นายกฯ ประชุมแนวทางพัฒนากาญจนบุรี พร้อมหน่วยงานความมั่นคง ขอบคุณกองทัพปิดทองหลังพระช่วยเหลือปชช.มานาน หวังเดินหน้าเรื่องที่ดินทำกินต่อไม่หยุดแค่นี้ ฝากผู้ว่าฯ ดูเรื่องกฎหมายที่ดินให้ถูกต้อง หลังต่างชาติเริ่มจองพื้นที่ปลูกทุเรียนส่งออก ชี้เมืองกาญจน์ มี 3 เขื่อนไม่ขาดน้ำ สั่งเร่งทำแก้มลิงเก็บน้ำ ภายใน 2-3 เดือนก่อนฤดูน้ำจะมา ลั่นยาบ้า 1 เม็ด-ครึ่งเม็ด ถ้าขายจับหมด
เวลา 13.00 น.วันที่ 11 พ.ค.ที่กองพลทหารราบที่ 9 ตำบลลาดหญ้า อำเภอเมืองกาญจนบุรี จังหวัดกาญจนบุรี นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เป็นประธานประชุมหารือประเด็นปัญหาและการพัฒนาจังหวัดกาญจนบุรี ร่วมกับนายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา พล.อ. สนิธชนก สังขจันทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม พล.ท.ชิษณุพงศ์ รอดศิริ แม่ทัพภาคที่ 1 พล.ต.วุทธยา จันทมาศ ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 9 ในฐานะผู้บัญชาการกองกำลังสุรสีห์ พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 (ผบช.ภ.7.) และหน่วยงานความมั่นคง เป็นต้น
โดยนายกฯ กล่าวว่า ถือเป็นครั้งที่ 2 ตั้งแต่มาเยือนจังหวัดกาญจนบุรี ต้องขอบคุณผู้ว่าราชการจังหวัดที่ได้ติดตามงานอย่างใกล้ชิด จากงานที่เราไปมาโดยเฉพาะปัญหาที่ดินทำกินเอกสารสิทธิ์ ซึ่งมีการดำเนินการไปมาก เพราะเรื่องนี้คั่งค้าง มาตั้งแต่ 2481 พี่น้องประชาชนเดือดร้อน ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ทำกิน การอยู่อาศัย ไม่มีไฟฟ้าถือเป็นปัญหาต่อเนื่องของเอกสารสิทธิ์ ซึ่งปัจจุบันมีการเดินไปข้างหน้าพยายามแก้ไขปัญหา แต่ยังมีงานต้องทำอีกเยอะ ซึ่งต้องขอบคุณในความคืบหน้าที่มีมาโดยตลอด และในวันนี้มาใช้พื้นที่ของกองทัพภาคที่ 1 ร่วมประชุม ต้องขอบคุณด้วยหลายอย่างที่ทางกองทัพทำมาไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่ดินทำกิน ไม่ใช่แค่กองทัพภาคที่ 1 อย่างเดียว แต่ทั่วประเทศไทย ส่วนการกันพื้นที่ที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์มาแบ่งให้ประชาชาทำมาหากิน ก็หวังว่าจะไม่หยุดแค่นี้ รวมถึงการใช้ยุทโธปกรณ์มาช่วยพี่น้อง ในเรื่องของภัยแล้ง และน้ำท่วม รวมถึงการขุดลอกคูคลองต่างๆหวังว่าจะช่วยกันต่อไปอย่างต่อเนื่อง
"ท่านปิดทองหลังพระนานแล้ว ถือเป็นช่วงเวลาที่เราต้องมาพูดคุยกันว่าทางกองทัพจะช่วยเหลือพี่น้องประชาชนได้อย่างดีเยี่ยม รวมถึงเรื่องความช่วยเหลือต่อทางด้านยาเสพติดด้วย" นายกฯ กล่าว
