xs
xsm
sm
md
lg

“พิชิต” กล่าวปาฐกถางานวันวิสาขบูชาโลก ย้ำ รัฐบาลไทยพร้อมทุ่มเทสรรพกำลังสร้างสังคมสันติสุขยั่งยืนผ่านสถาบันศาสนา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“พิชิต” เป็นตัวแทนนายกฯ กล่าวปาฐกถางานวันวิสาขบูชาโลก เฉลิมพระเกียรติในหลวง ย้ำ รัฐบาลไทยพร้อมทุ่มเทสรรพกำลัง เพื่อสร้างสังคมสันติสุขให้ได้อย่างยั่งยืนผ่านกลไกสถาบันศาสนา

วันนี้ (20 พ.ค.) นายพิชิต ชื่นบาน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นตัวแทนนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษเรื่อง “พุทธวิถีสู่การสร้างความไว้วางใจและความสามัคคี” ในพิธีเฉลิมฉลองวันวิสาขบูชา วันสำคัญสากลของโลก ครั้งที่ 19 เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ที่ศูนย์ประชุมสหประชาชาติ ตอนหนึ่งว่า

รัฐบาลไทยตระหนักถึงความสำคัญของการนำหลักศาสนามาพัฒนาจิตใจและปัญญา ตามที่นายกรัฐมนตรีได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภา ว่า จะส่งเสริมสถาบันศาสนาให้เป็นกลไกสร้างคุณธรรมและจริยธรรมในการดำเนินชีวิต เพื่อบ่มเพาะและยกระดับความไว้วางใจ เกิดความสามัคคีและการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขของพลเมืองไทย ผ่านการขับเคลื่อนด้วยบันได 4 ขั้นคือ

1. โอบอ้อมเอื้ออารี หรือทาน ที่ขณะนี้รัฐบาลกำลังดำเนินการผ่าน “โครงการทำเนียบช่วยได้” ให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ประสบกับปัญหาต่างๆ กระตุ้นให้เกิดไกล่เกลี่ย ประนีประนอมข้อพิพาท


2. สื่อสารดีและไพเราะ หรือปิยวาจา โดยได้ให้สถานีวิทยุและโทรทัศน์ ของกรมประชาสัมพันธ์ ออกแบบรูปแบบรายการและกิจกรรมที่เสริมสร้างความรัก ความสามัคคี รวมถึงการสื่อสารของเยาวชนให้สามารถใช้สื่ออย่างรู้เท่าทัน ไม่ผิดกฎหมายและศีลธรรม

3. สงเคราะห์หมู่ชน หรืออัตตจริยา รัฐบาลได้น้อมนำพระบรมราโชบาย “ทำความดีด้วยหัวใจ” และโครงการจิตอาสาตามแนวพระราชดำริมาประยุกต์เป็นแนวทางในการพัฒนาโครงการและกิจกรรมต่างๆ รวมทั้งสนับสนุนการศึกษาพระปริยัติธรรมและการดูแลสุขภาพของพระสงฆ์ไทย ด้วยการจัดให้มี ธรรมนูญสุขภาพพระสงฆ์แห่งชาติ

และ 4. คือ การวางตนให้เหมาะสม หรือสมานัตตตา รัฐบาลไทยได้น้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาปรับใช้ ในการดำเนินชีวิต และประกอบธุรกิจเพื่อไม่ให้ส่งผลเสียต่อสังคม ทำลายธรรมชาติสิ่งแวดล้อม และเอารัดเอาเปรียบซึ่งกันและกัน


นายพิชิต ย้ำในช่วงท้ายว่า ความไว้วางใจ เป็นรากฐานสำคัญของความสมัครสมานสามัคคีของครอบครัว องค์กร ชุมชน และสังคม ทั้งในระดับชาติและระดับโลก รัฐบาลไทยได้ทุ่มเทสรรพกำลังทั้งคนและงบประมาณ ดำเนินการทุกวิถีทางเพื่อสร้างสังคมสันติสุขให้ได้อย่างยั่งยืน สอดรับกับหัวข้อหลักของการจัดงานในปีนี้ และสอดรับกับพุทธประสงค์ที่ว่า “สุขา สังฆัสสะ สามัคคี ความสามัคคีของหมู่ทำให้เกิดสุข” โดยการใช้หลักสังคหวัตถุธรรม มาเป็นเครื่องมือในการเสริมสร้างความไว้วางใจระหว่างกันและกัน






กำลังโหลดความคิดเห็น