วิป 3 ฝ่ายเห็นชอบเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญ 18-21 มิ.ย. ถกร่าง กม.ประชามติ-งบฯ ปี 68 ด้าน ส.ส.ก้าวไกล จ่อสับสำนักงบฯ จัดสรรงบประมาณเน้นประโยชน์จริงหรือไม่
วันนี้ (17 พ.ค.) นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภา คนที่สอง เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการประสานงานร่วมสภาผู้แทนราษฎร ประกอบด้วย ตัวแทน ครม. วิปฝ่ายค้าน และ วิปฝ่ายรัฐบาล เพื่อกำหนดกรอบระยะวันและเวลาเปิดประชุมสภาวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 และ ร่าง พ.ร.บ.ประชามติ แก้ไขเพิ่มเติม
นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ประธานวิปรัฐบาล เปิดเผยว่า ที่ประชุมได้ข้อสรุปว่าในวันที่ 18 มิ.ย. จะมีประชุมสภา พิจารณาร่างพ.ร.บ.ประชามติ ซึ่งเชื่อว่า ฉบับของรัฐบาลจะเสนอทันในการประชุมวันดังกล่าว แต่ถ้าร่างของรัฐบาลไม่เสร็จ เราจะพิจารณาร่างของพรรคเพื่อไทย และ พรรคก้าวไกล ซึ่งคาดว่า จะพิจารณาจบในเวลา 16.00 น. ส่วนระหว่างวันที่ 19-21 มิ.ย. จะเป็นการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบฯ ปี 68 โดยเริ่มประชุมเวลา 09.00-22.00 น. สำหรับวันที่ 21 มิ.ย. เป็นวันสุดท้ายอาจประชุมถึงเวลา 24.00 น.
นายวิสุทธิ์ กล่าวอีกว่า ที่ประชุมแบ่งเวลาการอภิปรายให้ฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน ฝ่ายละ 20 ชั่วโมง และให้เวลาประธาน 1 ชั่วโมง เพื่อที่ประชาชนจะได้ติดตามการอภิปรายงบฯ ปี 68 ได้ อย่างไรก็ตาม สำหรับพรรคเพื่อไทยเตรียมการอย่างดี เรามีทีมวิชาการสนับสนุนข้อมูลให้แก่ ส.ส. และในส่วนรัฐบาลก็มีการเตรียมความพร้อมที่ดีมากเช่นกัน
ด้าน นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า เกือบเดือนแล้วที่พรรคก้าวไกลได้เตรียมการอภิปรายงบฯ ปี 68 ขณะนี้อยู่ระหว่างแต่ละกลุ่มประเด็น ช่วยกันจับประเด็นในการอภิปราย ซึ่งจะแตกต่างจากการอภิปรายในปีก่อนๆ ครั้งนี้ มี นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ติดตามงบประมาณ สภา ได้ขอข้อมูลงบประมาณทั้งหมดจากทุกหน่วยงาน โดยครั้งนี้พรรคจะพยายามทำในลักษณะว่าถ้าพรรคได้เป็นรัฐบาลจะจัดงบแบบใด ซึ่งเราจะเห็นว่าแต่ละหน่วยงานยื่นคำขออย่างไรบ้าง และสุดท้ายเมื่อได้ร่างงบฯ ปี 68 ตัวจริงมา เราจะเห็นว่าสำนักงบประมาณและฝ่ายบริหารได้อนุมัติงบประมาณใดมาบ้าง
“สิ่งที่อยากทำ คือ มีรายการใดหรือไม่ที่หน่วยงานขอไปแล้วมีประโยชน์แต่สำนักงบฯกลับไม่อนุมัติ หรือมีอะไรในร่างงบฯ ปี 68 ที่มีประโยชน์น้อย ไม่มีประสิทธิภาพ แต่สำนักงบฯอาจจะอนุมัติ หรือมีโครงการใดที่มองว่าความจริงแล้วน่าจะเกิดโครงการนี้ เพื่อเป็นประโยชน์ต่อประเทศ แต่กลับไม่มีคำของบจากทั้งหน่วยงานมาตั้งแต่ต้น ดังนั้น พรรคจะพยายามสวมบทบาทว่าถ้าเราเป็นรัฐบาลจริง จะเข้าไปขุดลึกทั้งระบบของงบประมาณประเทศ ว่าส่วนใดควรปรับปรุง และถ้าเราเป็นรัฐบาลแล้วเห็นคำขอเช่นนี้จะจัดงบประมาณแบบใด” ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าว
เมื่อถามต่อว่า ประมาณต้นเดือน มิ.ย. ศาลจะตัดสินคดียุบพรรคของพรรคก้าวไกล ตอนนี้กำลังใจยังดีอยู่หรือไม่ นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่กระทบกำลังใจ แต่จะมีเรื่องทรัพยากรบุคคลในการทำงานบ้าง ซึ่งต้องเข้าใจว่าต้องมีฝ่ายที่ต้องเตรียมการเรื่องนี้ จึงอาจจะมีการสูญเสียบุคลากรบางส่วนไปทำเรื่องคดี มั่นใจกำลังใจเต็มเปี่ยม เต็มร้อย