นายกฯ กล่าวต่อว่า สำหรับแผนการท่องเที่ยว ที่ได้เสนอแผนมา ถือว่าดี แต่ยังขาดเรื่องการใช้จ่ายต่อหัว และระยะเวลาที่อยู่ในจังหวัด ที่รายงานมาคือเรื่องกิจกรรมต่างๆ ที่พยายามเสริม ซึ่งเราอยากให้คนมาจับจ่ายใช้สอยในจังหวัดให้มากขึ้น แต่แน่นอนการมีกิจกรรมต่างๆ ทำให้คนมาใช้จ่ายมากขึ้น แต่บางคนเฉลี่ยอยู่คืนเดียว หากเขามาอยู่ได้หลายคืน เศรษฐกิจของท้องถิ่นจะดีขึ้น จึงขอฝากให้เน้นตรงนี้หน่อย พี่น้องจะได้ประโยชน์จากภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยว โรงแรมร้านอาหาร สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆทหากนักท่องเที่ยวอยู่ได้นานหน่อยก็จะดี ส่วนเรื่องการคมนาคมตอนนี้ได้มีการเปิดไฮเวย์ชั่วคราวสัญจรกรุงเทพฯ มาถึงที่นี่ได้ดีขึ้น ซึ่งการพัฒนาทางด้านคมนาคม ถือเป็นเรื่องสำคัญทำให้เมืองเจริญขึ้น ไม่ว่าการไปมาหาสู่ภายในประเทศ หรือจังหวัดชายแดนติดต่อกับเพื่อนบ้านที่เกี่ยวข้องกับการค้าขาย ถือเป็นเรื่องสำคัญจึงอยากให้ดูตรงนี้อย่างต่อเนื่อง และมีการพัฒนาต่อไป
นายกฯ กล่าวอีกว่า ในส่วนเรื่องการทำเกษตรกรรม จริงๆแล้ว ถือเป็นเรื่องสำคัญในพื้นที่ ทั้งการปลูกข้าว และพืชใหม่ๆ ที่มีศักยภาพสูงไม่ว่าจะเป็นทุเรียน ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดบอกว่าเริ่มมีคนปลูกทุเรียนเยอะ ต่างชาติเริ่มมาจับจองพื้นที่และปลูกทุเรียนส่งออก ตรงนี้เราเน้นการทำมาหากินที่ถูกต้องตามกฎหมาย และคุ้มครองเกษตรกรไทยด้วย ขณะที่เรื่องการบริหารจัดการน้ำถือเป็นเรื่องสำคัญ จริงๆแล้วทั้งจังหวัดกาญจนบุรี มีเขื่อน 3 เขื่อน การขาดแคลนน้ำจริงๆเชื่อว่าไม่มี แต่เป็นเรื่องของการบริหาร จัดท่อส่งน้ำให้เพียงพอ การจัดการเรื่องน้ำให้ดี โดยใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ ไม่ว่าจะเป็นทางด้านความมั่นคงใช้สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ จิสด้าเข้ามาศึกษาแนวทางในการที่เราจะมีทรัพยากรอากาศ และสำรวจพื้นที่ให้ดีตรงนี้เราต้องให้ความสำคัญ
นายกฯ กล่าวด้วยว่า เรื่องของการทำแก้มลิงเพื่อกักเก็บน้ำ จะช่วยบรรเทาน้ำท่วม ในอดีตบางพื้นที่น้ำท่วมถึงหน้าอก หวังว่าจะหมดไป จึงขอให้เร่งทำ ภายใน 2-3 เดือนนี้ให้เสร็จก่อนที่ฤดูน้ำจะมา
นอกจากนี้เรื่องของสถานการณ์ชายแดน ถือเป็นเรื่องสำคัญ ต้องขอขอบคุณกำลังพลและทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ทั้งทหารมตำรวจ ฝ่ายปกครอง กระทรวงมหาดไทย ที่ช่วยกันทุ่มเททำงานอย่างหนัก ซึ่งส่งผลต่อชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนเยอะ ทั้งนี้ เรื่องของราคายางที่สูงขึ้นต้องขอขอบคุณ เพราะเราตรึงชายแดนไว้ได้อย่างดีมาก เขาเข้าทางอ.สังขะบุรี ไม่ได้ ก็ไปเข้าทางอ.แม่สอด เข้าที่อื่นก็ไม่ได้ และล่าสุดรู้สึกจะไปที่จ.ระนอง ขอฝากทางกองทัพดูด้วย เชื่อว่ามีการพูดคุยกันตลอด
