ชาวราชบุรี บุก ปชป.ร้อง “ชวน” ช่วย หลังปรากฏชื่อในบัญชีภัยคุกคามนายกฯ สร้างความเดือดร้อนในชีวิตประจำวัน ด้าน “ราเมศ” ย้ำ นักการเมืองต้องเปิดให้ ปชช.ร้องทุกข์ ชี้ หากปิดกั้นไม่ถือเป็นนายกฯ จากระบอบประชาธิปไตย ลั่นสภาเปิดเจอตรวจสอบแน่
วันนี้ (17 พ.ค.) กลุ่มตัวแทนชาวจังหวัดราชบุรีจำนวนหนึ่ง ได้เดินทางมายังที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อร้องเรียนต่อพรรคและ นายชวน หลีกภัย ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรค อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร ถึงเหตุการณ์ที่เกี่ยวเนื่องจากการที่นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่จังหวัดราชบุรี ระหว่างวันที่ 12-13 พ.ค. ที่ผ่านมา และมีการจัดทำบัญชีรายชื่อประชาชนที่พยายามเข้าพบในวันดังกล่าวเป็นภัยคุกคามต่อตัวนายกรัฐมนตรี ทำให้ได้รับผลกระทบถึงความเป็นอยู่ต่อชีวิตประจำวัน โดยมี นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ รับเรื่องดังกล่าว
ทั้งนี้ ตัวแทนของชาวบ้าน กล่าวว่า การถูกกล่าวหาว่าเป็นภัยคุกคามต่อตัวนายกรัฐมนตรี ถือเป็นการประณามชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนมานานร่วม 10 ปี และเห็นว่า เป็นการกระทำที่มีความรุนแรงต่อประชาชน หากพวกตนไม่รีบออกมาชี้แจงความจริงก็เกรงว่าต่อไปอาจจะมีความรุนแรงมากขึ้นได้ ซึ่งสาเหตุเริ่มต้นเกิดมาตั้งแต่สมัยอดีตนายกฯ ประยุทธ์ มีการส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจไปเฝ้าชาวบ้าน
“การถูกกล่าวหาว่าเป็นภัยคุกคามต่อตัวนายกฯ นี้ คิดว่า เป็นคำพูดที่รุนแรงเกินไป เรื่องนี้เกิดขึ้นมา 10 กว่าปีแล้ว ตั้งแต่สมัยนายกฯ ตู่ จะมีตำรวจไปเฝ้า ถ้ามีนักการเมือง คนมีตำแหน่งใหญ่ จะมีตำรวจไปเฝ้าถึงบ้าน บางวันตื่นขึ้นก็เจอตำรวจอยู่หน้าบ้าน วันนี้จึงมาร้องเรียน เพราะที่นี่เป็นความหวังสุดท้ายที่จะพึ่งได้ ที่ผ่านมา ไปร้องเรียนมาแล้วหลายที่ เหลือแต่ศาลพระภูมิกับศาลเจ้าที่ยังไม่ได้ไป นอกนั้นไปร้องเรียนมาหมดแล้ว” ตัวแทนชาวบ้าน กล่าว
นายราเมศ กล่าวว่า เรื่องนี้ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรค ให้ความสำคัญและมอบหมายให้ตนเข้ามาดูแลและติดตามอย่างใกล้ชิด ซึ่งนายกฯไม่ควรผลักประชาชนไปเป็นศัตรู และกรณีนี้ประชาชนใน จ.ราชบุรี ตามที่ปรากฏในรายชื่อก็เป็นผู้ที่มีความทุกข์ร้อนในการดำเนินวิถีชีวิต ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสิ่งแวดล้อม หรือวิถีชีวิตความเป็นอยู่ การที่ประชาชนจะเดินเข้าไปหานายกฯหรือทีมงานก็สมควรให้การต้อนรับในฐานะที่เป็นนักการเมือง เป็นคนของประชาชน แต่การมาบอกว่าบุคคลเหล่านี้เป็นภัยต่อตัวนายกฯ ก็ต้องถือว่า ท่านไม่ได้เป็นนายกฯในระบอบประชาธิปไตยอย่างแท้จริง เพราะไม่รับฟังความเห็นต่างของประชาชน
”แม้เหตุการณ์จะผ่านมานานหลายปี แต่ความหวาดระแวง วิตกกังวลของประชาชนยังคงมีอยู่ตลอดเวลา หลังจากมีชื่อถูกขึ้นบัญชีดังกล่าว ก็อาจทำให้สังคมมองว่าเป็นบุคคลอันตราย และจะส่งผลต่อการดำเนินชีวิตต่อไปอีกด้วย ในเรื่องนี้พรรคได้แสดงจุดยืนว่า พรรคไม่เห็นด้วยกับการกระทำดังกล่าว แม้จะอ้างว่าเป็นการกระทำโดยพลการของเจ้าหน้าที่ หรือฝ่ายความมั่นคง แต่ตัวนายกฯจะต้องรับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วย และเมื่อเปิดสมัยประชุมสภา เรื่องนี้จะต้องมีการนำไปท้วงติงเพื่อตรวจสอบตัวนายกฯต่อไป” นายราเมศ กล่าว