๆ

และยิ่งน่าปวดใจเมื่อเจ้าของเหล็กซึ่งเป็นชาวจีน ได้โพสต์ประกาศศักดาในโซเชี่ยลมีเดียของจีนด้วยว่า สามารถนำเข้าเหล็กที่จะใช้ก่อสร้างโกดังห้องเย็นลอตแรกเข้ามาในประเทศไทยได้สำเร็จ แถมยังมีการโอ้อวดประมาณ “กูแน่ กูทำได้ที่เมืองไทย”

ซึ่งข้อมูลเหล่านี้คนในวงการเหล็กไทยมีแบบละเอียดยิบ และประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว แต่เรื่องก็เงียบ ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

เชื่อว่าคงไม่ลักลอบกันแค่ลอตนี้ลอตเดียว จากนี้ “เหล็กเถื่อน” จากจีนคงทะลักเข้ามาในไทนอีกหลายระลอก จนน่าสงสัยไม่น้อยว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำอะไรกันอยู่ หรือรู้เห็นและเป็นใจกับ “ทุนจีน” แบบกรณีอื่นๆ ก่อนหน้านี้.
กำลังโหลดความคิดเห็น