“สิ่งเล็กๆ น้อยๆ ในสายตาของสาธารณชน ไม่ค่อยเป็นประเด็น แต่ถ้าเราปิด ไม่ให้ยางเถื่อนเข้ามาได้ส่งผลให้ราคายางขึ้น 3-4 เท่า ถือเป็นเหตุผลเดียวก็ว่าได้ เพราะเราเป็นผู้ค้ายางระดับใหญ่ของโลก ชีวิตความเป็นอยู่พี่น้องประชาชน เรามีพื้นที่ยางกว่า 25 ล้านไร่ หากเราบริหารจัดการได้ดีไม่มีของเถื่อนเข้ามา ชีวิตความเป็นอยู่พี่น้องจะดีขึ้น ขอบคุณกองทัพ กระทรวงการคลัง กรมศุลกากร ทำงานกันอย่างใกล้ชิดตรงนี้เราต้องให้ความสำคัญอย่างมาก
"ส่วนเรื่องยาเสพติดเราทำกันได้ดีจับได้มากกว่าปีก่อนๆ 3-4 เท่า แต่เรื่องน่าเศร้าราคายาต่อเม็ดไม่ขึ้น แสดงว่าซัพพลายเข้ามาเยอะมาก เป็นเรื่องที่เราต้องยอมรับว่าปวดหัว ทางเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (เลขาธิการ ป.ป.ส.) ก็มาด้วย จึงขอฝากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหลายไม่ว่าทหาร ตำรวจ และหน่วยงานความปกครอง ช่วยกันหน้าที่ให้หนักขึ้น ให้สมกับการประกาศปัญหายาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติให้มีผลเป็นรูปธรรมภายใน 90 วัน และทำให้ยาเสพติดหมดไป จัดการกับลูกค้ารายใหญ่ และรายย่อยให้ราบคาบ รวมถึงบำบัดลูกหลานที่ติดยาให้สำเร็จไปด้วยกัน ยืนยันจะเป็น 1 เม็ดหรือครึ่งเม็ดก็ตาม ถ้ามีจุดมุ่งหมายในการขายจับหมดเรื่องนี้ยืนยัน แต่ถ้าเป็นผู้เสพแล้วเข้ามามอบตัวแล้วก็ปรับให้เป็นผู้ป่วยรักษา ตรงนี้เป็นนโยบายหลัก ที่ได้ดำเนินการมา และเป็นเรื่องสำคัญ
นายกฯ กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องการค้าขายชายแดน ผู้ว่าราชการจังหวัดบอกว่ามีการพัฒนาคมนาคมไม่ว่าจะเป็นรถไฟ ถนนที่มีการลงทุนไปเป็นหมื่นเป็นแสนล้านบาท ลดระยะเวลาการขนส่งสินค้าตามชายแดน ทั้งกาญจนบุรี และหนองคาย ข้ามไป สปป.ลาวไปจีน สามารถร่นระยะเวลาไปเยอะจากการที่มีรถไฟใหม่ ไม่ว่าจะเป็นรางคู่หรือรางไฟฟ้าลดระยะเวลาไปได้ 3-4 ชั่วโมง หากถึงชายแดน ถ้าเสียเวลาตรวจสินค้า บางทีพ้นเวลาก็ข้ามคืนไปขนส่งไม่ได้ จึงเชื่อว่าตรงนี้ เป็นอะไรที่เราต้องให้ความสำคัญ ฉะนั้นนโยบายหลักของตน จะทำอย่างเป็นระบบ One Stop Service โดยให้กรมศุลกากรนำร่อง แต่ต้องขอความร่วมมือ จากทุกหน่วยงานด้วย อยากให้สำเร็จในเดือนก.ย.นี้ เพื่อให้สอดคล้องกับการที่เราพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานไปพร้อมๆกัน ตนเข้าใจว่าภารกิจหลักมีหลายมิติ ทั้งด้านโครงสร้างพื้นฐาน น้ำ เกษตรกรรม ยาเสพติด การท่องเที่ยว เป็นภารกิจใหญ่จริงๆ แต่ขอขอบคุณในช่วง 3-4 เดือนที่ผ่านมา หน่วยงานด้านการปกครอง ความมั่นคง และตำรวจช่วยกันอย่างเต็มที่.