ญาติบุกสภา ร้องสอบปมพลทหารเสียชีวิตหลังโดดโรงนอนในค่าย พบพิรุธเพียบ มั่นใจไม่มีอาการซึมเศร้า เผยก่อนเกิดเหตุเคยส่งข้อความช่วยเหลือจากการถูกข่มเหง ด้าน กมธ.พัฒนาการเมืองฯ เด้งรับ พร้อมส่ง “วิโรจน์“ สอบต่อ
วันนี้ (23 พ.ค.) เวลา 13.00 น. บริเวณจุดรับยื่นหนังสือชั้น 1 อาคารรัฐสภา นายฉัตร สุภัทรวณิชย์ รองประธานคณะ กมธ. การพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน และ นางปัญญารัตน์ นันทภูษิตานนท์ เลขานุการคณะ กมธ. รับยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมจากครอบครัวของพลทหาร ประกิจ อัดใจ ซึ่งเป็นพลทหารสังกัดกองร้อยกองบังคับการกองพันสารวัตรทหารที่ 12 ค่ายจักรพงษ์ จ.ปราจีนบุรี กองทัพบก ถูกกล่าวหาว่า ได้มีอาการประสาทหลอนจากสารเสพติด หรือมีภาวะจิตเวช จนนำมาสู่การกระโดดจากโรงนอน อาคารกองร้อย จากนั้นได้เข้ารับการรักษาตัวที่ รพ.ค่ายจักรพงษ์ และเสียชีวิตในเวลาต่อมา
ทั้งนี้ พลทหาร ประกิจ ได้เข้ารับราชการทหารเกณฑ์เมื่อวันที่ 3 พ.ย. 66 ผลัดที่ 2/2566 ด้วยวิธีการจับสลาก เมื่อดำเนินการฝึกเรียบร้อยแล้วได้ไปสังกัดกับกองร้อยกองบังคับการ กองพันสารวัตรทหารที่ 12 (ร้อย.บก.พัน.12) ค่ายจักรพงษ์ ต่อมาวันที่ 21 มี.ค. 67 ครอบครัวได้รับแจ้งจากจ่าประจำกองร้อยฯ ว่า พลทหาร ประกิจ ได้กระโดดลงจากโรงนอนกองบังคับการกองร้อยฯ บาดเจ็บสาหัส ทางกองร้อยฯ นำส่งรักษาตัว รพ. ค่ายจักรพงษ์ โดยได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะ ดวงตา ใบหน้า และเสียเลือดมาก ต้องเฝ้าดูอาการอย่างใกล้ชิด ต่อมาช่วงวันที่ 22 มี.ค. 67 ครอบครัวมีความประสงค์ที่จะขอให้ส่งตัวไปยัง รพ.พระมงกุฎเกล้าฯ กรุงเทพฯ เนื่องจากเห็นว่ามีเครื่องมือที่ดีกว่าในการทำการรักษา
ทั้งนี้ จากการบอกกล่าวของญาติพลทหาร ประกิจ ระบุว่า ครอบครัวมีข้อสังเกตจากภาพบันทึกกล้องวงจรปิด เหตุเกิดเมื่อวันที่ 21 มี.ค. 67 เวลาประมาณเวลา 17.00-18.00 น. และครอบครัวได้รับแจ้งเหตุเมื่อเวลา 21.17 น. ซึ่งล่าช้ากว่า 3 ชม. ต่อมาวันที่ 21 มี.ค. เวลา 15.30 น. ทางครอบครัวได้รับการอนุญาตให้ย้ายพลทหารประกิจไปรักษาที่ รพ.พระมงกุฎฯ ตามความต้องการ โดยได้พักรักษาตัวที่ รพ.พระมงกุฎฯ เป็นระยะ 30 วัน ซึ่ง นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม ได้มาเยี่ยมเมื่อวันที่ 24 มี.ค. 67 แต่มีการกีดกันครอบครัวไม่ให้พบผู้สื่อข่าว จนเมื่อวันที่ 21 เม.ย. 67 พลทหารประกิจได้เสียชีวิตลงเมื่อเวลา 13.21 น.
“ปกติ พลทหาร ประกิจ มีนิสัยร่าเริง เป็นมิตร มีน้ำใจ ชอบเล่นกีฬาและดนตรี เป็นที่รักใคร่ของเพื่อนฝูง ไม่ปรากฏลักษณะอาการซึมเศร้า ไม่มีความย้ำคิดย้ำทำ หวาดระแวง หรืออาการจิตเภทอื่นใดอันนำไปสู่ข้ออ้างที่ว่ามีอาการจิตเวช หรือซึมเศร้า หรือเกี่ยวข้องกับยาเสพติดตามที่ผู้บังคับบัญชาได้กล่าวหาแต่ประการใด ทางครอบครัวได้ร้องเรียนไปยังสื่อมวลชนหลายสื่อมีความคืบหน้าในช่วงต้น แต่จนถึงบัดนี้ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ โดยทางครอบครัวได้ติดใจในหลายประเด็น เช่น เหตุใดเมื่อเกิดเรื่องร้ายแรงขึ้นจึงไม่แจ้งให้ครอบครัวทราบทันที ทำไมต้องประวิงเวลา และเมื่อเห็นว่า พลทหาร ประกิจ บาดเจ็บในลักษณะที่เป็นอันตรายแก่ชีวิต เหตุใดจึงไม่นำส่งไปยังโรงพยาบาลประจำจังหวัด หรือโรงพยาบาลทหารที่มีเครื่องมือดีที่สุดที่ใกล้ที่สุดเท่าที่ทำได้ มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนสิบเวรและนายทหารเวร รวมทั้งนายทหารเวรผู้ใหญ่ในวันดังกล่าวหรือไม่ เหตุใดสถานีตำรวจภูธรเมืองปราจีนบุรีมีความล่าช้าในการขอสำเนากล้องวงจรปิดจากที่เกิดเหตุทั้งที่ผ่านมากว่า 2 เดือนแล้ว การข้อมูลการรักษาจาก รพ. ทั้งสองแห่งเป็นไปด้วยความล่าช้า ทั้งนี้ ก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น พลทหาร ประกิจ ได้ส่งข้อความมาหาน้องสาวในลักษณะขอความช่วยเหลือจากการถูกรังแกข่มเหง จึงอยากขอให้คณะ กมธ.ตรวจสอบข้อเท็จจริงกับบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งหมด และขอให้การชันสูตรพลิกศพจาก รพ.รามาธิบดี เพื่อให้ความเป็นธรรมกับพลทหาร ประกิจ
ด้าน นางปัญญารัตน์ นันทภูษิตานนท์ เลขานุการคณะ กมธ. กล่าวว่า ทางครอบครัวผู้เสียหายได้มาร้องเรียนเพื่อขอความเป็นธรรม จากที่รับฟังปัญหาความไม่สบายใจของครอบครัวผู้เสียชีวิต เห็นว่า เรื่องดังกล่าวเป็นประเด็นที่เกี่ยวข้องกับทหาร จึงได้ประสานงานกับ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ประธานคณะ กมธ.การทหาร โดยหลังจากการแถลงข่าว จะนำครอบครัวของผู้เสียหายไปยื่นหนังสือกับคณะ กมธ.ทหาร เพื่อให้ความช่วยเหลือและติดตามความคืบหน้าของคดี เพื่อให้ความเป็นธรรมกับครอบครัวของ พลทหาร ประกิจ ต่อไป